ตรัง 2 พ.ย.- เจ้าของร้านอาหารซีฟู๊ด บนเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ยกทะเลขึ้นบก หลังเกาะปิดท่องเที่ยวจากโควิด-19 หันมาเช่าทำเลเปิดร้าน ชูเมนูเด่นซาชิมิหอยสังข์ยักษ์ ตัวละ 200 หากสั่งอาหารครบ 2,000 แถมฟรี 1 ตัว และยังมีเมนูเด็ดๆ อีกกว่า 70 เมนู
ร้านจ๊ะไหนซีฟู๊ดเกาะลิบง หมู่ที่ 6 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง ของน.ส.อนัญญา เบ็ญสะอาดหรือ “จ๊ะไหน” อายุ 49 ปี เดิมเปิดร้านอาหารทะเลอยู่บนเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง มาหลายสิบปี แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ปิดเกาะ ส่งผลให้ร้านอาหารของจ๊ะไหนไม่มีลูกค้า และยังกระทบชาวประมงพื้นบ้านที่หาสัตว์น้ำ ทั้งกุ้ง หอย ปูปลา ปลาหมึก ขาดแหล่งรับซื้อ เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยว
“จ๊ะไหน” จึงต้องยกทะเลขึ้นบก เพื่อให้ชาวประมงกลุ่มนี้อยู่รอดไปพร้อมๆ กัน โดยหันมาเช่าที่เปิดร้านใหม่ใกล้สี่แยกควนปริง อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นศูนย์อาหารอิสลามเก่า มีอาหารทะเลสดใหม่ทุกชนิดให้ลูกค้าเลือกซื้อด้วยการฟรีซในช่องแช่แข็งและแกงปรุงสำเร็จรูปแช่แข็ง พร้อมส่งให้ลูกค้าทั่วประเทศ โดยเปิดให้บริการวันนี้ (2 พ.ย) เป็นวันที่ 2 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.-21.00 น.
เมนูเด็ดคือ “ซาชิมิหอยสังข์ยักษ์” หรือ “หอยสังข์หน้ายักษ์” สดจากทะเลแบบตัวต่อตัว ขายราคาตัวละ 200 บาท แต่หากลูกค้าสั่งอาหารครบ 2,000 บาท จะแถมซาซิมิหอยสังข์ยักษ์ให้ฟรี 1 ตัว สำหรับหอยสังข์ยักษ์นี้เป็นหอยน้ำลึก หากินยาก รสชาติหวาน นุ่ม ใช้แทนหอยเป๋าฮื้อได้ เปลือกสามารถนำไปทำเครื่องประดับ ฝาหอยใช้ทำเครื่องดื่มชูกำลังได้
นอกจากนี้ ยังมีซาชิมิกุ้งมังกรเจ็ดสี ซาชิมิปลาหมึกสด ซาชิมิปลากระพงแดง และอาหารทะเลหากินยาก เช่น แกงคั่วหอยสังข์ หมึกผัดดำ หอยหลอดไซส์ยักษ์ เอ็นหอยผัดฉ่า ปูม้าสด กุ้งลายเสือและอื่นๆ อีกกว่า 70 เมนู ราคาตั้งแต่ 50 บาทจนถึงหลักพัน เปิดขายได้เพียงวันเดียว ลูกค้าแห่อุดหนุนอย่างต่อเนื่อง โดยที่ร้านมีห้องละหมาดและบริการนำเที่ยว ซึ่งมีการนำอาหารทะเลสดไปปิ้งย่างให้ถึงที่ด้วย
น.ส.อนัญญา หรือ จ๊ะไหน เจ้าของร้าน บอกว่าเมนูเด็ดตอนนี้คือ ซาชิมิหอยสังข์ แกงคั่วหอยสังข์ กุ้งมังกรเจ็ดสี และกำลังจะทำปลิงทะเลเมนูต่อไป โปรโมชันช่วงนี้ถ้ากินครบ 2,000 บาท แถมซาชิมิหอยสังข์ฟรี 1 ตัว จ๊ะไหนบอกว่าที่ผ่านมาหลังปิดเกาะลิบง 7 เดือน ชาวบ้านมักมาถามหาแหล่งขายอาหารทะเล เพราะว่างงาน ขาดรายได้ จึงตัดสินใจมาเปิดร้านอาหาร โดยเอาอาหารทะเลจากเกาะมาขาย เพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่ได้ และรับซื้ออาหารทะเลของชาวบ้าน เป็นการช่วยเหลือกันอีกทางหนึ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย