รับขวัญช้าง “พังจิ๋ม” สู่บ้านหลังใหม่

ขอนแก่น 28 ม.ค. – สวนสัตว์ขอนแก่น จัดงานบายศรีรับขวัญช้างและเลี้ยงอาหารให้กับช้าง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และผู้บริหารสวนสัตว์ขอนแก่น ร่วมงานรับขวัญช้าง “พังจิ๋ม” สู่บ้านหลังใหม่ ณ ส่วนจัดแสดงช้างเอเชีย


ที่สวนสัตว์ขอนแก่น อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น จัดงานบายศรีรับขวัญช้างและเลี้ยงอาหารให้กับช้าง โดยมีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธี โดยมีคณะผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ และผู้บริหารสวนสัตว์ขอนแก่น ร่วมงานรับขวัญช้าง “พังจิ๋ม” สู่บ้านหลังใหม่ ณ ส่วนจัดแสดงช้างเอเชีย

นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า สวนสัตว์ขอนแก่นได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลมาก่อสร้างส่วนจัดแสดงสำหรับช้างเอเชีย และดำเนินการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2563 สำหรับช้างที่จะนำมาจัดแสดงยังสวนสัตว์ขอนแก่น มีจำนวน 1 เชือก เพศเมีย มีชื่อว่า พังจิ๋ม เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2524 ซึ่งองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในขณะนั้นได้ทำการซื้อพังจิ๋มมาจากนายหลำ อยู่ฤทธิ์ ต.ท่าเสา อ.ไทรโยคน้อย จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2525 โดยตอนที่ซื้อมามีอายุ 1 ปี


พังจิ๋ม มีลักษณะนิสัยสุภาพ เชื่อฟังดี โดยเฉพาะคนเลี้ยง หรือผู้ที่เข้าหาอย่างเป็นมิตร น้ำหนักประมาณ 2.8 ตัน หรือ 2,800 กิโลกรัม อาหารที่ชอบ กล้วยน้ำว้า อ้อย หญ้าสด และผลไม้ตามฤดูกาล ปัจจุบัน พังจิ๋ม มีอายุ 40 ปี พังจิ๋ม ถูกนำไปจัดแสดงอยู่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี ต่อมา พังจิ๋ม ได้ย้ายไปจัดแสดงที่สวนสัตว์ดุสิต และหลังจากที่สวนสัตว์ดุสิตปิดตัวลง ทางองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ก็ได้นำพังป้าจิ๋มไปฝากไว้ที่โครงการคชอาณาจักร จังหวัดสุรินทร์ จนกระทั่งสวนสัตว์ขอนแก่นได้ก่อสร้างส่วนจัดแสดงช้างเอเชียเสร็จ ทางคณะกรรมการพิจารณาจัดหาสัตว์ขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ จึงเห็นควรนำมาจัดแสดงไว้ที่สวนสัตว์ขอนแก่น เพื่อให้นักท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงได้ชม

นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น กล่าวว่า ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันดีที่สวนสัตว์ขอนแก่นได้จัดให้มีพิธีบายศรีสู่ขวัญ ต้อนรับช้าง “พังจิ๋ม” สู่บ้านหลังใหม่ โดยได้เชิญหมอสู่ขวัญ นายมีชัย สุดาทิพย์ ทำพิธีในรูปแบบประเพณีชาวอีสาน อัญเชิญเหล่าเทพเทวดารับขวัญช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมทั้งจัดพานบายศรีพร้อมเครื่องบวงสรวง หญ้าเนเปียร์ แตงโม กล้วย อ้อย มันแกว สับปะรด หลากหลายชนิดที่พังจิ๋มชื่นชอบกินอย่างเต็มที่

ผู้ที่สนใจสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมสัมผัสกับ “พังจิ๋ม” ได้ที่สวนสัตว์ขอนแก่น อ.เขาสวนกวาง หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและประชาสัมพันธ์ โทร. 086-459-4192 หรือเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางโซเชียลมีเดีย www.facebook.com/สวนสัตว์ขอนแก่น และทางเว็บไซต์ของสวนสัตว์ขอนแก่น www.khonkaenzoo.com. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก