นครพนม 25 ม.ค.-ไกด์นำเที่ยวโพสต์บิลเมนูอาหารร้านดังสุดแพง 20 รายการ ทะลุกว่า 30,000 บาท เจอน้ำกระเพาะปลาหม้อละ 5,000 บาท ปีกไก่ทอดจานละ1,000 บาท ด้านร้านอาหารชี้แจง ใช้วัตถุดิบคุณภาพ
กรณี ลูกค้าร้านอาหารชื่อดัง คือ นายเกียรติภูมิ ศิริวรเดชกุล อายุ 54 ปี อาชีพไกด์นำเที่ยว โพสต์บิลรายการคิดค่าอาหารเครื่องดื่ม ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม หลังมีการนำเพื่อนไปจัดเลี้ยงพบปะสังสรรค์ เมื่อเย็นวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา มีการสั่งอาหารแบบเหมาจ่าย มีเพื่อนร่วมคณะประมาณ 30 คน แต่พอเช็กบิลค่าใช้จ่ายพบว่า มีการคิดค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่มบางรายการ แพงเกินความเป็นจริง รวมบิลทั้งหมดเป็นเงิน 31,501 บาท
รายการที่ผิดปกติ เช่น กระเพาะปลาน้ำแดง หม้อละ 5,000 บาท ค่าน้ำแข็งแช่เบียร์ 1,000 บาท ปีกไก่ทอด 2 จาน ราคา 2,000 บาท ทั้งนี้การสั่งเมนูอาหาร ขั้นต่ำราคาเหมาจ่าย เมนูละ 2,000 บาท โดยไม่ได้ติดใจเรื่องราคา เพราะเป็นการเหมาจ่าย แต่ติดใจเรื่องปริมาณอาหารที่น้อยเกินความเป็นจริง จึงต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องออกมาตรวจสอบ และให้ร้านอาหารดังกล่าวปรับปรุงแก้ไข เพราะเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ของจังหวัดนครพนม
นายเกียรติภูมิ คนโพสต์บิลเมนูอาหารสุดแพง และคณะเพื่อน กล่าวว่า ตนในฐานะชาวนครพนม ทำงานไกด์นำเที่ยวด้วย กรณีที่นำเมนูบิลอาหารแพงมาโพสต์ไม่มีเจตนาที่จะทำลายใคร หรือไม่พอใจใครส่วนตัว แต่นึกถึงภาพรวมของจังหวัดนครพนม เมืองท่องเที่ยวที่หลายคนสนใจมาเที่ยวพักผ่อน แต่มีบางร้านฉวยโอกาสขึ้นราคาอาหาร เครื่องดื่มลูกค้า ตนจึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมาตรวจสอบแก้ไข ป้องปราบไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของจังหวัดนครพนม
ด้านเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม คู่กรณี ยืนยันว่ามีการตกลงราคากันก่อนที่ลูกค้าจะมาจัดเลี้ยงที่ร้าน ตามราคาที่ระบุตามบิล ซึ่งร้านใช้วัตถุดิบทำอาหารที่มีคุณภาพราคามาตรฐาน และไม่มีเจตนาฉวยโอกาสขึ้นราคา คิดราคาแพงเกิน อาจจะมีความผิดพลาดเรื่องปริมาณ หรือการจัดเมนู โดยพร้อมจะเจรจากับลูกค้า ลดราคาให้ตามสัดส่วน และพร้อมจะไม่คิดเงินที่เหลือหากลูกค้าไม่พอใจ ย้ำว่าทางร้านไม่เคยคิดฉวยโอกาส แต่อาจมีความผิดพลาดในการคิดราคา และพร้อมจะดูแลลูกค้าทุกท่าน หากผิดพลาดขอกราบขอโทษลูกค้า และพร้อมจะร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้จังหวัดนครพนม ส่วนบิลที่คิดเงินลูกค้าระบุว่าแพง จะตรวจสอบพิจารณาตามความเป็นจริง ยอมรับในความผิดพลาด .-สำนักข่าวไทย