อุบลราชธานี 27 ม.ค.- งานเข้า! เทศบาลนครอุบลราชธานี ทาสีทางม้าลายใหม่วันเดียว แม่ค้าเอาโต๊ะไปวางขายของทับเส้น จนเกิดกระแสดราม่า เทศบาลยอมรับเป็นข้อตกลงที่อนุโลมให้คนในชุมชนนำรถเข็นวางของกินขายได้ในช่วงเช้า แต่ห้ามทับเส้นม้าลายเด็ดขาด สุดท้ายโดนปรับไป 500 บาท
กรณีมีการแชร์ภาพพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งโต๊ะขายอาหาร บริเวณทางม้าลายที่เทศบาลนครเพิ่งทาสีใหม่ คนละฝั่งกับหน้าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวไปสอบถามทั้งพ่อค้าแม่ค้าและผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้น ระบุว่ามีการค้าขายทั้งรถเข็น และเอาโต๊ะมาตั้งในช่วงเช้าแก่ญาติที่มาเฝ้าไข้ หรือให้คนไข้ที่มาหาหมอ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมานานหลายสิบปี โดยจะขายตั้งแต่เช้ามืดถึงไม่เกิน 7.00 น. ซึ่งเป็นการอนุโลมให้คนชุมชนรอบโรงพยาบาลประกอบอาชีพ และให้บริการแก่ผู้ต้องการซื้อของไปกิน
ส่วนกรณีที่มีการนำโต๊ะมาวางทับเส้นทางม้าลายก็เป็นที่เดิมที่ทางม้าลายลบเลือนหายไป และแม่ค้ารายนี้เคยมาก่อน เมื่อทาสีให้เห็นชัดเจนคงมาวางขายทับไม่ได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวันแรกที่แม่ค้าไม่รู้ และการที่เทศบาลทาสีใหม่ก็เป็นเรื่องดี เพราะบริเวณนี้จะมีคนพลุกพล่านเดินข้ามถนนตลอดทั้งวัน
ด้านนายธรธรรม์ ชินโกมุท รองนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า สืบเนื่องจากกระแส ส.ต.ต.ที่ขี่รถบิ๊กไบค์ชนแพทย์หญิงจนเสียชีวิตขณะเดินข้ามทางม้าลาย ทำให้ น.ส.พิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ซึ่งมีการจราจรหนาแน่นช่วงชั่วโมงเร่งด่วน มีนโยบายให้สำนักช่างเทศบาลนำสีแดง-ขาว มาทาบริเวณทางม้าลายเดิมที่ลบเลือนจากสภาพการใช้งาน และเปลี่ยนจากสีขาว-ดำ เป็นขาวแดง ให้ผู้ใช้ถนนมองเห็นได้เด่นชัดจากระยะไกล เพื่อหยุดรถให้คนเดินเท้าได้ทันลดการเกิดอุบัติเหตุและโศกนาฏกรรมทางถนน
โดยเริ่มในจุดที่มีรถแล่นหนาแน่น อาทิ หน้าโรงพยาบาลประจำจังหวัด หน้าโรงเรียน และสถานศึกษาเป็นลำดับแรก ก่อนจะขยายไปทั่วเขตเทศบาลในปีนี้
และมีข้อตกลงระหว่างเทศบาลกับคนชุมชนหน้าโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อนุโลมให้รถเข็นขายอาหารได้ในช่วงเช้าถึงตอนสาย เพื่อให้ประกอบอาชีพได้ แต่กรณีมาวางของทับเส้นทางม้าลายถือว่าผิดกฎหมายจราจร เจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับไป 500 บาท และขอให้เว้นทางม้าลายเอาไว้ห้ามตั้งขายของเด็ดขาด
จากการสอบถามผู้คนที่ผ่านไปมา มองว่าการทาสีของเทศบาลฯ ทำให้ผู้ใช้ถนนมองเห็นได้เด่นชัดขึ้น คาดหวังว่าผู้ขับขี่จะหยุดรถให้คนเดินเท้า และสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุได้จริง.-สำนักข่าวไทย