fbpx

นักท่องเที่ยวสาวรัสเซียแจ้งความถูกทำร้ายที่จุดชมวิวสมุย

สุราษฎร์ธานี 4 ม.ค. – นักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียขึ้นโรงพักแจ้งความถูกคนดูแลจุดชมวิวสมุยทำร้าย ปมเงิน 50 บาท คู่กรณีโต้กลับที่ส่วนบุคคล ต้องเสียเงินค่าเข้า แต่ผู้เสียหายไม่ยอมจ่าย ยืนยันถูกตบบ้องหูก่อน


คลิปโต้คารมดุเดือดระหว่าง น.ส.เอกาเทลินา คูซเมนโก นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย อายุ 33 ปี กับนายมังกร อายุ 57 ปี ชายไทยที่ดูแลสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีแฟนหนุ่มชาวรัสเซียของ น.ส.เอกาเทลินา กำลังพยายามหย่าศึกปะทะในครั้งนี้ แต่ระหว่างที่กำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น นายมังกรได้ยกขาเตะชายโครงซ้ายของนักท่องเที่ยวสาวเข้าอย่างจัง จนเธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกัน เหตุเกิดที่จุดชมวิวแห่งหนึ่งใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา

สอบถามเบื้องต้นทราบว่า จุดชมวิวดังกล่าวต้องเสียค่าผ่านทางและค่าเข้าพื้นที่ คนละ 50 บาท แต่ผู้เสียหายและแฟนหนุ่มไม่ได้จ่าย เป็นเหตุให้คนที่เรียกเก็บเงินโมโห และเดินมาข้างหลังของผู้เสียหายแล้วกระชากสร้อยคอและแว่นตากันแดด จนทรัพย์สินเสียหายประมาณ 30,000 บาท ก่อนที่คนดูแลจะเตะเข้าที่ชายโครง และทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บที่แก้มซ้าย รวมทั้งบริเวณดั้งจมูก


จากนั้นนักท่องเที่ยวผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ่อผุด บอกว่า ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์ท่องเที่ยวรอบเกาะ และเห็นรีวิวจุดชมวิวบนก้อนหินก้อนใหญ่อยู่บนเขา จึงไปตามแผนที่ ตั้งใจมาถ่ายรูปและชมวิวในเวลาเย็น แต่ไม่คิดว่าต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ตนเองรู้สึกเจ็บ หวาดกลัว ไม่คิดว่าผู้ชายไทยจะมาทำร้าย ตนเองมาท่องเที่ยว ไม่ได้มาต่อสู้ ก็อยากท่องเที่ยวเก็บความสวยงามของเกาะสมุย หลังเกิดเหตุได้ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยว โดยมาเที่ยวเกาะสมุยเป็นครั้งแรก หลังจากนี้ไม่อยากมาเที่ยวอีกแล้ว เพราะกลัว ถ้ามาก็จะไม่ไปที่นั่นอีก ส่วนอาการบาดเจ็บ ได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เสียค่าเอกซเรย์และค่ายา เป็นเงิน 5,920 บาท

ด้านนายมังกร คู่กรณีในคลิป และเป็นคนดูแลสถานที่จุดชมวิวดังกล่าว ให้การว่า เก็บค่าผ่านประตูเข้าไปถ่ายรูป มีป้ายเขียนชัดเจนเก็บค่าเข้าคนละ 50 บาท เพราะเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวอยู่ประมาณ 30 คน ทุกคนจ่ายหมด แต่พอคู่กรณีกับแฟนหนุ่มมา กลับไม่ยอมจ่าย จึงเดินไปบอกเขาว่า ที่นี่เป็นที่ส่วนบุคคล ถ้าไม่จ่ายเงินกรุณาออกไปข้างนอก แต่คู่กรณีเดินเข้าไปถ่ายรูป ตนก็เดินตามเข้าไปและสะกิดต้นแขนเขา เขาหันมาแล้วร้องกรี๊ด พร้อมกับตบบ้องหูตน สัญชาตญาณตนก็เลยตบสวนไป จากนั้นก็เป็นไปตามคลิปที่ถูกถ่ายไว้

ทั้งนี้ ตนเรียกเก็บเงินค่าเข้าจุดชมวิวมาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้ว เงินที่ได้จะนำไปเป็นค่าบำรุงรักษา ค่าซ่อมสะพาน ค่าตัดหญ้าในที่ดินดังกล่าว ส่วนที่ดินมีทั้งหมด 11 ไร่ เป็นของเจ้านายคนไทย ตนเป็นคนดูแล อย่างไรก็ตาม ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ ส่วนปมหลอกนายกฯ ยืนยันเป็นตำรวจตัวเล็กจะไปทำกับผู้นำประเทศได้อย่างไร ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบบริหารตำรวจทั่วประเทศ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว