กระบี่ 17 ธ.ค. – หลังช่วงกลางดึกที่ผ่านมาเกิดเหตุผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดกระบี่ จำนวนหลายร้อยคนรวมตัวกันก่อเหตุจลาจล เรียกร้องขอให้แยกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ออกไปรักษาภายนอกเรือนจำ ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายขึ้นติดต่อกันนานหลายชั่วโมง
ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ทยอยนำตัวผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดกระบี่ที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 และมีอาการอยู่ในระดับสีเขียว ออกจากเรือนจำ เพื่อนำตัวส่งเข้ารับการรักษาต่อในโรงพยาบาลสนามกระบี่ หลังจากเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาผู้ต้องขังในเรือนจำได้รวมตัวกันก่อจลาจล มีการทำลายทรัพย์สิน ขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่เรือนจำที่เข้าระงับเหตุ จนทำให้ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกระบี่ต้องขอกำลังเสริมจากชุดปฏิบัติการพิเศษของเรือนจำในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งพังงา ภูเก็ต ตรัง และสุราษฎร์ธานี รวมถึงมีการแยกตัวผู้ต้องขังหญิงจำนวน 268 คน ในเรือนจํากระบี่ออกไปควบคุมตัวชั่วคราวที่เรือนจำกระบี่น้อย เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าควบคุมสถานการณ์ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ภายในเรือนจำยังคงบานปลาย และไม่สามารถควบคุมได้
กระทั่งเวลา 11.30 น. นายพุฒิพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ แถลงยืนยันเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเหตุความรุนแรงภายในเรือนจำได้แล้ว พร้อมปฏิเสธผู้ต้องขังไม่ได้มีการจุดไฟเผาเรือนนอนตามที่เป็นข่าว แต่ไม่ได้ระบุถึงความความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำ ยืนยันพูดคุยและทำความเข้าใจกันได้แล้ว ขอให้ประชาชนรอบพื้นที่รอบเรือนจำมั่นใจความปลอดภัย เนื่องจากไม่มีผู้ต้องขังรายใดหลบหนีออกจากเรือนจำ ตามที่หลายคนวิตกกังวล
จากนั้นเวลา 13.00 น. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ บินด่วนถึงเรือนจำจังหวัดกระบี่ เพื่อบัญชาการแก้ไขสถานการณ์ ระบุ เบื้องต้นผู้ต้องขังรวมตัวกันก่อเหตุเพราะเกิดจากความกลัวว่าเพื่อนผู้ต้องขังที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 จะแพร่กระจายเชื้อไปให้ผู้ต้องขังคนอื่น เนื่องจากภายในเรือนจำกระบี่มีแดนคุมขังเพียงแดนเดียว โดยเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นส่งผลให้ทรัพย์สินภายในเรือนจำบริเวณเรือนนอน ห้องครัว และร้านค้าสวัสดิการ ได้รับความเสียหาย มีผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 14 ราย
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนผู้ต้องขังซึ่งเป็นแกนนำทั้ง 20 คน ที่เป็นผู้ชักชวนเพื่อนผู้ต้องขังรายอื่นให้ร่วมก่อเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ลงโทษเอาผิดตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่การดำเนินการกับผู้ต้องขังภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ ขณะนี้ทางเรือนจำได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเร่งทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผู้ต้องขังทั้งหมดจำนวน 2,159 คน ที่อยู่ในเรือนจำ ขณะนี้ตรวจไปได้แล้วเพียง 600 คน และทำการคัดแยกผู้ต้องที่ไม่ติดเชื้อโควิด-19 ออกจากเรือนจำไปฝากขังยังเรือนจำจังหวัดภูเก็ตก่อน
ส่วนผู้ต้องขังที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 และมีอาการไม่รุนแรงอยู่ในระดับสีเขียว ส่วนหนึ่งจะส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาลสนาม และอีกส่วนจะรักษาในเรือนจำกระบี่ เพื่อลดความแออัด
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง เนื่องจากทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วทั้ง 2 เข็ม
สำหรับที่ผ่านมา การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยพบผู้ต้องขังในเรือนจำต่างๆ ของประเทศติดเชื้อในหลายแห่ง บางแห่งมีผู้ติดเชื้อ จำนวนหลายพันคน
อย่างไรก็ตาม การลุกขึ้นมาก่อจลาจลของผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดกระบี่ โดยอ้างว่าเพื่อเรียกร้องให้มีการคัดแยกผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ออกจากผู้ต้องขังทั่วไปนับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในเรือนจำ ซึ่งได้สร้างความวิตกกังวล โดยเฉพาะกับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก เนื่องจากเรือนจำจังหวัดตั้งอยู่ใจกลางชุมชนเมืองของที่มีสถานศึกษารายรอบถึง 3 แห่ง เหตุจลาจลในครั้งนี้จึงนำไปสู่การตั้งคำถามของประชาชนกระบี่อีกครั้ง ถึงความเหมาะสมของที่ตั้งเรือนจำ หลังจากที่ผ่านมามีความพยายามเรียกร้องของประชาชนกระบี่มาแล้วในหลายครั้ง ให้มีการย้ายที่ตั้งของเรือนจำจังหวัดกระบี่ ออกจากย่านชุมชนเพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย