สาวทำทีคุยโทรศัพท์ก่อนฉกทอง สุดท้ายโดนรวบ

สงขลา 23 ธ.ค. – จับโจรสาวว่าที่ร้อยตรีชิงทรัพย์ร้านทองใน ต.ท่าช้าง จ.สงขลา สารภาพต้องการนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบดอกเบี้ยรายวันๆ ละ 2,500 บาท


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านทองกชพรโกลด์ 8 สาขาลพบุรีราเมศร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งวันนี้ที่ร้านทองเปิดให้บริการตามปกติ ลักษณะของร้านไม่มีประตูกระจก ผู้ที่จะมาซื้อทองสามารถเดินเข้าไปถึงเคาน์เตอร์ได้ทันที แต่จะมีเหล็กดัดกั้นระหว่างคนขายกับคนซื้อทอง และจะมีช่องให้สามารถสอดมือเข้าไปได้

ผู้สื่อข่าวได้พบกับนางสาวธัญญาภรณ์ จันทร์ฉายณรุจ อายุ 30 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งนำเอาภาพวงจรปิดทั้งหมดที่บันทึกพฤติกรรมคนร้ายเอาไว้ได้ให้ดู ในภาพจะเห็นคนร้ายเดินเข้ามาในร้าน ใส่ผ้าคลุมของอิสลาม และสวมหน้ากากอนามัย ทำทีเข้ามาเลือกซื้อทองเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเอามือหยิบถุงสร้อยข้อมือทองคำใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง และทำทีเดินคุยโทรศัพท์ ก่อนจะเดินหายไป


นางสาวธัญญาภรณ์ เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ลูกค้าเดินเข้ามาในร้านตั้งแต่เช้า ที่ร้านเปิดประมาณ 9 โมง ทำทีมาขอดูสร้อยข้อมือเส้นละ 2 บาท แต่ที่ร้านไม่มีจึงต้องไปเอาจากอีกร้านมาให้ดู หลังจากนั้นขอถ่ายรูป เพื่อส่งให้ลูกแชร์ดูว่าจะเลือกลายไหน คนร้ายนั่งรออยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง ว่าลูกแชร์ตอบมาแล้วหรือยัง ระหว่างนั้นคนร้ายพยายามชวนคุยไปเรื่อยๆ จนเที่ยง จึงมีการตกลงซื้อขายสร้อยข้อมือ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 3 เส้น ทางร้านจึงชั่งน้ำหนักให้ดู และใส่กล่อง ใส่ถุง เตรียมจำหน่ายให้ลูกค้า แต่จังหวะที่ก้มลงไปหยิบของแถมให้ลูกค้า คนร้ายได้ล้วงมือเข้ามาหยิบถุงใส่ทองไปใส่กระเป๋าเสื้อก่อน และใส่กระเป้ากางเกง จากนั้นก็เดินออกไป

ระหว่างซื้อขายทอง คนร้ายทำทีคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร คิดว่าคงจะคุยโทรศัพท์จริง แต่เมื่อมาตรวจดูของพบว่าสร้อยข้อมือน้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น หายไป จึงไปแจ้งความที่ สภ.บางกล่ำ และมาตรวจสอบย้อนหลังพบว่าคนร้ายคนเดียวกันนี้เคยเอาสร้อยมาขายและจำนำแล้ว 2 ครั้ง แต่ล่าสุดที่มาจะแต่งตัวมิดชิด พยายามปิดบังใบหน้าไม่ให้ทางร้านจำได้

นางสาวธัญญาภรณ์บอกด้วยว่าคนร้ายรายนี้พยายามเข้าไปที่ร้านทองอีกร้านใน อ.หาดใหญ่ แต่เจ้าของร้านเป็นน้าของตนเอง ซึ่งได้ส่งรูปและกล้องวงจรไปให้ดูแล้วจึงจำลักษณะรูปแบบได้ พยายามสอบถามและจับตัวไว้ แต่คนร้ายไหวตัวทัน พยายามหลบหนีและไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่น้าก็ตามไปจนพบและแจ้งตำรวจให้ช่วยกันจำตัวเอาไว้ได้


ทั้งนี้ วันนี้ พ.ต.อ.พงศ์พลิษฐ์ ทองด้วง ผกก.สภ.บางกล่ำ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกล่ำ จับกุมตัว ว่าที่ ร.ต.รอฮานี อายุ 34 ปี ชาวปัตตานี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทอง ซึ่งสามารถจับกุมได้ที่ร้านทองใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ (สร้อยข้อมือทองคำ) ผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าที่ ร.ต.รอฮานี ก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยข้อมือทองคำ 3 เส้น จำนวน 2 บาท ที่ร้านทองกชพรโกลด์ 8 ในพื้นที่บ้านโคกเมา ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา และหลบหนีไป แต่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเอาไว้ได้ทั้งหมด เจ้าของร้านจึงแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บางกล่ำ หลังจากนั้นตำรวจ สภ.บางกล่ำ ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้

คนร้ายรับสารภาพว่าไปกู้นอกระบบมา 30,000 บาท และจ่ายดอกเบี้ยวันละ 2,500 บาท ตอนแรกไม่คิดจะชิงทอง เพียงแค่อยากไปซื้อ เนื่องจากเป็นลูกค้าประจำที่ร้านอยู่แล้ว แต่เมื่อมีโอกาสเหมาะตอนเจ้าของร้านเผลอก็ชิงทองไป ประกอบกับมีคนมาทวงหนี้พอดี เลยก่อเหตุในครั้งนี้ และนำทองที่ได้ไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งย่านหาดใหญ่ ได้เงินมา 50,000 กว่าบาท

ตำรวจเผยพฤติกรรมคนร้ายรายนี้จะทำทีเป็นเท้าแชร์ทอง เพื่อขอดูทองจำนวนหลายเส้น และใช้กลอุบายหลอกให้เจ้าของร้านเผลอ และฉวยโอกาสหยิบทองที่วางอยู่เดินออกจากร้านไป หลังจากนั้นได้เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ร้านข้าวแกง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านทอง และนำเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งใน ร.1 ก่อนเดินกลับบ้านและนำทองไปขายดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ฯ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยืนยันจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาสมควร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความชัดเจนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ว่าหลายๆ อย่างเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยืนยันว่าความชัดเจนในการจัดสรรนิ่ง 100% แล้ว ทุกคนที่มาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีทราบดีถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยจะต้องเริ่มทำงานทันทีหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผย ระบุว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาสมควร ไม่เป็นการก้าวล่วงใดๆ ก็จะรีบเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จะไม่ดำเนินการใดๆ ลับหลังประชาชน และจะให้ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อออกความเห็นให้รัฐบาลได้รับฟัง และรัฐบาลจะได้ปฏิบัติตาม นายอนุทิน ยังยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคน จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อจำกัด จะต้องทุ่มเททำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีทั้งทหาร พลเรือน อส. นายกองใหญ่.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย