โค้งใต้สะพานเปิดเป็นช่อง เชื่อทำหนุ่มสุพรรณฯ ดับ

นครสวรรค์ 8 พ.ย. – พบแล้วศพหนุ่มทายาทเจ้าของร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตรรายใหญ่เมืองสุพรรณบุรี ขับรถหลงทาง-หลุดโค้งใต้สะพานเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ รถพุ่งตกน้ำเจ้าพระยา หลังกลับจากงานวันเกิดเพื่อน แม่เชื่อลูกหลงทางจนเกิดอุบัติเหตุ แคลงใจจุดเกิดเหตุช่วงหัวโค้งใต้สะพานทำไมไม่มีแบริเออร์กั้น ขณะที่ชาวบ้านบอกจุดนี้ตายแล้ว 3 ศพ เจ็บอีกเพียบ ยิ่งกลางคืนไม่ต้องพูดถึง


2 วันเต็มกับปฏิบัติการค้นหาร่างนายธีระภัทร์ หนุ่มวัย 27 ปี ลูกชายเจ้าของร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตรชื่อดังเมืองสุพรรณบุรี ที่ขับรถตกแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใต้สะพานตะเคียนเลื่อนสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ทางเลี่ยงเมือง จ.นครสวรรค์ เมื่อคืนวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นักประดาน้ำและชุดกู้ภัยใช้อุปกรณ์ค้นหาใต้น้ำเร่งค้นหา ก่อนจะพบร่างนายธีระภัทร์ลอยติดริมเจ้าพระยาที่บ้านวังฉ่า อ.โกรกพระ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 15 กิโลเมตร สภาพศพมีกระเป๋าสะพายข้างติดตัว ภายในมีเอกสารบัตรประจำตัว ที่ระบุชื่อนายธีระภัทร์ไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังพบเงินสดเกือบ 9,000 บาท บัตรเครดิต และนาฬิกา

วงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ ช่วงเวลา 5 ทุ่มเศษ ของวันที่ 5 พฤศจิกายน จับภาพรถของนายธีระภัทร์ได้ชัด พบก่อนที่รถจะตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา นายธีระภัทร์ขับวนลอดใต้สะพานที่เกิดเหตุ 2 รอบ


เพื่อนสาวคนสนิทบอกว่าขณะกำลังขับรถเดินทางออกจากนครสวรรค์ เกิดการพลัดหลงกับนายธีระภัทร์ แต่ได้ติดต่อกันเป็นระยะ ครั้งสุดท้ายนายธีระภัทร์บอกว่าไม่ต้องย้อนมารับ เนื่องจากกำลังกำเปิด GPS ขับตามไปได้ จึงทำให้เธอไม่กล้าโทรกลับไป เกรงว่าจะรบกวนการใช้โทรศัพท์ ซึ่งสอดคล้องกับแม่ของนายธีระภัทร์ที่บอกว่าได้โทรหาลูกชายในขณะเกิดเหตุ ลูกชายบอกว่าขับรถตกน้ำ แล้วจะรีบโทรหาเพื่อนให้มาช่วย จากนั้นโทรศัพท์ก็ตัดไป กระทั่งพบสัญญาณโทรศัพท์ของนายธีระภัทร์โผล่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา แม่ของนายธีระภัทร์เชื่อว่าลูกหลงทางจนเกิดอุบัติเหตุ แคลงใจจุดเกิดเหตุมีการเปิดช่องทางเอาไว้ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข เชื่อหากมีแบริเออร์มาปิดกั้นไว้อาจจะไม่ทำให้ลูกต้องจบชีวิตแบบนี้

ป้าจุฑามาศ ร้านอาหารตามสั่ง ใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้มีรถหลายคันที่ไม่ชินทาง มักจะวนลอดใต้สะพานหลายครั้ง เพราะงงเส้นทาง และบ่อยครั้งจะมีคนจอดรถถาม ส่วนตัวมองว่าอาจจะเกิดจากการสร้างอุโมงค์ จึงทำให้คนไม่ชินเส้นทาง ส่วนไฟส่องสว่างเธอระบุว่าก่อนหน้านี้ 1 ปี ใช้การไม่ได้ แต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ได้ประสานแขวงการทางมาซ่อมแซมจนกลับมาสว่างอีกครั้ง ยืนยันวันเกิดเหตุมีไฟส่องสว่าง ส่วนหัวโค้งใต้สะพานที่ไม่มีแบริเออร์กั้นเป็นแบบนี้มา 1 ปีแล้ว

ส่วนนายดิเรก บอกว่าถนนทางลอดใต้สะพานแห่งนี้อันตรายมาก เพราะมีการเปิดช่องทางริมแม่น้ำเอาไว้ และเปิดไว้นานแล้ว ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แม้แต่คนในพื้นที่ก็ยังประสบอุบัติเหตุ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน หากมองไกลจะเห็นเป็นทางที่น่าจะไปได้ แล้วยิ่งตรงช่วงโค้ง ไม่มีแสงสว่างที่เพียงพอ จึงทำให้หลายคนเข้าใจผิด มองว่ามีแยกให้ไปทางตรงได้


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เผยว่าเบื้องต้นสภาพศพไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยของการถูกทำร้าย น่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ ขณะนี้ต้องรอผลชันสูตรจากนิติเวช ส่วนจุดเกิดเหตุ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร่วมกันแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ

แม้จะพบร่างของนายธีระภัทร์ แต่ทีมกู้ภัยยังคงเดินหน้างมหารถคันเกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง คาดว่ารถน่าจะอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร ยังไม่ลอยไปไหนไกล แต่อุปสรรคในการค้นหาคือกระแสน้ำที่แรงและน้ำค่อนข้างมาก

ร่างของนายธีระภัทร์ถูกส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์แล้ว ซึ่งครอบครัวจะนำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดคูเมือง จ.สุพรรณบุรี บ้านเกิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]