สระแก้ว 4 ธ.ค.- บิ๊กโจ๊กพร้อมทีมงาน บินลงพื้นที่ จ.สระแก้ว รับตัวเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์คนไทยกลับจากประเทศกัมพูชา 143 คน หลังถูกหลอกหลวงไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน บังคับและกักขังให้ทำงานผิดกฎหมาย
บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อํานวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับคนไทยที่ถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา หลังได้รับความช่วยเหลือจากการทางกัมพูชา ช่วยคนไทย จากกรุงพนมเปญ , เมืองสวายเรียง, เมืองกําปอต และกรุงปอยเปต 143 คนมาส่งที่สะพานก่อนนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและการตรวจคนเข้าเมือง
สอบสวนผู้เสียหายพบว่าขบวนการมีคนจีนเป็นหัวหน้า เคลื่อนไหวอยู่ในกรุงพนมเปญและหลายจังหวัดในกัมพูชา โดยจะลงโฆษณารับสมัครงานบนสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ หลอกลวงว่ามีงานในกัมพูชา จ่ายค่าตอบแทนสูง เดือนละ 20,000-30,000 บาท หลังจากมีผู้หลงเชื่อมาสมัคร ได้มีการว่าจ้างขบวนการนำพาคนเดินทางเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติหลัง จากนั้นจะมีรถมารับไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ต่อมามีการส่งตัว ให้กับกลุ่มนายทุนชาวจีนไปกักขังที่ อาคารแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ บังคับให้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์, แก๊ง SMS หลอกลวง, เว็บไซต์รับพนันผิดกฎหมาย บังคับให้ทำงานเกือบ 20 ชั่วโมงต่อวัน และทุกคน รวมกับต้องทำยอดเงินให้ได้มากกว่าร้อยล้านบาท หากทำไม่ได้จะมีการซ้อม ทรมาน กักขัง และให้อดอาหาร
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยว่าขณะนี้ตำรวจได้ขยายผลถึงเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกลุ่มองค์กร อาชญากรรมข้ามชาติ จนจับกุมตัวผู้ต้องหา ได้แล้ว 2-3 คน หลอกลวงไปบังคับใช้แรงงาน ทำงานผิดกฎหมายในต่างประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่กัมพูชาช่วยเหลือคนไทย 143 คน ได้ปลอดภัย ทั้งนี้ หากประชาชนพบเบาะแส พฤติการณ์ของขบวนการดังกล่าว แจ้งเบาะแสสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ ได้ที่ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามกํารค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) หรือ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) โทร.1599.-สำนักข่าวไทย