BIG STORY : ฟังจากปาก 2 ฝ่าย ปมวิวาห์ล่ม

ชุมพร 23 พ.ย. – กรณีคู่บ่าวสาวกำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้วแต่กลับถูกครอบครัวเจ้าบ่าวขอยกเลิกงานแต่ง ให้เหตุผลไม่มีเงินสินสอด ด้านฝ่ายชายพาทั้งแม่และพี่สาวออกมาโต้ ยืนยันไม่ได้เทงานแต่ง แค่เลื่อน แต่ฝ่ายหญิงจัดการเองหมดโดยไม่ปรึกษา ยอมรับตอนแรกไม่คิดออกมาตอบโต้ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้คงต้องออกมาพูดเพื่อศักดิ์ศรีของครอบครัว


กรณีคู่บ่าวสาวกำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่กลับถูกครอบครัวเจ้าบ่าวขอยกเลิกงานแต่ง ให้เหตุผลไม่มีเงินสินสอด ส่วนเจ้าบ่าวก็ติดต่อไม่ได้ ล่าสุดเจ้าสาวออกมาบอกว่าหากทำกันแบบนี้ขอตัดสัมพันธ์รัก 9 ปี พร้อมบอกให้เจ้าบ่าวแมนๆ มาคุยและเคลียร์หนี้ด้วย หากไม่มาจะฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นล้าน

เหตุการณ์นี้โด่งดังขึ้นเมื่อเพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว” โพสต์เรื่องราวสุดเศร้าของเจ้าสาว โดยบอกว่าความฝันของผู้หญิงคนหนึ่งต้องล้มครื้นลงทันที หลังถูกฝ่ายชายและทางญาติยกเลิกการจัดงานแต่งไปอย่างดื้อๆ สั่งให้ทั้งคู่หยุดความสัมพันธ์ ทั้งที่คบกันมานานถึง 9 ปี ที่สำคัญทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ การ์ดเชิญ ของชำร่วย รวมถึงเรือนหอที่ใกล้เสร็จ รอแค่แขกที่จะไปแสดงความยินดีกับงานแต่งที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วัน จู่ๆ ญาติฝ่ายชายโทรมายกเลิกด้วยเหตุผลสั้นๆ คือยังไม่มีเงินสินสอด เออ…จบทุกอย่างแบบนี้ง่ายๆ ก็ได้ด้วย เห็นใจผู้หญิง เสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก แถมเสียหน้าอีก แบบนี้น่าหาทนายมือดีมาช่วยจัดการจะได้ไม่ไปทำกับคนอื่น


เจ้าสาวแจงละเอียด คบ 9 ปี ถูกเท เครียดหนักถึงขั้นกินยาตาย
หลังเรื่องราวถูกแชร์ไป มีคนมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ทั้งแสดงความเสียใจกับเจ้าสาว ต่อว่าเจ้าบ่าว และบางรายก็คอมเมนต์ในเชิงตั้งคำถามว่าเรียกสินสอดแพงไปใช่ไหมถึงถูกเท ทำให้เจ้าสาวต้องออกมาโพสต์อธิบายเรื่องราว โดยเธอบอกว่ารู้จักกับฝ่ายชายเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2555 ตอนนั้นเธออยู่ ม.5 ตั้งแต่รู้จักคบหากันมา ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย รักกันดีมาก ดูแลกันดีมาก และหลังคบกันมานาน 9 ปี วันที่ 21 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ฝ่ายชายก็มาขอเธอแต่งงาน

จากนั้น 8 เมษายน ครอบครัวของฝ่ายชายเชิญผู้ใหญ่ฝ่ายเธอมาคุยเรื่องสินสอด ก่อนที่จะตกลงกันเป็นเงิน 600,000 บาท ทอง 5 บาท ส่วนเรื่องงานให้ครอบครัวฝ่ายหญิงเป็นคนเตรียมและจองบ้าน ขณะที่ฝ่ายชายไปหาฤกษ์ที่วัด พร้อมนัดจองถ่ายพรีเวดดิ้งกันวันที่ 17 กรกฎาคม ส่วนฤกษ์ที่ไปถามทางวัด ได้ฤกษ์วันที่ 14 พฤศจิกายน

เธอบอกว่าก่อนถึงวันแต่ง ช่วงเตรียมงานเธอก็ได้ปรึกษากับแฟนว่าจัดกันภายในครอบครัว โดยนัดจดทะเบียนสมรสกันวันที่ 12 พฤศจิกายน ถ่ายรูปทะเบียนสมรสวันที่ 14 พฤศจิกายน (วันแต่ง) แต่ยังไม่ทันถึงวันจดทะเบียนสมรส และวันแต่ง วันที่ 10 พฤศจิกายน ก็เกิดปัญหา ครอบครัวฝ่ายชายโทรมา และมีปากเสียงกับลูกของตัวเองด้วย จากนั้นเธอก็ติดต่อแฟนไม่ได้ ทำให้เธอเครียดกินยาฆ่าตัวตาย


ผ่านไป 2 วัน (12 พ.ย.) เธอทนไม่ไหว จึงขอหมอออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปตามหาแฟน กระทั่งไปพบอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง แต่เขาบอกว่าเขาขออยู่วัดก่อนเพื่อความสบายใจ แต่เธอมารู้ภายหลังว่าเขากลับบ้านไปกับครอบครัวในคืนนั้นแล้วไม่ติดต่อมาอีกเลย มือถือก็ปิด ทำให้เธอต้องโทรไปเบอร์คนในครอบครัวเขาแทน และก็ได้รับคำตอบจากฝ่ายชายว่า ขอจบกันเท่านี้

เธอบอกว่าวินาทีนั้นเหมือนตายทั้งเป็น หมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง พ่อแม่ ครอบครัว อับอายขายหน้าไปหมด มีแต่คำถามทุกวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ อยากจะตายให้พ้นไป ยิ่งมาตอนหลังรู้ข่าวว่าฝ่ายชายกับครอบครัวกินอิ่ม นอนหลับ ไม่ทุกข์ใจ ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ทั้งๆ ที่คบกันมา 9 ปี และนอกจากรู้ว่าเขากินอิ่ม นอนหลับ และเขาก็รู้ว่าเธอเสียใจ ครอบครัวฝ่ายชายยังมากดอีโมจิหัวเราะ เธอยิ่งแค้นใจ อยากขอความเป็นธรรม ฝากคนที่รู้จักหากเจอผู้ชายคนนี้ฝากถามเขาหน่อย จิตใจทำด้วยอะไร

เรียกร้องฝ่ายชายมาคุยแมนๆ เคลียร์หนี้ก่อนถูกฟ้องเป็นล้าน
ส่วนประเด็นเรื่องสินสอดที่หลายคนสงสัย เรียกไปแพงจริงจนฝ่ายชายไม่มีให้ ฝ่ายชายทำงานอะไร วันนี้ที่ฝ่ายหญิงได้มาออกรายการดังช่องหนึ่ง เธอให้ข้อมูลว่าครอบครัวฝ่ายชายมีฐานะดี มีธุรกิจส่วนตัว ส่วนฝ่ายชายเปิดอู่ซ่อมรออยู่ที่ชุมพร ที่สำคัญกว่านั้น ที่แม่เธอเรียกสินสอดไปเป็นเงินสด 600,000 บาท ทอง 5 บาท แม่ถามฝ่ายชายแล้วว่าไหวไหม เพราะถ้าไม่ไหวแม่ให้ฟรีไปเลย ทางนั้นบอกว่าไหว ทำให้เธอค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน และไม่ใช่เรื่องมีผู้หญิงคนอื่นด้วย ตอนนี้ที่เธอออกมาพูดกับสังคม เพราะอยากมาทวงศักดิ์ศรีคืน หากฝ่ายชายอยากจบ เธอบอกเลยวันนี้จบได้เลย แต่ขอให้มาคุยแบบแมนๆ เหมือนตอนมาจีบ เพราะตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้ ที่สำคัญตอนนี้มีหนี้การจัดงานแต่ง ทั้งค่าจองโรงแรม พรีเวดดิ้ง ดอกไม้ ค่าชุด อยู่ 170,000 บาท เพราะฝ่ายเธอสำรองจ่ายทั้งหมด ยืนยันแม้ยังรักและห่วงใย แต่จะไม่กลับไปหา และหากฝ่ายชายไม่มาคุยไกล่เกลี่ยดีๆ จะฟ้องเป็นล้าน ฟ้องให้มากกว่าค่างานแต่งที่จ่ายไปเกือบ 200,000 บาทด้วย

ฝ่ายชายโต้ไม่ได้ “เท” แค่ “เลื่อน” แต่ยอมรับขอจบเรื่องเอง
นายกฤษฎา หรือเกม อายุ 27 ปี ยืนยันไม่ได้เทงานแต่ง และตลอดเวลาที่คบกันเขาได้ช่วยเหลือดูแลฝ่ายหญิงมาตลอด ไม่ว่าจะให้ทำอะไร ไม่ว่าจะซักผ้า ล้างจาน ซื้อกับข้าว ทั้งๆ ที่ตอนอยู่บ้านของตัวเองไม่เคยทำ ย้ำว่าที่ผ่านมาตามใจทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีปัญหา แก้ไขตัวเองในทุกๆ เรื่อง ปรับเปลี่ยนตัวเองจนบางครั้งแทบรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

นอกจากนี้หากถามเรื่องว่ามือที่ 3 ยืนยันว่าไม่มีทั้งคู่ เพราะต่างคนต่างตั้งใจสร้างครอบครัวด้วยกัน และช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงพูดเรื่องแต่งงานมาตลอด โดยบอกว่าเลข 7 เป็นเลขอาถรรพ์ กลัวจะเลิกกัน จึงอยากแต่งงาน ขอให้ฝ่ายชายมาขอ แต่ส่วนตัวรู้ว่าที่บ้านยังไม่พร้อม เพราะมีทั้งเรื่องเศรษฐกิจในตอนนี้ และโควิดที่กำลังระบาด แต่ยอมรับว่าไม่ได้บอกฝ่ายหญิงว่างานการที่ทำอยู่ขาดสภาพคล่อง เพียงแต่คอยบอกฝ่ายหญิงว่าพ่อแม่ยังไม่ว่าง เพื่อจะได้หาเหตุผลเลื่อนการสู่ขอออกไป กระทั่งฝ่ายหญิงยื่นคำขาดหากไม่มาสู่ขอก็จะเลิก ทำให้ต้องยอมมาคุยกับพ่อแม่ และตกลงกันเรื่องสินสอด โดยมีฝ่ายหญิงเป็นคนจัดการในเรื่องการถ่ายพรีเวดดิ้ง หาฤกษ์แต่งงาน และเตรียมงานทุกอย่างเองหมด ส่วนตัวในตอนนั้นคิดว่าคงจะหาเงินสินสอดมาได้ ย้ำว่าตัวเองรู้ดีว่าพ่อแม่ไม่พร้อม แต่อีกใจหนึ่งก็สงสารฝ่ายหญิง เพราะเตรียมเรื่องต่างๆ ไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ายหญิงไปหาฤกษ์แต่งงาน พ่อแม่ของตนได้ขอเลื่อนงานแต่งไปก่อน เพราะยังไม่มีค่าสินสอด โดยบอกว่าหากสถานการณ์ดีขึ้นจะจัดเลี้ยง จัดงานแต่งงานให้เหมือนเดิม พร้อมกับยอมรับช่วงก่อนงานแต่งไม่กี่วัน รู้ตัวอยู่แล้วว่าไม่มีสินสอดที่จะเอาไปให้ฝ่ายหญิงแน่นอน และคิดว่าคงจะไม่จดทะเบียนสมรส หรือมีงานแต่งเกิดขึ้น ทำให้คิดจบปัญหาทั้งหมด โดยการจบชีวิตตัวเอง แต่เมื่อฝ่ายหญิงรู้ว่าฝ่ายชายจะไม่มาจดทะเบียนสมรส จึงกินยาฆ่าตัวตาย ส่วนแม่ของฝ่ายหญิงได้มาบอกว่าหากไม่มีสินสอดมาก็ขอจบกันเท่านี้ เพราะถือว่าเลี้ยงดูลูกของเขาไม่ได้

เกมยังย้ำอีกว่าหลังจากนั้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน ก็คิดจะจบชีวิตตัวเอง เพื่อจบปัญหา จึงขับรถออกจากบ้านไป ลงไปในทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่ง จึงไปขออาศัยอยู่ที่วัดในแถบนั้น จนพี่สาวมาตามหาเจอจึงพากลับบ้าน ยอมรับตอนแรกไม่คิดออกมาตอบโต้ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้คงต้องออกมาพูดเพื่อศักดิ์ศรีของครอบครัว

แม่รับสินสอดแพงไม่พอจ่าย-แค่ขอลูกเลื่อนงานแต่ง ไม่ได้เท
ส่วนแม่ของฝ่ายชายให้ข้อมูลเพิ่มว่า ลูกบอกให้ไปคุยกับครอบครัวฝ่ายหญิง ทางนั้นบอกว่าเรียกไม่แพง แม่เลยตัดสินใจไปคุย แต่เมื่อไปคุยครอบครัวฝ่ายหญิงเรียกสินสอดเป็นเงินสด 800,000 บาท ทองคำ 10 บาท แม่จึงต่อรองทางนั้นจึงลดให้เหลือ 600,000 บาท กับทองคำ 5 บาท ยืนยันว่าขอเลื่อน ไม่ได้ยกเลิกงาน จนมารู้ทีหลังแม่ฝ่ายหญิงโทรมาต่อว่า แม่จึงไปคุยกับเกม เกมก็บอกว่าขอจบทุกอย่าง ไม่ไปต่อ ด้วยท่าทางที่ไม่มีความสุข และหายตัวไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]