เพชรบูรณ์ 10 พ.ย. – “ทริปน้ำไม่อาบ” ก่อวีรกรรมไม่จบ ล่าสุดใช้กาน้ำร้อนของที่พักต้มชาบู ด้านเจ้าของที่พักโพสต์ตำหนิใช้ของผิดประเภท ทำของเสียหาย ลั่นต้องชดใช้
ยังเป็นประเด็นต่อเนื่อง กรณีกลุ่มจักรยานยนต์นัดรวมตัวกันจัดทริปชื่อว่า “ทริปน้ำไม่อาบ” โดยขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าขึ้นภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ นับพันคัน ส่วนใหญ่เป็นรถแต่งซิ่ง มีการดัดแปลงสภาพ และก่อความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ทำให้ตำรวจต้องตั้งจุดสกัด และสามารถจับกุมได้จำนวนมากก่อนหน้านี้
แม้ “ทริปน้ำไม่อาบ” จบสิ้นไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าวีรกรรมที่แก๊งนี้ก่อไว้จะยังไม่หมด และมีผู้ออกมาเปิดเผยเรื่อยๆ ล่าสุดวานนี้ (9 พ.ย.) เพจที่พักแห่งหนึ่งบนภูทับเบิก ในพื้นที่ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โพสต์ภาพกาน้ำร้อนที่เต็มไปด้วยเศษอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผัก วุ้นเส้น หรือน้ำที่เหลืออยู่ในกาน้ำร้อน พร้อมระบุข้อความว่า “คุณลูกค้า ไม่น่ารักเลยครับ กาน้ำร้อนเอาไว้ต้มน้ำร้อน เพื่อชงกาแฟ แต่คุณลูกค้าเอาไปต้มมาม่า ใช้ของผิดประเภทนะครับ ของเสียหาย ต้องชำระและชดใช้นะครับ”
ภายหลังชาวเน็ตได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักถึงพฤติกรรมดังกล่าว บางคนวิจารณ์ถึงขั้นว่า อย่าเอานิสัยที่บ้านมาใช้ เช่น “คนแบบนี้ไม่ต้องให้ไปพักที่ไหนเลย, ส่อสกุล ไม่น่ารัก, พวกนี้ไม่มีจิตสำนึกเลย ไม่รู้ถูกเลี้ยงมาแบบไหนกัน, มักง่าย, คนบางประเภทก็ไม่มีจิตใต้สำนึกกันซะเลยค่ะ”
ต่อมามีชาวเน็ตตาดีพบว่า มีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ซึ่งอยู่ใน “ทริปน้ำไม่อาบ” โพสต์วิดีโอระบุ #ทริปน้ำไม่อาบ #ญาติระอา #รายทางเดียว168 ซึ่งผู้ใช้ TikTok คนเดียวกันนี้ ได้โพสต์วิดีโอขณะพากันกินชาบูรอบดึก โดยใช้กาต้มน้ำร้อนของที่พักเป็นภาชนะต้มชาบูกินกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งชาวเน็ตคาดว่าเป็นสถานที่เดียวกัน ยิ่งทำให้ชาวเน็ตและชาว จ.เพชรบูรณ์ รับพฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้
ด้านคดีของแก๊งรถซิ่งกลุ่มนี้ ล่าสุดเมื่อวานนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (ศปข.ตร.) เผยว่า กรณีกลุ่มวัยรุ่นแก๊งรถซิ่งออกทริปไปเที่ยวภูทับเบิก ชื่อ “ทริปน้ำไม่อาบ” ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สืบเนื่องจาก ศปข.ตร.ได้ตรวจพบว่า มีกลุ่มรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งหลายร้อยคัน ชักชวนกันทางสื่อโซเชียลมีเดียออกทริปทำบุญเที่ยวภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ จึงได้ประสานไปยังตำรวจพื้นที่ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้เกือบยกแก๊ง แบ่งเป็นความผิด ทั้ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ร.บ.รถยนต์ และความผิดตามกฎหมายอื่นๆ ดังนี้ 1. ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร จำนวน 1 ราย 2. ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ จำนวน 269 ราย 3. ไม่พกสำเนาคู่มือรถ จำนวน 12 ราย 4. ไม่สวมหมวกนิรภัย จำนวน 88 ราย 5. ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 78 ราย 6. อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน จำนวน 369 ราย 7. ไม่ชำระภาษีประจำปี จำนวน 19 ราย 8. เปลี่ยนแปลงตัวรถฯ จำนวน 8 ราย 9. ว่ากล่าวตักเตือน จำนวน 450 ราย. – สำนักข่าวไทย