กรุงเทพฯ 29 ม.ค.- รมว.ทส. ระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล จ.ระยอง ต่อไปอีก 1-2 ปี เนื่องจากสารเคมีที่ใช้กำจัดคราบน้ำมันอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงห่วงโซ่อาหารของสัตว์ทะเล ซึ่งบริษัทเจ้าของท่อน้ำมันต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการจำกัดความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลใต้ทะเลและเตรียมแผนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมไว้แล้ว เนื่องจากอาจเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงห่วงโซ่อาหารของสัตว์ทะเลได้ ผลกระทบอาจยังไม่ปรากฏในเร็ววันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเฝ้าสังเกตุการณ์ทั้งระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน และ 1-2 ปี
ทั้งนี้สาร Dispersant ซึ่งเป็นสารเคมีสำหรับกำจัดคราบน้ำมัน จะออกฤทธิ์ให้น้ำมันบางส่วนละลายลงน้ำ แม้ไม่มีส่วนใดตกตะกอน แต่น้ำมันที่ละลายจะส่งผลให้น้ำมีสารปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำที่ใกล้ผิวน้ำอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำ แต่จำเป็นต้องใช้เพื่อจำกัดความเสียหาย ซึ่งกรมควบคุมมลพิษกำกับดูแลการใช้อย่างเคร่งครัด ย้ำว่า บริษัทเจ้าของท่อน้ำมันต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายวราวุธกล่าวต่อว่า ได้ประสานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้เข้มงวดกวดขันสิ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติทางทะเลเช่น สิ่งก่อสร้างรุกล้ำและการประกอบกิจการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก.-สำนักข่าวไทย