หลายจังหวัดภาคใต้ จับตาน้ำทะเลหนุนสูง

ภาคใต้ 3 ธ.ค.-สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้จากฝนตกหนัก และสภาวะน้ำทะเลหนุนสูงยังน่าห่วง โดยเฉพาะช่วงค่ำวันนี้จะมีน้ำทะเลหนุนอีกรอบ แต่ละจังหวัดสั่งจับตาตลอด 24 ชั่วโมง


สถานการณ์ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำและทะเลอ่าวปัตตานี เช่น บ้านปาตาบูดี ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง ถนนสายหลักระหว่าง บ้านปาตาบูดี – บ้านแหลมตาชี ถูกคลื่นซัดถนนพังเสียหาย 1 ช่องจราจร ตั้งแต่เมื่อคืน ระยะทางเกือบ 100 เมตร เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบทได้นำเสาขาวแดงมากั้น ให้สัญญาณแก่ผู้ใช้เส้นทาง เจ้าหน้าที่ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถซ่อมแซมถนนได้ เนื่องจากคลื่นลมทะเลยังแรง ต้องรอให้คลื่นลมสงบก่อน

ชาวบ้านเล่าว่า ช่วงเย็นวานนี้ (2 ธ.ค.) คลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นช่วงน้ำทะเลหนุน ทำให้คลื่นมีกำลังแรงมาก แม้ว่าขณะนี้คลื่นทะเลจะเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ก็ยังห่วงว่า คืนนี้ช่วงน้ำทะเลหนุน ก็จะเกิดคลื่นลมแรงซัดฝั่งอีกครั้ง ด้านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี มีคำสั่งให้ พื้นที่ที่อยู่ริมแม่น้ำปัตตานี และชายฝั่งปัตตานี ใน 6 อำเภอ เฝ้าระวังอันตรายจากคลื่นซัดชายฝั่ง และน้ำล้นตลิ่ง พร้อมห้ามลงเล่นน้ำ


5 ตำบลของ อ.ไชยาอ่วม จังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติ 13 อำเภอ

อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.ปากฉลุย ต.เวียง ต.ตลาดไชยา ต.เลม็ด และ ต.ทุ่ง ระดับน้ำยังท่วมสูง ส่วนทางหลวงหมายเลข 41 ซึ่งก่อนหน้านี้มีน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ตั้งแต่ช่วงดึกที่ผ่านมา ขณะนี้ระดับน้ำลดลงรถทุกชนิดสามารถสัญจรผ่านได้แล้ว ส่วนย่านเศรษฐกิจของอำเภอไชยาพบว่ามีน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร รถเล็กยังสามารถสัญจรไปมาได้

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่อำเภอไชยา สั่งการให้ทุกภาคส่วนเร่งช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งสั่งการให้ทุกภาคส่วนเร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน โดยให้ระดมยุทโธปกรณ์ ทั้งรถบรรทุก รถยกสูง เรือท้องแบน รถสุขา เตรียมการให้พร้อมเพื่อออกช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดฯ ได้ประกาศเขตภัยพิบัติไปแล้วจำนวน 13 อำเภอ


มอบเงินไปให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางไปยังบ้านใน บ้านทือ ต.โมถ่าย อ.ไชยา เพื่อนำเงินค่าจัดการศพ และเงินสงเคราะห์ จำนวน 59,400 บาท มอบให้แก่ครอบครัวนายสุเมธ ชูขอบ ที่เสียชีวิตจากน้ำป่าพัดสูญหายระหว่างออกหาปลา และพบศพเมื่อวันที่ 25 พ.ย.64 นางนีวรรณ ชูชอบ มารดา นายสุเมธ ได้ขอบคุณทุกความช่วยเหลือ ที่ส่งมายังครอบครัวของตน

ส่วนชุมชนริมน้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้แก่ ชุมชนบ่อทรัพย์ และชุมชนหลังสถานีรถไฟ ยังคงมีน้ำท่วมสูง บางจุดระดับน้ำสูงเกือบ 1.5 เมตร เทศบาลได้เปิดโรงเรียนในเขตเทศบาลฯ เป็นศูนย์อพยพชั่วคราว ส่วนในซอยต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ช่วงถนนราชดำเนิน – ถนนพัฒนาการคูขวาง ระดับน้ำเริ่มลดลงเหลือ 20-50 เซนติเมตร เทศบาลฯ เร่งสูบน้ำลงสู่คลองทั้ง 5 สาย และผลักดันลงสู่ทะเล คาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีกก็จะสามารถระบายน้ำออกจากชุมชนใจกลางเมืองได้หมดเร็วๆนี้

ขณะที่พื้นที่ลุ่มต่ำใน ต.ท่าไร่ และ ต.ท่าซัก ของ อ.เมือง อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นทางผ่านของน้ำก่อนไหลลงสู่ทะเล น้ำยังท่วมสูงเช่นกัน นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประสานกรมชลประทานนำเครื่องสูบน้ำ สูบระบายน้ำลงสู่ทะเลตั้งแต่เช้า ก่อนที่น้ำทะเลจะหนุนในช่วงบ่าย คาดพื้นที่ท้ายน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันสองวันนี้

เร่งสำรวจความเสียหายน้ำป่า-ภูเขาถล่ม 3 ตำบลใน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

หลังจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก ภูเขาพังถล่ม สร้างความเสียหายแก่พื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.โพรงจระเข้ ต.นาชุมเห็ด ต.ในควน ของอำเภอย่านตาขาว ซึ่งนับว่ามีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 40 ปี บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำป่าซัดพังเสียหายหลายหลัง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน สัตว์เลี้ยง ที่สวนของชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง วันนี้หลายหน่วยงานเข้าให้การช่วยเหลือ เบื้องต้นโดยการมอบสิ่งของยังชีพเนื่องจากข้าวของหลายอย่างภายในบ้านถูกน้ำป่าท่วม และเร่งสำรวจความเสียหาย

นายสมนึก ธูปหอม นายอำเภอย่านตาขาว เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอยู่ติดเขาบรรทัด ประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหมด 300 หลังคาเรือน โดย ต.โพรงจระเข้ เสียหายหนักสุด พร้อมแจงกรณีชายป่วยติดเตียงอายุ 70 ปี เสียชีวิตหลังเกิดเหตุ ว่าไม่ได้เสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่เนื่องจากขณะเกิดเหตุน้ำท่วมหนัก ไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ ประกอบกับอากาศที่เย็นจึงทำให้ชายคนดังกล่าวมีอาการช็อก ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ไม่ได้จมน้ำเสียชีวิต ส่วนความเสียหายเป็นวงกว้างที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เนื่องจากน้ำป่ามาเร็วมาก และเหตุเกิดช่วงกลางดึก ชาวบ้านไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้าจึงเก็บข้าวของไม่ทัน จากการสำรวจเบื้องต้นพบมีบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังจำนวน 1 หลังคาเรือน และเสียหายบางส่วนอีกหลายสิบหลังคาเรือน

กรมชลฯ ยืนยัน ไม่มีเขื่อนแตกใน อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร

เจ้าหน้าที่กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 ร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสารภัยจังหวัดชุมพร ลงเรือสำรวจพื้นที่น้ำท่วม และมอบข้าวกล่อง น้ำดื่ม แก่ชาวบ้านในอำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 3 เมตร จนไม่สามารถออกจากบ้านได้ ขณะเดียวกันนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ลงยังพื้นที่วนอุทยานแห่งชาติ “น้ำตกคลองเพรา” ม.5 บ้านทับช้าง ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก เพื่อติดตามการซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำป่า เพื่อให้ชาวบ้านสามารถสัญจรได้ตามปกติ

ส่วนกรณีมีข่าวลือและมีการแชร์ในโซเชียลมีเดียว่า เขื่อนตะโกแตก พร้อมทั้งมีภาพประกอบ และคลิปขอความช่วยเหลือจาก “นายกตู่” และภาพน้ำป่ากำลังไหลทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ สำนักข่าวไทยได้ตรวจสอบไปยัง นายนพดล มีวิเศษ ผอ.โครงการชลประทานชุมพร ได้รับการยืนยันว่า “ในพื้นที่ อ.ทุ่งตะโก ไม่มีเขื่อน มีเพียงฝายน้ำล้นของกรมชลประทาน ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วไม่พบความเสียหายจากน้ำป่า หรือ ไม่พบว่ามีร่องรอยการแตกแต่อย่างใด พบเพียงน้ำที่ล้นออกมาตามปกติเท่านั้น เมื่อน้ำป่าไหลลงมาตามลำคลองประกอบกับน้าป่าจากภูเขา ทำให้น้ำป่าทะลักลงสู่พื้นราบปริมาณมาก จนทำให้มีการเข้าใจว่า ฝายดังกล่าวแตก ขอยืนยันว่าเรื่องเขื่อนแตกนั้นไม่เป็นความจริง”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 หวัง GBC ได้ข้อสรุปที่ดี ลั่นไม่ถอยกำลังทหาร

กองทัพบก 4 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่น ไม่ถอยกำลังทหาร หวังถก GBC ได้ข้อสรุปที่ดี แต่ยังคาดหวังอะไรไม่ได้หากสองประเทศยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกันก็จบง่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็คาดหวังว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี หาข้อตกลงร่วมกันให้ดีที่สุด ส่วนที่หลายฝ่ายมีความกังวลสถานการณ์ชายแดน หลังวันที่ 7 สิงหาคม จะมีความตึงเครียดนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของผู้นำทั้งสองประเทศ จะเจอกันตรงจุดไหน หากยอมรับเงื่อนไขซึ่งกันและกัน ก็จบง่าย ซึ่งตอนนี้ยังคาดเดาอะไรไม่ได้ ว่าผลจะออกมาอย่างไร เมื่อถามว่า ประเด็นเรื่องการถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า “กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา” สำหรับการดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพทั้งสองประเทศได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการหยุดยิง ที่สองรัฐบาลได้พูดคุยกันไว้เพื่อความสงบสุขบริเวณชายแดน ซึ่งเราพยายามทำให้ดีที่สุด แต่ยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องโดรนไม่ทราบฝ่าย ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงการติดตามกลุ่มบุคคลที่ทำตัวเป็นสายลับ และไส้ศึก […]

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]

EOD ทำลายวัตถุระเบิด ใกล้ปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ 4 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้จรวด BM 21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกและฝังอยู่ในพื้นถนนกันทรลักษ์อีกจุด ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่วันที่ 24 ก.ค. เช่นเดียวกัน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บวัตถุระเบิดหรือ EOD จากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ แล้วตกลงไปฝังอยู่ในถนน กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ เป็นจรวด BM 21 ที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. บ้านผือ ระเบิดจุดนี้ อยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ประเมาณ 500 เมตร และห่างจากจุดที่มีการเก็บกู้ จรวดบีเอ็ม 21 บนถนนกันทรลักษ์ลูกแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม […]