เชียงใหม่ 3 ม.ค. – เลขาฯ ป.ป.ส. ส่งทีมอินทรีย์ 19 พร้อมรถหุ้มเกราะกันกระสุน สนับสนุนไล่ล่าคนร้ายยิง “สารวัตรบอล” เสียชีวิต ขณะที่มีรายงานว่าผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ ไปกบดานอยู่กับเครือข่ายค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ ขณะเข้าปฏิบัติการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ในท้องที่บ้านสันป๋อธง ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 28 ธันวาคมปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ “สารวัตรบอล” หรือ พ.ต.ต.พิบูลพันธ์ สุขุมานนท์ สารวัตรสืบสวน สภ.ฝาง ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลแม่อาย จน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องเดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีด้วยตนเอง
ต่อมาตำรวจ สภ.แม่อาย ขอให้ศาลจังหวัดฝางออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน เป็นชนเผ่าทั้งหมด ประกอบด้วย นายจะเย อายุ 43 ปี ชาวบ้านโป่งใน หมู่ 15 ต.เวียง อ.ฝาง ส่วนอีก 3 คน เป็นชาวบ้านป่าแดงอภิวัฒน์ หมู่ 9 ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย คือ นายอนุชิต อายุ 34 ปี, นายจตุพล อายุ 26 ปี และนายจะยี อายุ 46 ปี ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งได้ปฏิบัติตามหน้าที่, ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธ, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะเดียวกันยังมีรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ในชุดสืบสวนคดีนี้เผยว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดที่มีหมายจับได้หลบหนีออกนอกประเทศไปกบดานอยู่กับเครือข่ายผู้มีอิทธิพล เครือข่ายค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งชุดสืบสวนได้ประสานผ่านกลุ่มต่างๆ เพื่อกล่อมให้กลับมามอบตัว หากไม่มามอบตัวเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนชุดยังมีมาตราการกดดันเพื่อจะจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ตามกฎหมาย
ขณะที่นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทาง ป.ป.ส. ได้ให้การสนับสนุนโดยชุดปฏิบัติการ และชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรีย์ 19 รวม 40 นาย พร้อมรถยนต์หุ้มเกราะกันกระสุน 3 คัน ซึ่งชุดปฏิบัติการอินทรีย์ 19 เป็นชุดปฏิบัติการที่ได้รับการฝึกฝน มีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธและยุทธวิธีพิเศษ ร่วมปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ อ.แม่อาย ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 5 บช.ปส. และหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังได้ประสานข้อมูลหมายจับทั้ง 4 ราย ไปยังเลขาธิการ ป.ป.ส.เมียนมา (CCDAC) เพื่อขอความร่วมมือในการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับด้วย พร้อมระบุการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล ที่เน้นย้ำการปราบปรามยาเสพติด ที่ต้องบูรณาการร่วมกัน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อทำให้สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ลงพื้นที่บัญชาการไล่ล่าคนร้ายด้วยตัวเอง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามค้นหาตัวคนร้ายในทุกช่องทาง แต่ยังไม่พบ โดยมีมาตรการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย และถ้าจำเป็นก็ใช้ความเด็ดขาดได้เลยทันที
ขณะที่วันนี้ตำรวจภูธรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายร้อยนาย ได้ออกปฏิบัติการเชิงรุกเร่งติดตามตัวคนร้าย โดยมีทหารกองกำลังผาเมือง ทหารพราน ร่วมคุ้มกันชุดตรวจค้น และตำรวจภูธรชุดปฏิบัติการตรวจค้น ชุดปฏิบัติการตรวจหาดีเอ็นเอ ชุดสกัดกั้นแนวชายแดนฯ ออกสืบหาตัวคนร้ายทุกหมู่บ้านใน อ.ฝาง อ.แม่อาย อ.ไชยปราการ ที่คาดว่าจะจะเป็นแหล่งซ่อนตัว โดยวันนี้ได้ออกตรวจสอบ 19 จุดหมาย ในพื้นที่บ้านจะโต๊ะ ต.บ้านหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และนำตัวผู้ต้องสงสัยในหมู่บ้านที่คาดว่ามีแนวร่วมในการก่อเหตุยิงตำรวจเสียชีวิตมาตรวจดีเอ็นเอ ชาวบ้านได้อยู่บ้านปกติ แต่กลุ่มผู้ชายจะหายตัวออกนอกหมู่บ้านเหลือไม่กี่คน ที่เหลือให้ความร่วมมือบ้าง ไม่ให้ความร่วมมือบ้าง บอกว่าพูดไทยไม่ได้ เป็นการยากมากที่จะติดตาม เพราะพื้นที่เป็นป่าเขา มีช่องทางเดินเท้า และถนนที่ใช้รถจักรยานยนต์ได้ มีเส้นทางออกจากหมู่บ้านหลายเส้นทาง สามารถเดินเท้าไปยัง จ.เชียงราย และสามารถออกไปยังประเทศเมียนมาได้ ชุดปฏิบัติการทุกชุดทำงานกันเต็มที่ คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะจับกุมได้หรือไม่ โดยชาวบ้านที่มีเบาะแสให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน.-สำนักข่าวไทย