“ชโยดม” แกนนำชาวสวนปาล์ม ขับเก๋งเสียหลักชนเสาไฟเสียชีวิต

กระบี่ 27 พ.ย.- สุดช็อก “ชโยดม” แกนนำคนสำคัญชาวสวนปาล์มน้ำมันภาคใต้ ขับรถเก๋งประสบอุบัติเหตุชนเสาไฟ หน้าร้านสะดวกซื้อ เสียชีวิต ขณะเพื่อนที่นั่งข้างบาดเจ็บสาหัส

วันที่ 27 พ.ย.64 ร.ต.อ.องอาจ บรรลือศัพท์ รองสว.สอบสวน สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุรถเก๋งชนรถกระบะ ก่อนพุ่งชนเสาไฟฟ้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ซึ่งยังติดอยู่ในรถ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อถนนเพชรเกษม ม.4 ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชาอำเภออ่าวลึก เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ หน้ารา้นสะดวกซื้อ พบรถเก๋งนิสสัน เซอฟิโร่ สีเขียว ทะเบียน บว.1332 อุดรธานี สภาพพังยับเยินทั้งคัน ภายในรถ ตรงเบาะนั่งคนขับ พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ หรือโกนง อายุ 55 ปี ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย และตรงเบาะนั่งข้างพบร่างผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นหญิงอายุประมาณ 40 ปี อยู่ในอาการสลึมสลือ มีเลือดไหลตามร่างกาย แขนขาผิดรูป อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตัดถ่าง เข้าตัดโครงประตูรถ เพื่อนำร่างคนเจ็บออกมานำส่งโรงพยาบาลอ่าวลึก และส่งต่อโรงพยาบาลกระบี่ ห่างกันประมาณ 5 เมตร พบรถกระบะโตโยต้า สีครีม ไม่ทราบทะเบียน จอดขวางอยู่บนถนนสภาพท้ายกระบะมีรอยชนพังเสียหาย


สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.นายชโยดม ผู้เสียชีวิต ได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าว มุ่งออกมาจากตัวเมืองกระบี่ ไปทำธุระที่ จ.พังงา โดยมีผู้บาดเจ็บนั่งมาเป็นเพื่อน และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ก่อนถึงร้านสะดวกซื้อ เป็นถนนทางโค้งตัวเอสช่วงรอยต่อเป็นคอขวด รถได้เกิดเสียหลักพุ่งออกข้างทางไปชนท้ายรถกระบะ ที่จอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งมีสองพ่อลูกนั่งอยู่ในรถ บาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนรถของนายชโยดม กระเด็นไปฟาดกับเสาไฟส่องสว่างหน้าร้านสะดวกซื้อ ทำให้รถพังยับทั้งคัน เป็นเหตุให้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว นอกจากนี้ยังไปชนกับรถจักรยานยนต์พนักงานร้านสะดวกซื้อเสียหายอีก 2 คันด้วย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าขับมาด้วยความเร็วสูงประกอบกับสภาพถนนเป็นช่วงคอขวด จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ

สำหรับนายชโยดม เป็นแกนนำชาวสวนปาล์มน้ำมัน คนสำคัญเป็นที่รู้จักของวงการชาวสวนปาล์มน้ำมันในภาคใต้ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ระดับจังหวัดจนถึงระดับกระทรวงเนื่องจากเป็นคนที่กล้าพูด กล้าแสดงออกเพื่อหาทางแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำให้เกษตรกร เคยนำรถบรรทุกไปเทผลปาล์มที่หน้าศาลากลาง จ.กระบี่ มาแล้ว เพื่อประชดราคาตกต่ำ และผลงานชิ้นสำคัญ คือ เป็นแกนนำในการรณรงค์ให้ใช้นำมัน บี100 (เชื้อเพลิงที่สกัดน้ำมันปาล์ม100%) เพื่อช่วยพยุงราคาผลผลติตกต่ำในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งมีการผลักดันให้มีการใช้น้ำมันปาล์มผสมน้ำมันดีเซล บี10 และบี20 ขณะที่เมื่อวานนี้ได้มีการประกาศต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะระดมพลขึ้นกรุงเทพฯ ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ นับว่าเป็นความเศร้าสูญเสีย แกนนำคนสำคัญของเกษตรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ในภาคใต้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง