เตรียมผลักดันเสือโคร่งเข้าป่าลึก ห้ามชาวบ้านเข้าป่าเขาแหลม-ทองผาภูมิ

กาญจนบุรี 29 ม.ค. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ร่วมกับตำรวจตรวจที่เกิดเหตุเสือโคร่งทำร้ายชาวบ้านปิล๊อกคี่ บาดเจ็บสาหัส พบมูลเสือโคร่ง ร่องรอยการต่อสู้ เตรียมผลักดันเสือโคร่งเข้าป่าลึก ออกประกาศห้ามเข้าป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต


นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า มอบหมายให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นายสัตว์แพทย์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินทางตรวจที่เกิดเหตุเสือโคร่งกัดชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่เมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) นายหวาน ไม่ทราบนามสกุล อายุ 46 ปี ชาวกะเหรี่ยง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ถูกเสือโคร่งกัด บริเวณป่าห้วยสะมะท้อในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมซึ่งเป็นเขตติดต่ออุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจนได้บาดเจ็บสาหัส

ทั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่เดินทางโดยเรือยนต์จากอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณมายังหมู่บ้านปิล๊อกคี่ แล้วเดินทางโดยรถยนต์เข้าไปในป่าในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมอีก 5 กม. จากนั้นเดินเข้าไปในป่าลึกอีก 4 กม. เมื่อตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพบวัตถุพยานดังนี้


  1. รองเท้าหุ้มส้น 1 คู่ เปื้อนคราบเลือด
  2. ซองใส่มีดพก (ไม่พบมีด)
  3. คราบเลือดหยดบนใบไม้และพื้นดินเป็นทางยาวระยะทางประมาณ 100 เมตร
  4. ร่องรอยพื้นที่ลักษณะมีการต่อสู้
  5. พบซากควาย 2 ซาก ไม่ทราบเพศ อายุประมาณ 2-3 ปี ถูกกัดกิน ตายไม่ต่ำกว่า 20 วัน
    6 มูลเสือใกล้เคียงซากควาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปิล๊อก เก็บวัตถุพยานหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย

นายนิพนธ์กล่าวว่า หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมออกประกาศห้ามบุคคลใดเข้าไปในพื้นที่ป่าบริเวณลำห้วยปิล็อก สะมะท้อ และบริเวณป่าใกล้เคียงในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ส่วนหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิเตรียมออกประกาศเช่นกันเดียวกัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน หากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 20 ระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาทและมีความผิดฐานขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้นในระยะ 3 เดือนนี้ หากบุคคลใดมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมและอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิให้ขออนุญาตจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหรือหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิก่อนทุกครั้ง เพื่อจะจัดให้มีเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าคอยติดตามระวังภัยให้ นอกจากเจ้าหน้าที่อุทยานเตรียมผลักดันเสือโคร่งดังกล่าวเข้าไปในเขตป่าลึกเพื่อให้อยู่ตามวิธีธรรมชาติของสัตว์ป่าเป็นการเกื้อกูลระบบนิเวศตามธรรมชาติต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย