เชียงใหม่ 22 ธ.ค.-เปิดแล้ว เทศกาลท่องเที่ยวแปลงใหญ่ไม้ดอก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ I Love Flower Farm เปิดจองผ่านแพล็ตฟอร์มใหม่ Traveloka ยอดจองพุ่ง 1 หมื่นคน คาดเงินสะพัดในชุมชุนราว 20 ล้านบาท
ที่เชียงใหม่ช่วงนี้หนาวต่อเนื่อง เหล่าดอกไม้ก็บานชูช่อพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว โดยวันนี้เทศกาลท่องเที่ยวแปลงใหญ่ไม้ดอก กว่า 30 แห่ง ที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ เปิดแล้ว ส่วน I Love Flower Farm ก็จะเปิดให้เข้าชมผ่านแพล็ตฟอร์มใหม่ Traveloka ตอนนี้ยอดจองพุ่ง 1 หมื่นคน คาดเงินสะพัดในชุมชุนราว 20 ล้านบาท
ท่ามกลางบรรยากาศหนาวที่พื้นราบเช้าวันนี้ ต่ำสุดอยู่ที่ 15 องศาฯ ทำให้ความสวยงามของดอกไม้กว่า 50 ชนิด โดยเฉพาะดอกมาร์การเร็ต สีม่วง ที่บานชูช่อสวยงามเต็มที่ พร้อมแล้ว สำหรับเทศกาลท่องเที่ยวแปลงใหญ่ไม้ดอก กว่า 30 แห่ง ที่ อำเภอแม่ริม ตำบลเหมืองแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้ ที่จัดขึ้นภายในสวน I Love Flower Farm โดยในปีนี้มี ชื่อธีมว่า “Surround Yourself With Flowers ให้ดอกไม้ล้อมรอบกายคุณ” โดยมีสมาชิกเกษตรกรและหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนเข้าร่วมพร้อมการแสดงโชว์
นางสาวณวิสาร์ มูลทา ประธานแปลงใหญ่ไม่ดอกไม้ประดับ ตำบลเหมืองแก้ว และเจ้าของ I Love Flower Farm กล่าวว่า ปีนี้เปิดช้ากว่าทุกปีเพราะต้องการให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มก่อน เพื่อให้การท่องเที่ยวปลอดภัย ซึ่งธีมในปีนี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติ ของทุ่งหญ้าและให้อารมณ์ความอบอุ่นมากขึ้นด้วยการตกแต่งสวนสไตล์อังกฤษและดอกไม้กว่า 50 ชนิด ส่วนดอกเดซี่นำเข้าจะบานช่วงมกราคม นอกจากนี้ยังนำศิลปะงานคราฟท์ในชุมชนและศิลปินในเชียงใหม่ มาร่วมสร้างผลงาน ทั้งการวาดภาพและงานปั้น ให้ผู้ที่มาชมสวนดอกไม้แล้วได้สัมผัสถึงความประทับใจ ครบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง เพราะเชื่อว่าศิลปะและธรรมชาติเป็นสิ่งที่มีความยั่งยืน และช่วยบำบัดจิตใจที่เหนื่อยล้าให้ดีขึ้นได้ โดยจะเปิดให้เข้าชมในวันที่ 24 ธันวาคมนี้ สามารถจองผ่านแพล็ตฟอร์ม Traveloka ราคา 90 บาท รวมรถรับส่งและเครื่องดื่มแล้ว โดยยอดจองล่าสุดมีกว่า 1 หมื่นคนแล้ว เชื่อว่าหลังจากเปิดตัวรอบสื่อวันนี้จะมียอดจองเพิ่มมากขึ้น
สำหรับตำบลเหมืองแก้ว ยังมีสวนดอกไม้หลากหลาย ให้เข้าไปเยี่ยมชมกว่า 30 แห่ง ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของเกษตรกรที่เข้าร่วมในระบบส่งเสริมเกษตรกรแปลงใหญ่ประมาณ 30 ราย จำนวนพื้นที่ 130 ไร่ ส่วนใหญ่ปลูกดอกพีค็อก,คัตเตอร์และมาร์กาเร็ต ซึ่งเป็นไม้ดอกเศรษฐกิจ ที่ตัดส่งขายทั้งในประเทศและต่างประเทศตามออเดอร์ โดยสามารถเยี่ยมชมได้ทุกสวนภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยในปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมสวนดอกไม้ในชุมชนเหมืองแก้ว วันธรรมดาวันละ 1,000-3,000 คน และในช่วงวันหยุดหรือไฮซีซั่นมีมากถึงวันละ 10,000 คน ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาจำนวนมาก สร้างรายได้ให้สะพัดในชุมชนเหมืองแก้วได้ 15-20 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากการตัดดอกไม้ขายและการท่องเที่ยว หากเทียบกับปีที่แล้วอาจน้อยกว่าหรือใกล้เคียง 20 ล้านบาท ซึ่งต้องประเมินสถานการณ์โควิด-19 อีกครั้ง โดยในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาชาวสวนดอกไม้ แม้จะได้รับผลกระทบแต่ก็มีการปรับตัว ด้วยการแปรรูปดอกไม้ ให้เป็นน้ำหอม ก้านหอม และอาหารรวมถึงงานศิลปะของที่ระลึก เพื่อจัดจำหน่ายสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมชนด้วย.-สำนักข่าวไทย