จำคุกเจ้าของเนอสเซอรี-พี่เลี้ยง เหตุ “น้องนาวา” เสียชีวิต

สมุทรปราการ 20 ม.ค.-ศาลฎีกา พิพากษายืนจำคุก 3 ปี เจ้าของเนอสเซอรี-พี่เลี้ยง “น้องนาวา” โดยไม่รอลงอาญา และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้คำสินไหมทดแทน 820,000 บาท


ที่ห้องพิจารณาคดี 8 ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการจังหวัด และ น.ส.วราลี เสริมจันทร์ แม่น้องนาวา เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางกมลวรรณ จีนจะโปะ จำเลยที่ 1 เจ้าของเนอสเซอรีแห่งหนึ่ง ใน ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ข้อหาดำเนินกิจการสถานรับเลี้ยงโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วนนางอัมพร ดาวเรรัมย์ ครูพี่เลี้ยง จำเลยที่ 2 ข้อหาร่วมทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

เหตุดังกล่าวคือเรื่องที่ น้องวาวา เด็กชายวัย 11 เดือน เสียชีวิตปริศนา หลังจากพาไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี ครูอ้อ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 และพี่เลี้ยงอ้างว่า น้องนาวา ขาดอากาศหายใจจากผ้าอ้อมปิดหน้า แต่เมื่อผลชันสูตรออกมา กลับพบว่ากระดูกซี่โครงหักถึง 3 ซี่ อวัยวะภายในปิด และ ตับ ม้าม คั่งเลือด เซลล์สมองมีลักษณะเสื่อมและตายบางตัว ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การขอจำเลยทั้ง 2 คน ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย


จากนั้นในวันที่ 30 เมษายน แม่ของน้องนาวา ร้องขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ช่วยเร่งรัดคดี จนนำไปสู่การฟ้องศาล และต่อมาเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ศาลอุธรณ์ภาค 1 พิพากษา จำเลยทั้งสองผิด ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตามฟ้อง ให้จำคุกคนละ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญาและให้จำเลย ทั้งสองร่วมกันชดใช้คำสินไหมทดแทนเป็นเงิน 820,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2561 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 จากนั้นนางกมลวรรณ จำเลยที่ 1 ยื่นสู้คดีในชั้นฎีกา ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้วว่าจำเลยทั้งสองมีเหตุสมควรไม่ให้ลดโทษ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

น.ส.วราลี แม่น้องนาวา กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ในเรื่องของคดี พอใจในคำตัดสินของศาล และดีใจที่เห็นผู้ต้องหาเข้าไปชดใช้กรรมในเรือนจำ ส่วนเรื่องค่าชดเฉยนั้นตนเองมองว่าน้อยเกินไป กับการที่ต่อสู้คดีนานานหลายปี เมื่อศาลท่านตัดสินแล้วก็ต้องยอมรับต้อง พร้อมขอขอบคุณมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี และสื่อมวลชน ผู้เกี่ยวของทุกคนที่ติดค่อยติดตามเรื่องคดีมาโดยตลอด เชื่อว่าอย่างไรผู้ต้องหาก็ต้องติดคุก จึงอยากบอกกับลูก ว่าเราได้รับความยุติธรรมแล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง