ชลบุรี 27 ธ.ค. – เหตุไฟไหม้โกดังอัดและเก็บกระดาษรีไซเคิล ของบริษัท ไทย พีส พัลพ์ (ไทยแลนด์) ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่เร่งคุมเพลิงทั้งคืน เนื่องจากยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟด้านในได้ เกรงหลังคาโกดังจะพังลงมาใส่เจ้าหน้าที่
จากกรณีไฟไหม้โกดังอัดและเก็บกระดาษรีไซเคิล ของบริษัท ไทย พีส พัลพ์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 550 ม.3 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าของโรงงานเป็นชาวจีน
ล่าสุดช่วงเวลา 22.00 น. วานนี้ (26 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ และรถดับเพลิงจาก อบจ.ชลบุรี เทศบาล อบต. ใกล้เคียง นำรถดับเพลิงเข้ามาร่วมดับเพลิงอย่างต่อเนื่องกว่า 10 คัน โดยกระจายอยู่รอบๆ ที่เกิดเหตุ รวมทั้งฝั่งบ้านเรือนประชาชนมีรถดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำและสแตนด์บายอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันลมพัดเปลวเพลิง เศษไฟ ปลิวเข้าบ้านเรือนประชาชน ซึ่งไฟยังคงลุกลามรุนแรงอยู่ภายในโกดัง เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปดับไฟด้านในได้ เนื่องจากเกรงหลังคาโกดังจะพังลงมาใส่เจ้าหน้าที่ได้รับอันตราย จึงต้องปล่อยให้ไฟลุกลามเผาไหม้กองกระดาษที่อยู่ภายในจนหมด แต่ยังระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยงภายนอกตัวโกดังอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามออกมาด้านนอก
ในส่วนของกองกระดาษด้านหน้าโกดังที่เกิดไฟลุกไหม้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำรถแบ็กโฮจำนวน 2 คัน มาเกลี่ยกองกระดาษที่ติดไฟอยู่ แล้วใช้น้ำฉีดดับไฟที่ยังไหม้ด้านใต้กองกระดาษ ก่อนจะฉีดน้ำเข้าไปดับไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟปะทุขึ้นมาอีก
ส่วนความเสียหายเบื้องต้น โรงงานถูกไฟไหม้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นโรงงานอัดกระดาษขนาดใหญ่ มีกระดาษที่อัดแล้วกว่า 3,000 ตัน เตรียมส่งออกไปต่างประเทศในวันนี้ (27 ธ.ค.64 ) แต่เกิดเพลิงไหม้เสียก่อน
พนักงานเปิดเผยว่า เกิดจากตัวหม้อแปลงไฟฟ้าภายในโรงงานระเบิดขึ้น ทำให้พนักงานที่เป็นแรงงานต่างด้าวที่กำลังทำงานอยู่ประมาณ 50 คน วิ่งหลบหนีตายกันอย่างโกลาหล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 9 ราย ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง
เบื้องต้นพบว่าเจ้าของโกดังเป็นกลุ่มคนชาวจีนที่เข้ามาลงทุนทำโรงงานรีไซเคิลกระดาษในพื้นที่ศรีราชา ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับโกดังอัดกระดาษที่เกิดไฟไหม้เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 1 กิโลเมตร
จากการตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงโกดัง พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ติดกับโกดังจำนวน 5 หลังคาเรือน มีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 16 คน ได้รับความเดือดร้อนจากความร้อนของเปลวไฟ ควันไฟ และกลิ่นเหม็น
ด้านนางโสภา ศรีภูมิ ชาวบ้านที่อยู่ติดกับที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจที่เกิดไฟไหม้ ทำอะไรไม่ถูก บ้านตนเองอยู่ติดกับโรงงานที่ไฟไหม้ ตอนเกิดเหตุได้ยินเสียงคนงานเอะอะโวยวาย ตนเองจึงออกมาดูเห็นควันไฟลอยขึ้นเต็มไปหมด จึงวิ่งออกมาหน้าบ้านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทันที โดยโรงงานนี้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด บางวันก็ เสียงดังมากเหมือนโรงเลื่อย ฝุ่นก็เยอะ ได้รับความเดือดร้อนมาก.-สำนักข่าวไทย