ตาก 24 ธ.ค. – ชาวอำเภอแม่สอดขวัญผวากลางดึก หลังทหารเมียนมาส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดถล่มกองกำลังเคเอ็นยู ใกล้แนวชายแดน จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ชาวเมียนมานับร้อยคน รีบว่ายข้ามแม่น้ำเมยมาขึ้นฝั่งไทย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ต้องตรึงกำลังเข้มข้นตามแนวชายแดนอำเภอแม่สอด จ.ตาก หลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา สถานการณ์สู้รบระหว่างทหารเมียนมา กับกองกำลังติดอาวุธ “KNLA” และกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยู บริเวณพื้นที่หมู่บ้าน เลเกกอ และหมู่บ้าน มอโท้ตะเล หรือบ้านแม่ทอดตะเล เขตจังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามกับบ้านดอนไชยริมเมย กลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง และรุนแรงมากที่สุดในรอบสัปดาห์
มีรายงานว่า ชาวไทยตามแนวชายแดนต้องผวากลางดึก เพราะได้ยินเสียงเครื่องบินรบบินวนในฝั่งเมียนมา และทิ้งระเบิดขนาดใหญ่หลายลูกถล่มพื้นที่เป้าหมายและหมู่บ้าน “เลเกกอ” กับหมู่บ้าน “มอโท้ตะเล” จนเกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วชายแดน รวมถึงมีรายงานว่าบ้านเรือนในฝั่งไทยรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน
หลังสิ้นเสียงเครื่องบินรบ กองทัพเมียนมาได้เปิดฉากระดมยิงถล่มเป้าหมายทั้ง 2 หมู่บ้านด้วยอาวุธหนัก ทั้ง ปืน ค.81 มม. และปืน ค.120 มม. จำนวนไม่ต่ำกว่า 50 นัด เป็นเวลายาวนานกว่า 2 ชั่วโมง และเมื่อสิ้นเสียงปืน พบความโกลาหลที่แนวตะเข็บริมแม่น้ำเมย เพราะมีชาวบ้านฝั่งเมียนมานับร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง ต่างรีบว่ายข้ามแม่น้ำเมยมาขึ้นฝั่งที่เขตชายแดนแม่สอด
อย่างไรก็ตาม ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 และฝ่ายความมั่นคงได้นำกำลังไปรับตัวชาวเมียนมา ไปรวมไว้ที่บริเวณสนามกีฬาบ้าน “แม่กุใหม่ท่าซุง” ต.แม่กุ อ.แม่สอด ซึ่งเป็นพื้นที่แรกรับปลอดภัย โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยเข้าไปพักอาศัยล่าสุด 223 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เสียงปืนและระเบิดจะเงียบลงในเช้าวันนี้ แต่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ตรึงกำลังเข้ม และเตรียมแพทย์สนามไว้รองรับ หากต้องขนย้ายผู้บาดเจ็บข้ามมารักษายังฝั่งไทยตามหลักสากล นอกจากนี้มีรายงานล่าสุดว่า กองทัพเมียนมาอาจเปิดปฏิบัติครั้งใหญ่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า. – สำนักข่าวไทย