ราชบุรี 23 ธ.ค.- ชาวบ้าน อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ขุดเหง้าสับปะรด ที่หมดอายุการเก็บเกี่ยวขายหารายได้ช่วงโควิด-19 ด้านเกษตรแนะนำส่วนเปลือกสามารถนำมาทำปุ๋ยเพิ่มรายได้อีกทาง เตรียมต่อยอดเพิ่มมูลค่า
นางดวงสมร พฤฑฒิกุล เกษตรจังหวัดราชบุรี พร้อมนางสาว ฉันทิดา กระทุ่มแก้ว นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอบ้านคา ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนางมะลิ ไกลวิจิตร ซึ่งครอบครัวและญาติ มีอาชีพปลูกสับปะรดส่งขายตลาดทั่วไปและส่งขายโรงงาน เป็นการปลูกแบบรุ่นต่อรุ่นทุกปี หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ก็จะคงเหลือส่วนที่เป็นรากเหง้า ที่มีอายุนานประมาณ 3-4 ปี เหลือจากการใช้ประโยชน์แล้ว เกษตรกรบางรายก็จะไถกลบ เพื่อเป็นปุ๋ยในรุ่นถัดไป
แต่สำหรับครอบครัวนี้ได้นำเหง้าสับปะรดที่หมดอายุการเก็บเกี่ยวแล้วที่ทิ้งอยู่ตามร่องสวน มาสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยการใช้มีดตัดเหง้านำไปปอกเปลือกออก ให้เหลือแต่ส่วนขาวด้านใน คล้ายหัวเผือกแล้วไปขายโดยภายใน 1 สัปดาห์ ไปเก็บเหง้าสับปะรด 2 วัน จากนั้นนำมาปอกเปลือก 2 วัน จะได้ 200-300 กิโลกรัม ขายกิโลกรัมละ 3.20 บาท มีพ่อค้ามารับซื้อที่บ้าน ขายแต่ละครั้งจะได้เงินพันกว่าบาท ส่วนใหญ่จะไปขอเจ้าของไร่ที่ปล่อยทิ้งแล้ว และไร่ของลูกสาว ไปเหมาซื้อแบบถูกๆ บ้างไร่ละ 500 บาท ช่วงโควิดหยุดอยู่บ้าน ไม่มีอาชีพอื่น นอกจากปอกเหง้าสับปะรดขาย พอมีรายได้เลี้ยงครอบครัว

สำหรับเหง้าสับปะรด มีสรรพคุณทางยา ตามตำราสมุนไพรของแพทย์แผนโบราณ สามารถนำมาทำเป็นยาได้ทุกส่วน เช่น เหง้ามีสรรพคุณขับปัสสาวะ แก้นิ่ว แก้มุตกิด ระดูขาว แก้หนองใน ขับเสมหะ แก้อักเสบ แก้บวม แก้ลักปิดลักเปิด ช่วยย่อยอาหาร บำรุงไต แก้กระษัย ด้วยการใช้เหง้าสดหรือตากแห้งต้มน้ำดื่มวันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร ก็จะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี.-สำนักข่าวไทย