fbpx

โจ๋เลือดร้อนยกพวกรุมยำ 30 ต่อ 3 เหตุเพราะปาดหน้า

กรุงเทพฯ 27 ม.ค.-วัยรุ่นย่านประชาอุทิศ เลือดร้อนยกพวกรุมยำ 30 ต่อ 3 เหตุเพราะมองหน้า หลังขี่รถจักรยานยนต์ปาดเข้าซอย


เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งภายในซอยประชาอุทิศ 33 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน กำลังจับกลุ่มคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 3 ราย ทราบชื่อ คือ นายต้อง อายุ 25 ปี มีบาดแผลบริเวณแขนและข้อมือ คนที่สอง ชื่อ นายกาญนิธิ อายุ 28 ปี มีบาดแผลที่ศีรษะ และคนที่ 3 คือ นายศุภกรณ์ อายุ 26 ปี มีบาดแผลจากของมีคมเป็นทางยาวที่สีข้างด้านซ้าย อาสาสมัครจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย จะไปตรวจเช็กร่างกายที่โรงพยาบาล ก่อนแจ้งความที่ สน.

สอบถาม นายกาญนิธิ อายุ 28 ปี ผู้บาดเจ็บซึ่งโดนหินทุบที่ท้ายทอย บอกว่า ตนกับเพื่อนนั่งดื่มกินกันอยู่ที่จุดเกิดเหตุ จากนั้นมีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ปาดเข้าไปในซอย แล้วหันมามองหน้า ตนจึงตามไปสอบถามแต่ก็เคลียร์กันจบแล้ว สักพักวัยรุ่นคนดังกล่าวพาพวกมากว่า 30 คน มารุมทำร้ายพวกตน ตอนชุลมุนพวกตน โดนทั้งหิน เก้าอี้ และขวด ทุบที่หัว ส่วนเพื่อนโดนที่แขน และลำตัว บาดเจ็บ


นาย ศุภกรณ์ อายุ 26 ปี ผู้บาดเจ็บซึ่งโดนแทงที่ข้างลำตัว บอกว่า มีวัยรุ่นมาแล้วเราขี่รถสวนกัน เหมือนปาดกัน แต่ก็ขอโทษกันจนจบไปแล้ว แต่อยู่ดีๆ กลับมาพร้อมพกปืนมาด้วย ตนยอมรับว่าตอนนั้นตบหน้าวัยรุ่นคนดังกล่าวไปหนึ่งทีเพราะโดนชักปืนใส่

ด้าน น.ส.ปอ อายุ 25 ปี ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะนั่งกันอยู่ในกลุ่ม จู่ๆ มีรถมอเตอร์ไซค์จะขี่เข้าไปข้างในแล้วหันมามองหน้า พูดอะไรสักอย่าง เพื่อนจึงเดินเข้าไปถาม แต่ก็จบ คุยกันรู้เรื่อง และมีการขอโทษกัน แต่ทางฝั่งนั้นไม่จบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพบาดแผลของผู้บาดเจ็บ พร้อมเก็บอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ก่อนเกลี้ยกล่อมให้แยกย้ายกันกลับที่พักเพื่อป้องกันการกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ทั้งนี้จะเร่งสืบหากลุ่มผู้ก่อเหตุ ก่อนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล จะเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน