จ่อหมายจับเพิ่มอีก 1 แก๊งยิงถล่มกลางเมืองสุพรรณบุรี

สุพรรณบุรี 2 พ.ย.-สำนักข่าวไทย ยังเกาะติดคดียิงถล่มกลางเมืองสุพรรณบุรี มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 2 คน โดยตำรวจเตรียมออกหมาย 1 ในแก๊งคนร้าย พร้อมย้ำคดีนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 4-6 คน และแม้คดีจะดูซับซ้อนแต่มั่นใจไม่นานจับคนร้ายได้ครบ


ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรสุพรรณบุรี แบ่งกำลังตามแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อตามล่าแก๊งซุ่มยิงถล่มคู่กรณี และขับรถไล่ชนบริเวณถนนสาย 321 อู่ทอง-สุพรรณบุรี เป็นเหตุให้นายวัชรพงศ์ ธรรมณี หรือ อ๊อฟ อายุ 30 ปี เสียชีวิตกลางดึกวันที่ 31 ตุลาคม ส่วนนายปวีณกร โพธิ์สุข หรือ บาส และนายศักดิ์ดา หรือมี่ อายุ 17 ปี ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ได้รับบาดเจ็บ

โดยวันนี้ พลตำรวจตรีเกรียงไกร วุฒิพานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน ติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมเปิดเผยภายหลังประชุมว่า ได้สั่งชุดสืบสวนแบ่งทีมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกจุด และสอบสวนกลุ่มผู้ต้องสงสัยทั้งหมดแล้ว หลักฐานตอนนี้นอกจากปลอกกระสุนขนาด 9 มม.ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุมากกว่า 10 นัด ยังมีรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ที่เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) เจ้าของรถได้ขับมาให้ตำรวจตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีรถคันนี้ปรากฏในคลิปว่าขับรถชน อ๊อฟ กับ บาส ทำให้ตอนนี้ทีมพิสูจน์หลักฐาน เร่งเก็บรวบรวมหลักฐานทุกจุดของรถเพื่อพิสูจน์ทราบผู้ที่อยู่ในรถว่าเป็นใคร ย้ำว่าตำรวจมีแนวทางการสืบสวนอยู่แล้ว ขอแค่เวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน เพราะทุกอย่างจำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐาน รอผลตรวจรถ ผลกระสุน ปลอกกระสุน และบางเรื่องยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งไม่อาจเปิดเผยได้ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีแค่ 4-6 คน และคาดว่า ไม่นานเรื่องนี้จะคลี่คลาย ตามจับคนร้ายได้ครบทุกคน ซึ่งล่าสุดก็เตรียมออกหมายจับคนร้ายเพิ่มอีก 1 คนแล้ว นอกจากนี้ กรณีเจ้าของฟอร์จูนเนอร์ให้การว่าไม่เกี่ยวข้อง ย้ำว่าเป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ เพราะตำรวจมีหน้าที่สืบสวน


ด้านภรรยาของ “อ๊อฟ” ผู้เสียชีวิต ได้ออกมาขอความเป็นธรรม ทันทีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรีให้ข้อมูลกับนักข่าวเสร็จ เพราะมายืนฟังอยู่ด้วย เธอบอกว่า กังวล กลัวไมได้รับความปลอดภัย เพราะได้ยินมาว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพล และเธอไม่รู้ด้วยว่าอ๊อฟไปขัดแย้งกับใคร หรือมีเรื่องอะไรกันมาก่อน อยากได้รับความคุ้มครอง และอยากให้ตำรวจให้ความยุติธรรมกับอ๊อฟด้วยเพราะอ๊อฟถูกยิงตายอย่างโหดเหี้ยม ตอนนี้หากมีการให้รับศพอ๊อฟมา ก็ยังจะไม่เผา จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

คดีนี้ หลายคนอาจยังสับสน เพราะมีความซับซ้อน เพราะกล้องวงจรปิดจับภาพหน้าแบบชัดๆ ของผู้ก่อเหตุไม่ได้เลย ขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่สามารถสอบถามได้ 2 คนก็บาดเจ็บ ส่วนอีก 1 คน เสียชีวิต แต่เพื่อให้เห็นภาพกันแบบชัดๆ ตามที่เราได้ข้อมูลจากตำรวจ ไล่เรียงเหตุการณ์กันแบบนี้ คดีนี้ มีตัวละครคร่าวๆ 6 คน แต่ที่เรารู้ชื่อมีด้วยกัน 3 คน คือ มี่ อ๊อฟ และบาส คืนเกิดเหตุ 31 ตุลาคม “มี่” ได้โทรไปหา “อ๊อฟ” บอกว่าจะติดต่อซื้อขายยาชา ที่ใช้ก่อนสักเพื่อให้ไม่เจ็บ ซึ่งยาตัวนี้มีผลข้างเคียงในการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ และทำให้แข็งตัวนานด้วย ทั้งคู่จึงนัดพบกันในหมู่บ้าน แต่ “อ๊อฟ” ไม่ได้ไปคนเดียว ได้เอา “บาส” ไปด้วย “บาส” จึงไปยืมรถวีออสของน้าขับไปกับ “อ๊อฟ”

เมื่อถึงจุดนัดหมาย ซอยทางเข้าวัดภูเขาดิน ตำบลบางกุ้งเหนือ “มี่” ขี่มอเตอร์ไซด์มาคุยกับ อ๊อฟ และบาส ซึ่งในตอนนั้น “มี่” อาศัยจังหวะที่ “อ๊อฟ” เปิดกระจกมาคุย เอื้อมมือไปบิดกุญแจรถวีออส ทำให้กุญแจรถหักคาที่เสียบ และยังไม่ทันที่จะคุยอะไรกันต่อ “มี่” ก็หลบออกมา แต่ยังไม่ทันพ้นจากจุดที่คุยกัน กลุ่มคนร้ายที่ซุ่มอยู่ได้ใช้ปืน 9 มม.กระหน่ำยิงมาที่รถที่อ๊อฟและบาสนั่งอยู่ ทำให้ อ๊อฟ กับ บาส ตัดสินใจหนีออกจากรถ แล้ววิ่งไปขี่มอเตอร์ไซค์ที่ “มี่” ทิ้งไว้ ขี่หนีออกจากถนนหมู่บ้าน เพื่อมุ่งหน้าไปยังถนนสายหลัก ระยะทางน่าจะห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งจังหวะนั้น “บาส” ยังได้ชักปืนออกมายิงใส่กลุ่มที่ยิงถล่มด้วย


แต่หนีได้ไม่นาน มอเตอร์ไซด์ที่ อ๊อฟ กับ บาส ขี่มา ก็ถูกรถฟอร์จูนเนอร์ขับตามมาชนจนล้ม แล้วทับซ้ำ ก่อนลากรถมอเตอร์ไซด์ไถลไปตามถนนจนเกิดประกายไฟ ตามที่ราเห็นในกล้องวงจรปิด แต่ฟอร์จูนเนอร์ไม่หยุดเพียงเท่านั้น ได้มีการวกรถกลับมา และคนขับได้ตรงเข้าไปจ่อยิง “อ๊อฟ” จนเสียชีวิต ส่วน “บาส” ซึ่งถูกยิงที่แขนได้หนีลงพงหญ้าข้างทาง และรอดมาได้เพราะมีพลเมืองดีมาช่วย ขณะที่ “มี่” ที่เป็นคนนัด “อ๊อฟ” มาถูกยิงเข้าที่ท้องอาการสาหัส และตอนนี้ ทั้ง “มี่” และ “บาส” ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล

คดีนี้ ตำรวจ เชื่อว่า 2 ฝ่ายน่าจะขัดแย้งกันมาก่อน และกลุ่มมือปืนที่ยิงถล่มได้ให้ “มี่” เป็นนกต่อนัด “อ๊อฟ” (ผู้ตาย) ออกมา ทำให้ตอนนี้ตำรวจเตรียมออกหมายจับ “มี่” เพิ่มเติม นอกเหนือจากออกหมายจับ “บาส” ไปแล้วเมื่อวานในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันมีอาวุธปืน และร่วมกันพาอาวุธปืน ไปในเมืองในหมู่บ้านในทางสาธารณะ ไม่มีเหตุอันควร

ซึ่งนอกเหนือจากตัวละครทั้ง 3 คน ต้องรอดูข้อมูลจากตำรวจเกี่ยวกับคนขับรถฟอร์จูนเนอร์เพราะตอนนี้ได้รถมาแล้ว และพิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าเป็นรถในที่เหตุการณ์แน่นอน เนื่องจากกระจกหน้าด้านซ้ายฝั่งคนขับ มีรอยกระสุนปืน 1 รู และที่หน้ารถรวมถึงใต้ท้องรถมีรอยชนครูดกับของแข็ง แต่ยังไม่รู้ตัวคนขับที่แน่ชัด เพราะเจ้าของรถยืนยันไม่รู้ไม่เห็น มีคนยืมรถไป ทำให้ต้องตามกันต่อในอีกหลายประเด็น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง

เร่งประสานอินเตอร์โพลขอหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ”

ตำรวจเตรียมออกหมายจับเครือข่าย “หมอบุญ” ฉ้อโกง ลอต 2 รวมทั้งเร่งประสานอินเตอร์โพล ออกหมายแดงล่าตัว “หมอบุญ” กลับมาดำเนินคดี