สงขลา 28 พ.ย.- ตำรวจแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา กับวัยรุ่นก่อเหตุฆ่าเปลือย เด็กชายวัย 7 ขวบ หมกห้องน้ำห้องเช่าในแฟลต กลางเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะที่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ด้านพี่สาว เผยน้องชายป่วยจิตเวชมาแล้ว 8 ปี
ความคืบหน้าเหตุน้องฟิตรี อายุ 7 ปี ถูกฆาตกรรม นอนคว่ำหน้าเปลือยกายเสียชีวิตภายในห้องน้ำของห้องเช่าร้าง ชั้น 3 แฟลตหรรษา ซอยสุทธิหรรษา ถ.ราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ผลชันสูตรเบื้องต้นพบว่า ที่ลำคอมีรอยช้ำ ศีรษะมีบาดแผลเหมือนถูกกระแทกอย่างแรง และรอยรองเท้าผู้ใหญ่เดินเข้ามาในห้องน้ำ โดยสภาพภายในห้องดูเหมือนมีการนำศพมาซ่อนไว้ ไม่ได้ลงมือฆ่าภายในห้องดังกล่าว อีกทั้งยังพบห้องถูกล็อกกุญแจจากด้านนอก เหตุเกิดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
คดีนี้หลังเกิดเหตุตำรวจเข้าควบคุมตัวนายกันตพงศ์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนเมื่อช่วงเย็นวานนี้ แต่ให้การปฎิเสธจึงคุมตัวไปตรวจค้นที่ห้องพักของแฟลตแห่งหนึ่ง พบมีคราบเลือดอยู่ตรงกลางห้อง ที่เพิ่งมีรอยเช็ดทำความสะอาดใหม่ๆ และพบหลักฐานสำคัญเป็นลูกกุญแจที่สามารถไขกับแม่กุญแจที่ล็อกห้องที่พบศพน้องฟิสตรีได้ จึงนำตัวไปเค้นสอบที่ สภ.หาดใหญ่ และตรวจร่างกาย เพื่อส่งไปตรวจดีเอ็นเอ ขณะที่ผู้ต้องสงสัยก็ยังให้การปฏิเสธไม่ได้ก่อเหตุ แค่เคยเห็นน้องฟริสตรี และรู้ว่าพักอาศัยที่แฟลตเดียวกัน แต่ไม่เคยพูดคุยกับน้อง
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ผลตรวจดีเอ็นเอที่ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เป็นชิ้นเนื้อในซอกเล็บของนายกันตพงศ์ ผู้ต้องสงสัยออกมาแล้ว ปรากฏว่าตรงกับน้องฟิสตรี ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่มัดนายกันตพงศ์ จากนั้นตำรวจควบคุมตัวออกมาเพื่อสอบสวนอีกครั้ง ซึ่งก็ยังให้การปฏิเสธ ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหารวม 3 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยปิดบัง ซ่อนเร้น ยักย้าย ทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุเเห่งการตายพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันควร, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยในวันพรุ่งนี้จะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดสงขลาฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว
ด้านพี่สาวผู้ต้องหามาติดต่อเข้าเยี่ยมน้องชาย พร้อมนำยาผู้ป่วยจิตเวชมาให้ และบอกกับผู้สื่อข่าวว่าน้องชายป่วยด้านจิตเวชมาแล้ว 8 ปี มีประวัติเสพยาเสพติดร่วมด้วย โดยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ และเข้าพักรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ 4-5 ครั้ง จนแพทย์อนุญาตให้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง แต่อาการน้องชายยังคุ้มดีคุ้มร้าย เคยทำร้ายตน และแม่ จึงให้แยกมาพักอยู่ที่แฟลตราว 1 ปี แต่ไม่แน่ใจว่าน้องชายจะกินยาต่อเนื่องหรือไม่ และฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะไม่เคยคิดว่าน้องชายจะก่อเหตุขึ้น.-สำนักข่าวไทย