ระยอง 29 ม.ค.- มาตามคาด คราบน้ำมันดิบซัดเข้าหาดแม่รำพึง ตั้งแต่เมื่อคืนผ่านมา ผู้ว่าฯ ระยองประกาศชายหาดแม่รำพึงเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลชั่วคราว เจ้าหน้าที่เร่งนำอุปกรณ์เครื่องมือกำจัดคราบน้ำมัน
เป็นไปตามคาดการณ์ไว้คราบน้ำมันดิบที่รั่วไหลลงทะเลระยอง มีบางส่วนถูกคลื่นทะเลพัดเข้าสู่ชายหาดแม่รำพึง จังหวัดระยอง ตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา สำหรับคราบน้ำมันที่พบลอยขึ้นมาเกาะติดชายหาดแม่รำพึง ลักษณะเป็นฝุ่นเขม่าขี้เถ้าสีดำ ไม่มีกลิ่นเหม็น พบเกาะติดตามชายหาดประปราย นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ลงพื้นที่ตรวจสอบคราบน้ำมันตามแนวชายหาดแม่รำพึง ขณะนี้ชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังคราบน้ำ ยังไม่ทราบปริมาณของคราบน้ำมัน แต่ยืนยันว่าฝุ่นเขม่าคราบสีดำน่าจะเป็นคราบน้ำมันดิบของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) ที่รั่วลงในทะเลเมื่อกลางดึกวันที่ 25 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา มีลักษณะเป็นฝุ่นเขม่า เชื่อว่าน่าจะเป็นคราบน้ำมันที่ถูกฉีดพ่นสารเคมีกำจัดจนโมเลกุลย่อยสลายแล้ว ลอยอยู่บนผิวน้ำทะเลและถูกคลื่นพัดลอยเข้ามาติดชายหาด วันพรุ่งนี้จะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ขจัดคราบน้ำมันเหล่านี้ทันที พร้อมประกาศให้พื้นที่ชายหาดแม่รำพึงตลอดแนว เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และประกาศเตือนห้ามประชาชน นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลเป็นอันขาด ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา มีการตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์ฉุกเฉิน ขึ้นที่ชายหาดแม่รำพึงใกล้กับลานหินขาวหินดำ มีการจัดวางกำลังทั้งในทะเลและบนฝั่งเฝ้าระวังคราบน้ำมันดิบขึ้นชายหาดตลอดทั้งคืน
ด้านนายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กล่าวว่า หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ยังติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ ประสานกับกรมควบคุมมลพิษ โดยศูนย์ควบคุมมลพิษจังหวัดระยอง กองจัดการคุณภาพน้ำ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) เก็บตัวอย่างน้ำทะเลบริเวณชายหาด วิเคราะห์สารโลหะหนักและปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอน 6 จุด ได้แก่ หาดพยูน หาดน้ำริน หาดไออาร์พีซี หาดภายในค่ายมหาสุรสิงหนาท (ร.พัน.7) ที่ระยะห่างจากฝั่ง 10 เมตรและ 100 เมตร รวมถึงหาดแม่รำพึง ซึ่งผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำภาคสนามทั้ง 6 จุด ในช่วงบ่าย ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยังไม่พบคราบน้ำมันบริเวณชายหาด ส่วนการตรวจสอบคราบน้ำมันในทะเลพบว่า แผ่ขยายกว้าง โดยแบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ ฟิล์มน้ำมันสีเงินจากพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร แผ่ขยายเป็น 14.2 ตารางกิโลเมตร อีกลักษณะคือ น้ำมันสีน้ำตาลเข้ม จากพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร แผ่ขยายเป็น 1.3 ตารางกิโลเมตร โดยอยู่ห่างจากฝั่ง 7.82 กิโลเมตร
นายละม่อม บุญยงค์ ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านปากน้ำระยองบ้านเรา กล่าวว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กลุ่มประมงพื้นบ้านระยองอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วลงทะเลเมื่อปี 2556 ส่งผลกระทบต่ออาชีพประมงพื้นบ้านชายฝั่งมาแล้วอย่างหนัก สภาพแวดล้อมในท้องทะเลถูกทำลาย จนถึงปัจจุบันผ่านไปถึง 9 ปี ก็ยังไม่ฟื้นกลับมาเหมือนเดิม พร้อมขอให้บริษัทต้นเหตุดูแลช่วยเหลือประมงพื้นบ้านอย่างจริงจัง เพราะเดือดร้อนและได้รับผลกระทบโดยตรง เช่นเดียวกับกลุ่มแม่ค้าอาหารทะเลสดระยอง เรียกร้องให้บริษัทออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะเริ่มขายอาหารทะเลไม่ได้แล้ว คนซื้อกังวลสารพิษคราบน้ำมัน
การเคลื่อนไหวของกลุ่มประมงพื้นบ้านครั้งนี้ ยังมีสมาชิกจากพรรคก้าวไกลระยอง ออกมาร่วมแสดงความคิดเห็น โดยขอให้มีการตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่ายแก้ปัญหาและพิจารณาชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ.-สำนักข่าวไทย