BIG STORY : ฟังจากปาก 2 ฝ่าย ปมวิวาห์ล่ม

ชุมพร 23 พ.ย. – กรณีคู่บ่าวสาวกำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้วแต่กลับถูกครอบครัวเจ้าบ่าวขอยกเลิกงานแต่ง ให้เหตุผลไม่มีเงินสินสอด ด้านฝ่ายชายพาทั้งแม่และพี่สาวออกมาโต้ ยืนยันไม่ได้เทงานแต่ง แค่เลื่อน แต่ฝ่ายหญิงจัดการเองหมดโดยไม่ปรึกษา ยอมรับตอนแรกไม่คิดออกมาตอบโต้ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้คงต้องออกมาพูดเพื่อศักดิ์ศรีของครอบครัว


กรณีคู่บ่าวสาวกำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่กลับถูกครอบครัวเจ้าบ่าวขอยกเลิกงานแต่ง ให้เหตุผลไม่มีเงินสินสอด ส่วนเจ้าบ่าวก็ติดต่อไม่ได้ ล่าสุดเจ้าสาวออกมาบอกว่าหากทำกันแบบนี้ขอตัดสัมพันธ์รัก 9 ปี พร้อมบอกให้เจ้าบ่าวแมนๆ มาคุยและเคลียร์หนี้ด้วย หากไม่มาจะฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นล้าน

เหตุการณ์นี้โด่งดังขึ้นเมื่อเพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว” โพสต์เรื่องราวสุดเศร้าของเจ้าสาว โดยบอกว่าความฝันของผู้หญิงคนหนึ่งต้องล้มครื้นลงทันที หลังถูกฝ่ายชายและทางญาติยกเลิกการจัดงานแต่งไปอย่างดื้อๆ สั่งให้ทั้งคู่หยุดความสัมพันธ์ ทั้งที่คบกันมานานถึง 9 ปี ที่สำคัญทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ การ์ดเชิญ ของชำร่วย รวมถึงเรือนหอที่ใกล้เสร็จ รอแค่แขกที่จะไปแสดงความยินดีกับงานแต่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วัน จู่ๆ ญาติฝ่ายชายโทรมายกเลิกด้วยเหตุผลสั้นๆ คือยังไม่มีเงินสินสอด เออ…จบทุกอย่างแบบนี้ง่ายๆ ก็ได้ด้วย เห็นใจผู้หญิง เสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก แถมเสียหน้าอีก แบบนี้น่าหาทนายมือดีมาช่วยจัดการจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่น


เจ้าสาวแจงละเอียด คบ 9 ปี ถูกเท เครียดหนักถึงขั้นกินยาตาย
หลังเรื่องราวถูกแชร์ไป มีคนมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ทั้งแสดงความเสียใจกับเจ้าสาว ต่อว่าเจ้าบ่าว และบางรายก็คอมเมนต์ในเชิงตั้งคำถามว่าเรียกสินสอดแพงไปใช่ไหมถึงถูกเท ทำให้เจ้าสาวต้องออกมาโพสต์อธิบายเรื่องราว โดยเธอบอกว่ารู้จักกับฝ่ายชายเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2555 ตอนนั้นเธออยู่ ม.5 ตั้งแต่รู้จักคบหากันมา ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย รักกันดีมาก ดูแลกันดีมาก และหลังคบกันมานาน 9 ปี วันที่ 21 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ฝ่ายชายก็มาขอเธอแต่งงาน

จากนั้น 8 เมษายน ครอบครัวของฝ่ายชายเชิญผู้ใหญ่ฝ่ายเธอมาคุยเรื่องสินสอด ก่อนที่จะตกลงกันเป็นเงิน 600,000 บาท ทอง 5 บาท ส่วนเรื่องงานให้ครอบครัวฝ่ายหญิงเป็นคนเตรียมและจองบ้าน ขณะที่ฝ่ายชายไปหาฤกษ์ที่วัด พร้อมนัดจองถ่ายพรีเวดดิ้งกันวันที่ 17 กรกฎาคม ส่วนฤกษ์ที่ไปถามทางวัด ได้ฤกษ์วันที่ 14 พฤศจิกายน

เธอบอกว่าก่อนถึงวันแต่ง ช่วงเตรียมงานเธอก็ได้ปรึกษากับแฟนว่าจัดกันภายในครอบครัว โดยนัดจดทะเบียนสมรสกันวันที่ 12 พฤศจิกายน ถ่ายรูปทะเบียนสมรสวันที่ 14 พฤศจิกายน (วันแต่ง) แต่ยังไม่ทันถึงวันจดทะเบียนสมรส และวันแต่ง วันที่ 10 พฤศจิกายน ก็เกิดปัญหา ครอบครัวฝ่ายชายโทรมา และมีปากเสียงกับลูกของตัวเองด้วย จากนั้นเธอก็ติดต่อแฟนไม่ได้ ทำให้เธอเครียดกินยาฆ่าตัวตาย


ผ่านไป 2 วัน (12 พ.ย.) เธอทนไม่ไหว จึงขอหมอออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปตามหาแฟน กระทั่งไปพบอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง แต่เขาบอกว่าเขาขออยู่วัดก่อนเพื่อความสบายใจ แต่เธอมารู้ภายหลังว่าเขากลับบ้านไปกับครอบครัวในคืนนั้นแล้วไม่ติดต่อมาอีกเลย มือถือก็ปิด ทำให้เธอต้องโทรไปเบอร์คนในครอบครัวเขาแทน และก็ได้รับคำตอบจากฝ่ายชายว่า ขอจบกันเท่านี้

เธอบอกว่าวินาทีนั้นเหมือนตายทั้งเป็น หมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง พ่อแม่ ครอบครัว อับอายขายหน้าไปหมด มีแต่คำถามทุกวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ อยากจะตายให้พ้นไป ยิ่งมาตอนหลังรู้ข่าวว่าฝ่ายชายกับครอบครัวกินอิ่ม นอนหลับ ไม่ทุกข์ใจ ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ทั้งๆ ที่คบกันมา 9 ปี และนอกจากรู้ว่าเขากินอิ่ม นอนหลับ และเขาก็รู้ว่าเธอเสียใจ ครอบครัวฝ่ายชายยังมากดอีโมจิหัวเราะ เธอยิ่งแค้นใจ อยากขอความเป็นธรรม ฝากคนที่รู้จักหากเจอผู้ชายคนนี้ฝากถามเขาหน่อย จิตใจทำด้วยอะไร

เรียกร้องฝ่ายชายมาคุยแมนๆ เคลียร์หนี้ก่อนถูกฟ้องเป็นล้าน
ส่วนประเด็นเรื่องสินสอดที่หลายคนสงสัย เรียกไปแพงจริงจนฝ่ายชายไม่มีให้ ฝ่ายชายทำงานอะไร วันนี้ที่ฝ่ายหญิงได้มาออกรายการดังช่องหนึ่ง เธอให้ข้อมูลว่าครอบครัวฝ่ายชายมีฐานะดี มีธุรกิจส่วนตัว ส่วนฝ่ายชายเปิดอู่ซ่อมรออยู่ที่ชุมพร ที่สำคัญกว่านั้น ที่แม่เธอเรียกสินสอดไปเป็นเงินสด 600,000 บาท ทอง 5 บาท แม่ถามฝ่ายชายแล้วว่าไหวไหม เพราะถ้าไม่ไหวแม่ให้ฟรีไปเลย ทางนั้นบอกว่าไหว ทำให้เธอค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน และไม่ใช่เรื่องมีผู้หญิงคนอื่นด้วย ตอนนี้ที่เธอออกมาพูดกับสังคม เพราะอยากมาทวงศักดิ์ศรีคืน หากฝ่ายชายอยากจบ เธอบอกเลยวันนี้จบได้เลย แต่ขอให้มาคุยแบบแมนๆ เหมือนตอนมาจีบ เพราะตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้ ที่สำคัญตอนนี้มีหนี้การจัดงานแต่ง ทั้งค่าจองโรงแรม พรีเวดดิ้ง ดอกไม้ ค่าชุด อยู่ 170,000 บาท เพราะฝ่ายเธอสำรองจ่ายทั้งหมด ยืนยันแม้ยังรักและห่วงใย แต่จะไม่กลับไปหา และหากฝ่ายชายไม่มาคุยไกล่เกลี่ยดีๆ จะฟ้องเป็นล้าน ฟ้องให้มากกว่าค่างานแต่งที่จ่ายไปเกือบ 200,000 บาทด้วย

ฝ่ายชายโต้ไม่ได้ “เท” แค่ “เลื่อน” แต่ยอมรับขอจบเรื่องเอง
นายกฤษฎา หรือเกม อายุ 27 ปี ยืนยันไม่ได้เทงานแต่ง และตลอดเวลาที่คบกันเขาได้ช่วยเหลือดูแลฝ่ายหญิงมาตลอด ไม่ว่าจะให้ทำอะไร ไม่ว่าจะซักผ้า ล้างจาน ซื้อกับข้าว ทั้งๆ ที่ตอนอยู่บ้านของตัวเองไม่เคยทำ ย้ำว่าที่ผ่านมาตามใจทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีปัญหา แก้ไขตัวเองในทุกๆ เรื่อง ปรับเปลี่ยนตัวเองจนบางครั้งแทบรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

นอกจากนี้หากถามเรื่องว่ามือที่ 3 ยืนยันว่าไม่มีทั้งคู่ เพราะต่างคนต่างตั้งใจสร้างครอบครัวด้วยกัน และช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงพูดเรื่องแต่งงานมาตลอด โดยบอกว่าเลข 7 เป็นเลขอาถรรพ์ กลัวจะเลิกกัน จึงอยากแต่งงาน ขอให้ฝ่ายชายมาขอ แต่ส่วนตัวรู้ว่าที่บ้านยังไม่พร้อม เพราะมีทั้งเรื่องเศรษฐกิจในตอนนี้ และโควิดที่กำลังระบาด แต่ยอมรับว่าไม่ได้บอกฝ่ายหญิงว่างานการที่ทำอยู่ขาดสภาพคล่อง เพียงแต่คอยบอกฝ่ายหญิงว่าพ่อแม่ยังไม่ว่าง เพื่อจะได้หาเหตุผลเลื่อนการสู่ขอออกไป กระทั่งฝ่ายหญิงยื่นคำขาดหากไม่มาสู่ขอก็จะเลิก ทำให้ต้องยอมมาคุยกับพ่อแม่ และตกลงกันเรื่องสินสอด โดยมีฝ่ายหญิงเป็นคนจัดการในเรื่องการถ่ายพรีเวดดิ้ง หาฤกษ์แต่งงาน และเตรียมงานทุกอย่างเองหมด ส่วนตัวในตอนนั้นคิดว่าคงจะหาเงินสินสอดมาได้ ย้ำว่าตัวเองรู้ดีว่าพ่อแม่ไม่พร้อม แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารฝ่ายหญิง เพราะเตรียมเรื่องต่างๆ ไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ายหญิงไปหาฤกษ์แต่งงาน พ่อแม่ของตนได้ขอเลื่อนงานแต่งไปก่อน เพราะยังไม่มีค่าสินสอด โดยบอกว่าหากสถานการณ์ดีขึ้นจะจัดเลี้ยง จัดงานแต่งงานให้เหมือนเดิม พร้อมกับยอมรับช่วงก่อนงานแต่งไม่กี่วัน รู้ตัวอยู่แล้วว่าไม่มีสินสอดที่จะเอาไปให้ฝ่ายหญิงแน่นอน และคิดว่าคงจะไม่จดทะเบียนสมรส หรือมีงานแต่งเกิดขึ้น ทำให้คิดจบปัญหาทั้งหมด โดยการจบชีวิตตัวเอง แต่เมื่อฝ่ายหญิงรู้ว่าฝ่ายชายจะไม่มาจดทะเบียนสมรส จึงกินยาฆ่าตัวตาย ส่วนแม่ของฝ่ายหญิงได้มาบอกว่าหากไม่มีสินสอดมาก็ขอจบกันเท่านี้ เพราะถือว่าเลี้ยงดูลูกของเขาไม่ได้

เกมยังย้ำอีกว่าหลังจากนั้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน ก็คิดจะจบชีวิตตัวเอง เพื่อจบปัญหา จึงขับรถออกจากบ้านไป ลงไปในทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่ง จึงไปขออาศัยอยู่ที่วัดในแถบนั้น จนพี่สาวมาตามหาเจอจึงพากลับบ้าน ยอมรับตอนแรกไม่คิดออกมาตอบโต้ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้คงต้องออกมาพูดเพื่อศักดิ์ศรีของครอบครัว

แม่รับสินสอดแพงไม่พอจ่าย-แค่ขอลูกเลื่อนงานแต่ง ไม่ได้เท
ส่วนแม่ของฝ่ายชายให้ข้อมูลเพิ่มว่า ลูกบอกให้ไปคุยกับครอบครัวฝ่ายหญิง ทางนั้นบอกว่าเรียกไม่แพง แม่เลยตัดสินใจไปคุย แต่เมื่อไปคุยครอบครัวฝ่ายหญิงเรียกสินสอดเป็นเงินสด 800,000 บาท ทองคำ 10 บาท แม่จึงต่อรองทางนั้นจึงลดให้เหลือ 600,000 บาท กับทองคำ 5 บาท ยืนยันว่าขอเลื่อน ไม่ได้ยกเลิกงาน จนมารู้ทีหลังแม่ฝ่ายหญิงโทรมาต่อว่า แม่จึงไปคุยกับเกม เกมก็บอกว่าขอจบทุกอย่าง ไม่ไปต่อ ด้วยท่าทางที่ไม่มีความสุข และหายตัวไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจง มีปัญหาสุขภาพอาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

“สุชัชวีร์” ไขก๊อก “ปชป.” เล็งรวมคนตั้งพรรคใหม่

พรรคประชาธิปัตย์ 4 ก.ค.- “สุชัชวีร์” ไขก๊อก ลาออก “ปชป.” เตรียมรวมคนตั้งพรรคใหม่ ทำการเมืองระดับประเทศ เน้นพัฒนาคนจากการศึกษา ลั่นถ้าการศึกษาเปลี่ยนไม่ได้ อย่าหวังว่าประเทศไทยจะมีอนาคต ส่อไม่ลงผู้ว่าฯ กทม.ต่อ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ในเวลา 10.00 น. เพื่อกราบไหว้พระแม่ธรณีบีบมวยผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ดร.สุชัชวีร์ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าได้ให้เลขานุการส่วนตัวยื่นหนังสือลาจากเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้งและนายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว และต้องขอกราบขอบคุณสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และหัวหน้าพรรคซึ่งตนได้โทรศัพท์เรียนให้ทราบถึงการตัดสินใจไปแล้ว รวมทั้งขอบคุณกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้เกียรติ ทำงานกับพรรคการเมืองที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ขอยืนยันชัดเจนว่าไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งใด ๆ แต่มาจากอุดมการณ์และความฝันของตนที่ออกมาทำงานการเมือง ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในประเทศจริง ๆ เพราะวันนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะที่วิกฤติ และสถานการณ์ขณะนี้รอไม่ได้ ดังนั้นด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศที่เริ่มต้นจากการพัฒนาคนเรื่องการศึกษา ถือเป็นความตั้งใจอันแน่วแน่และเป็นการตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจากนี้เป็นต้นไปจะใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ทั้งหมด มาใช้ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ และเริ่มต้นจากการเปลี่ยนเรื่องของการศึกษา ถ้าเราไม่เปลี่ยนเราแพ้เวียดนามแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งในเหตุผลการลาออกคือ พรรคประชาธิปัตย์ยังตัดสินใจร่วมรัฐบาลอยู่ใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า นั่นเป็นการตัดสินใจของพรรค ตนให้เกียรติหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค และไม่ใช่เหตุผลที่ตัดสินใจลาออก เพราะตนมีเหตุผลชัดเจนอย่างที่กล่าวมา ซึ่งสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ วิกฤติทางการเมือง […]

ปิดลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ย้ายไปแอปฯ “ทางรัฐ”

4 ก.ค.- “สรวงศ์” รมว.ท่องเที่ยวฯ สั่งปิดลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ชั่วคราว หลังพบปัญหาต่อเนื่อง เตรียมย้ายไปเปิดใหม่ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ยันไม่กระทบผู้ที่ลงทะเบียนรับสิทธิแล้ว นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่เริ่มเปิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนเกิดปัญหาต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วขึ้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่าอยู่ระหว่างพิจารณา 2 แนวทาง คือ ล่าสุดเช้าวันนี้ นายสรวงศ์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย ว่า ล่าสุดยังได้รับรายงานถึงปัญหาการลงทะเบียนมาอย่างต่อเนื่อง จึงสั่งการให้หยุดการลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ผ่านทางเว็บไซต์ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง หรือแอปฯ Amazing Thailand ตั้งแต่บัดนี้ทันที แล้วให้ย้ายไปลงทะเบียนที่แอปฯ “ทางรัฐ” เพราะมีระบบยืนยันตัวตนในแอปฯ อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขั้นตอน ส่วนจะเริ่มได้เมื่อใด ณ เวลานี้ยังตอบชัดเจนไม่ได้ แต่วันนี้ (4 ก.ค.) จะหารือกับทีมเทคนิค ฝ่ายไอทีว่าจะสามารถย้ายระบบมาลงทะเบียนได้เร็วที่สุดเมื่อใด ยืนยันจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด […]

ต้อนรับอบอุ่น “ภูมิธรรม-เดชอิศม์” เข้ามหาดไทยวันแรก

กระทรวงมหาดไทย 4 ก.ค.- “ภูมิธรรม” พร้อม “เดชอิศม์” เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระสังฆราช ก่อนเข้า ก.มหาดไทย วันแรก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมอบนโยบาย โดยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรก โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นายภูมิธรรม นำคณะเข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร และเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนัก และเข้าสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ณ อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร ภายในวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร จากนั้น นายภูมิธรรม และคณะ […]

วธ.คึกคัก! ต้อนรับ “แพทองธาร” เข้ากระทรวงวันแรก

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้ากระทรวงวันแรก หลังนั่งควบเก้าอี้ รมว.วธ. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกตอนนี้แย่หน่อยต้องหยุดทำหน้าที่นายกฯ แต่ดีใจได้ทำหน้าที่รัฐมนตรีเต็มที่ ขอฝากตัว เตรียมดันเป็นกระทรวงหลัก สร้างโอกาสใหม่-รายได้ให้คนไทย ด้าน ปลัด วธ. นำข้าราชการต้อนรับ ลั่นประวัติศาสตร์ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นแล้ว เชื่อสปอตไลต์ส่องมา มั่นใจ ซอฟต์พาวเวอร์แข็งแกร่งแน่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้ากระทรวงวัฒนธรรมเป็นวันแรก โดยสวมชุดผ้าไทยสีม่วง ซึ่งเป็นสีประจำกระทรวงวัฒนธรรม โดยเดินทางมาถึงในเวลา 09.09 น. โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม, นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงมี สส. พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ ซึ่งทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรี […]