มอบตัวแล้วแก๊งไล่ยิงไรเดอร์บาดเจ็บ

นนทบุรี 7 ธ.ค. – มอบตัวแล้วแก๊งไล่ยิงไรเดอร์บาดเจ็บ ชนวนลั่นไกอ้างจ่ายเงินซื้อยานอนหลับจากไรเดอร์แล้วไม่ได้ของ ทำให้ไม่พอใจ ขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ยิง


อ้างสั่งยานอนหลับไม่ได้ของ หนุ่มซิ่ง จยย.ไล่ยิงไรเดอร์หมดแม็ก
ความคืบหน้ากรณีนายกิตติพัฒน์ อายุ 27 ปี ไรเดอร์ส่งอาหาร บาดเจ็บ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่ใต้ราวนม และมีแผลถูกแทงที่ท้อง 1 แผล บริเวณถนนป๊อปปูล่า หน้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยมีนายวรพล พลเมืองดี หรือไอซ์ เข้าช่วยไว้ได้ทัน พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปรับแฟน เห็นชาย 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันซ้อนท้ายกันมา และขี่ไล่กวดไรเดอร์มาตั้งแต่หน้าปากทางเข้า หนุ่มพลเมืองดีรายนี้จึงขี่ตามไปดู ทำให้เห็นว่าไรเดอร์กำลังตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ หนุ่มพลเมืองดีจึงเข้าช่วย และแย่งปืนมาจากมือของกลุ่มคนที่กำลังทำร้าย ที่ตอนนั้นยังคงสวมหมวกกันน็อก ทำให้มองไม่เห็นใบหน้า แต่กลุ่มคนที่รุมทำร้ายไม่ยอม ยิงปืนรัวอีกหลายนัด ก่อนขี่รถหนีไป พลเมืองดีบอกว่าตอนนั้นตกใจ แต่ด้วยความที่เห็นคนร้ายขี่รถหนี ตัดสินใจขี่รถไล่ตามแต่ไม่ทัน จึงกลับมาช่วยไรเดอร์และเรียกตำรวจให้ช่วย

หลังเกิดเหตุ ญาติของกลุ่มก่อเหตุได้ติดต่อตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ขอพาตัวผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว ส่วนสาเหตุคนลั่นไกอ้างจ่ายเงินสั่งซื้อยานอนหลับจากนายกิตติพัฒน์ ไรเดอร์ แต่ไม่ได้ของ ทำให้ไม่พอใจ จึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ยิง


โอละพ่อ คลิปมัดแน่น พลเมืองดีร่วมทำร้ายไรเดอร์ 3:1
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้เหมือนเป็นเหตุกลุ่มคนที่หัวร้อนทะเลาะกัน แต่เรื่องกลับโอละพ่อ เพราะการตรวจสอบของตำรวจพบว่านายวรพล ที่ตอนแรกบอกว่าตัวเองเป็นพลเมืองดี แถมให้สัมภาษณ์สื่ออย่างหล่อ ปรากฏว่าเป็นคนที่ร่วมก่อเหตุกับเพื่อนอีก 2 คน คือ นายณัฐวัฒน์ หรือ ฟร๊อง (มือยิง) อายุ 23 ปี นายวัชรธร หรือเอก อายุ 24 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ให้ฟร๊อง ทำให้ทันทีที่แก๊งนี้ให้ญาติติดต่อเข้ามอบตัว ตำรวจจึงถึงบางอ้อ เพราะทั้งหมดเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟังอย่างละเอียด และรู้ว่าเหตุการณ์นี้มีผู้ก่อเหตุเพียง 3 คน ไม่ใช่ 4 คน อย่างที่นายวรพล อดีตพลเมืองดี ให้ข้อมูลไว้ในตอนแรก เมื่อทั้งหมดสารภาพ ชุดสืบสวนจึงขยายผลไปค้นบ้านของนายวรพล และพบอาวุธปืน 1 กระบอก ก่อนพาตัวทั้งหมดไปทำแผน

นายวัชรธร หรือเอก หนึ่งในคนช่วยรุม เล่าว่า โดนถีบรถล้มก่อน พอตัวเองล้ม ไรเดอร์คู่กรณีก็อาศัยช่วงชุลมุนฝ่าวงล้อมบุกเข้ามาแทง ตนจึงใช้มือปัดมีด แต่มีดถูกขา ทำให้นายฟร๊องต้องเข้ามาช่วย

ส่วนนายณัฐวัฒน์ หรือฟร๊อง เล่าว่า เข้ามาช่วยนายเอก แต่โดนแทงสวนมาเข้าที่ขาและแขน ยืนยันแม้จะเป็นคนถือปืน แต่ไรเดอร์ได้เข้าแย่งปืนทำท่าเหมือนจะยิง นายไอซ์เห็นก็เข้ามาช่วย ทำให้ปืนเกิดลั่น ยืนยันตัวเองไม่มีเจตนาที่จะยิง และโดนแทงก่อน


ขณะที่นายวรพล หรือไอซ์ ตอนแรกฟังในฐานะพลเมืองดี ตอนนี้เป็นผู้ต้องหาแล้ว นักข่าวพยายามตามไปถาม อยากให้อธิบายว่าทำไมต้องปลอมเป็นพลเมืองดี

ด้านพันตำรวจเอกพงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ด ให้รายละเอียดเพิ่มว่า การสอบสวนทำให้ทราบว่านายไอซ์ และไรเดอร์ที่เป็นผู้เสียหาย ได้นัดกันส่งมอบยานอนหลับชนิดรุนแรงจำนวน 20 แผง ราคา 2,400 บาท แต่ก่อนที่จะมีการส่งมอบได้เจรจาต่อรองราคาให้ถูกลง แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง นายไอซ์จึงวางแผนปล้นยา โดยชวนเพื่อนมาอีก 2 คน คือ นายเอกกับนายฟร๊อง และนัดผู้เสียหายมาที่ทางออกเมืองทองธานี จากนั้นขณะส่งมอบยา นายเอกกับนายฟร๊องก็ได้เข้าชิงยาและขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ส่วนผู้เสียหายที่เป็นไรเดอร์ เห็นแบบนั้นจึงขี่ไล่ตาม แต่ด้วยความที่รถผู้ต้องหาอยู่ข้างหน้า ผู้เสียหายจึงขี่ปาดหน้า ทำให้รถของผู้ต้องหาล้ม จากนั้นผู้เสียหายหยิบมีดออกมาขู่ จึงเกิดการชุลมุนขึ้น โดยนายไอซ์พกปืนมา 1 กระบอก แต่ยังไม่ทันหยิบมาใช้ นายฟร๊องจึงวิ่งไปฉวยปืนที่เอวของนายไอซ์มายิงที่ผู้เสียหายไป 4 นัด แต่ถูกผู้เสียหายเพียง 1 นัด

เท่ากับว่าคดีนี้ นายไอซ์เป็นคนวางแผน นายฟร๊องกับนายเอกร่วมก่อเหตุ และนายไอซ์มาสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐาน ทั้งภาพจากกล้องวงจงปิดและอื่นๆ เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหากับ 3 ผู้ก่อเหตุ คือ ร่วมกันปล้นทรัพย์, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนและกระสุนปืนติดตัวมาในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้ง 2 ข้อหากับไรเดอร์ คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น, พกพาอาวุธติดตัวไปในหมู่บ้านและที่สาธารณะโดยไม่รับอนุญาต

ส่วนนายไอซ์ที่อ้างว่าเป็นพลเมืองดี และไรเดอร์ที่เป็นผู้เสียหาย จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มในเรื่องซื้อขายยานอนหลับหรือไม่ ตำรวจบอกว่าจะต้องมีพยานหลักฐานเพิ่ม เพราะไรเดอร์มีบัตรรักษาของโรงพยาบาลธัญญารักษ์ สามารถครอบครองยานอนหลับได้ และมีการเบิกจ่ายยาตามราชการ ทำให้เขามีบัตรสามารถซื้อยาตัวนี้จากคลินิกได้ แต่กลับนำยาตัวนี้มาจ่ายให้ผู้อื่น ยาตัวนี้สามารถนำไปเป็นส่วนผสมของยาเสพติดได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]

“ปราสาทตาเมือนธม” วุ่น ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย

กทม. 15 ก.ค.-ทบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบปมความวุ่นวาย “ปราสาทตาเมือนธม” หลังมีข่าวทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย กรูเข้าฝั่งไทย ด้าน มทภ.2 ยันสถานการณ์ปกติ อย่าตื่นตระหนก 15 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล หลังเกิดเหตุความไม่เรียบร้อยที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จากกรณีหญิงชาวกัมพูชา ตะโกนใส่ทหารไทยว่าล้ำเส้นเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการทะเลาะกันเสียงดัง ทำให้ทหารไทยและทหารกัมพูชาที่อยู่ในจุดนั้นต้องเข้ามาห้าม แต่เหตุการณ์ลุกลาม ทหารกัมพูชาเกือบ 1 กองร้อย วิ่งเข้ามาในบริเวณฝั่งไทย ตรงบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม ทางด้านทหารไทยก็ได้เข้าไปอยู่ในจุดดังกล่าวด้วย โดยสถานการณ์มีการผลักอกกัน ตะโกนโวยวาย ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจงว่า ปราสาทตาเมือนธม เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ.-313.-สำนักข่าวไทย