“หมวดแบงค์” รอดคดีพยายามฆ่า “น้องจูน” ศาลชี้บันดาลโทสะ

เพชรบุรี 14 ธ.ค. – ศาลมณฑลทหารบกที่ 15 จ.เพชรบุรี พิพากษา “หมวดแบงค์” ไม่มีเจตนาฆ่า “น้องจูน” อดีตภรรยา ชี้เป็นการทำร้ายร่างกายจากบันดาลโทสะ พิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิดและถูกลงโทษ ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 12,500 บาท


ความคืบหน้าคดี “หมวดแบงค์” นายทหารสังกัดศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ถูกฟ้องศาลมณฑลทหารบกที่ 15 ในข้อหาพยายามฆ่าอดีตภรรยาตนเอง เหตุเกิดท้องที่ สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเดือนมีนาคม 2560 แต่ช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก คดีจึงเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาลทหาร และมีเพียงศาลเดียวเท่านั้น

วันนี้ (14 ธ.ค.64) ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 15 จ.เพชรบุรี ได้อ่านคำพิพากษาในคดี น.ส.สุกฤตา หรือน้องจูน พนักงานราชการสังกัดค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกอดีตสามี คือนายทหารยศร้อยตรี อายุ 24 ปี ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลกว่า 3 เดือน โดยวันนี้ น.ส.สุกฤตา ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมกับนางสุนทรี มารดา และญาติๆ ขณะที่หมวดแบงค์ ผู้ต้องหาในคดี ได้เดินทางมากับครอบครัว 10 คน โดยอัยการยื่นฟ้อง 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่า ใช้อาวุธปืนและชิงทรัพย์ โดยศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษา 1 ชม. จึงเสร็จสิ้น


ศาลพิพากษาว่า ข้อหาพยายามฆ่า พิจารณาแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้เสียหาย แต่เป็นการทำร้ายร่างกายเนื่องจากบันดาลโทสะ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส พิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิดและถูกลงโทษ ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 12,500 บาท สำหรับข้อหาอาวุธปืน นำสืบไม่ได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย ส่วนข้อหาชิงทรัพย์ ไม่สามารถนำสืบได้ ยกประโยชน์ให้จำเลย คดีนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้ว เนื่องจากมีเพียงศาลเดียวในขณะเกิดเหตุมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก

นางสุนทรี แม่ของน้องจูน เปิดเผยความรู้สึกหลังฟังคำพิพากษาว่า ตนเองเคารพคำพิพากษาของศาล แต่ความรู้สึกที่แท้จริงตนไม่ขอพูด ให้ดูจากน้ำตาของคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวคนนี้ เกือบ 5 ปี ที่แม่และน้องจูนเฝ้ารอความเป็นธรรมที่ลูกสาวถูกกระทำ อย่างน้อยแม่ก็ได้ลูกสาวกลับมา แม่สอนให้ลูกเข้มแข็ง เราเอาเวลาไปทำของขวัญขายหารายได้ให้ครอบครัวเพื่อสร้างชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิม น้องจูนเองก็รู้สึกเสียใจ แม่ย้ำน้องจูนเสมอว่าอย่าร้องไห้ให้ใครเห็น เราต้องเข้มแข็ง และขอบคุณทุกกำลังใจทั้งสื่อและประชาชนทั่วประเทศติดตามให้กำลังใจเราสองคนแม่ลูก ต้องบอกว่าเราทำดีที่สุดแล้ว

คดีนี้เป็นคดีดังที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2559 น้องจูน หรือ น.ส.สุกฤตา พนักงานข้าราชการประจำค่ายธนะรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกอดีตสามีทหาร หรือหมวดแบงก์ ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตาย กะโหลกยุบ สมองบวม เบ้าตาซ้ายแตก หลังโมโหที่ถูกจับได้ว่าหมวดแบงก์นอกใจไปหาสาวอื่น ซึ่งจากเหตุการณ์นั้นทำให้น้องจูนต้องกลายเป็นคนเสียโฉม ใช้เวลารักษาตัวอยู่นานถึง 3 เดือนเต็ม เพราะมีอาการทางสมอง พูดช้า คิดช้าลง น้องจูนได้บินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี เพราะเธอเสียโฉม โดยมีภาคเอกชนเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก