แทบทรุด! อัปเดตสมุดบัญชีพบเงินหาย 1.8 ล้านบาท

ชัยภูมิ 24 ต.ค.- โดนดูดเงิน! เคสนี้ผู้เสียหายอยู่เมืองนอกนำเงินไปฝากธนาคารแล้วไม่มีการฝากถอนทำธุรกรรมเลย ถูกเเก๊งมิจฉาชีพดูดเงินฝากจากบัญชีธนาคารหลายครั้ง สูญเงินกว่า 1.8 ล้าน เหลือติดบัญชีหลักพัน 


นางกำไล ดันชัยภูมิ อายุ 58 ปี และนางนรินทร์ จันทร์ชัยภูมิ อายุ 36 ปี หลานสาวเดินทางไปแจ้งความหลังได้รับการมอบอำนาจจากนางสาวฝ้าย นามหนองอ้อ พีเตอร์สัน ซึ่งเป็นน้องสาวของนางกำไล ปัจจุบันอยู่กับสามีที่ประเทศเยอรมันและโอนเงินมาเข้าบัญชีธนาคารเพื่อเก็บไว้ใช้จ่ายในช่วงที่เดินทางกลับมาบ้านเกิดแต่เนื่องจากช่วงนี้เกิดโรคระบาด จึงไม่สามารถเดินทางกลับบ้านเกิดได้ จึงโทรศัพท์ให้นางกำไล นำบัญชีธนาคารที่อยู่ภายในตู้เซฟนิรภัยภายในบ้านไปตรวจสอบยอดเงินฝาก ปรากฏว่าเงินในบัญชีที่ฝากไว้กว่า 1,800,000 บาท ได้ถูกแก๊งมิจฉาชีพแอบถอนออกไปตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 64 จำนวน 300,000 บาท วันที่ 9 ตุลาคม 2564 ถอนไปจำนวน 3 ครั้ง อีก 1,160,000 บาท และวันที่ 10 ตุลาคม 2564 แอบถอนไปอีก 800,000 บาท เหลือเงินคงเหลือในบัญชีเพียง 3,700 บาทเท่านั้น เมื่อทวงถามไปยังธนาคารเจ้าของบัญชีกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้คำตอบที่ชัดเจน จึงขอดูสเตทเมนต์การทำธุรกรรม แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงนำหลักฐาน พร้อมกับนำสมุดบัญชีธนาคาร แจ้งความกับตำรวจ ให้ดำเนินคดีหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี

เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียหายที่เป็นผู้สูงอายุและประชาชนที่อยู่เมืองนอก ที่นำเงินไปฝากธนาคารแล้วไม่มีการฝากถอนทำธุรกรรมเลย ถูกดูดเงินฝากจากบัญชีธนาคารหายไปหลายรายมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเมื่อดูจากพฤติกรรมการถอนเงินพบว่า คนร้ายทยอยโอนเงินผ่านสมุดบัญชีธนาคารของผู้เสียหายไปยังอีกธนาคารในพื้นที่เดียวกัน โดยที่เจ้าของบัญชีไม่รู้เรื่องเลย จนเงินหมดบัญชีเหลือไว้ให้ดูต่างหน้าเพียงไม่กี่พันบาท


ด้าน ร.ต.ท.พัชรพล อาจกมล ร้อยเวร สภ.เมืองชัยภูมิ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบกลุ่มมิจฉาชีพรู้ความเคลื่อนไหวการทำธุรกรรมการเงินของลูกค้า และรู้หมายเลขบัตรประชาชนของลูกค้าทุกคน แล้วดำเนินการนำไปเปิดบัตรเครดิต-บัตรเดบิต แล้วแอบถอนเงินทางโทรศัพท์โยกย้ายเงินในบัญชีลูกค้าไปยังอีกธนาคารหนึ่งในตัวเมืองชัยภูมิ แล้วนำเงินไปลงทุน ซึ่งจากการตรวจสอบขณะนี้ พบว่าในเมืองชัยภูมิมีผู้เสียหายที่เป็นชาวบ้านผู้สูงอายุ ถูกกระทำการดังกล่าวไปแล้วกว่า 4ราย ยอดเงินสูงกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งตำรวจจะสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

DSI-กกต. นำหมายเรียกแปะหน้าบ้าน สว. ทั่วกรุงเทพฯ

3 สว. “อลงกต-จิระศักดิ์-วุฒิชาติ” ปิดบ้านเงียบ หลัง กกต. และดีเอสไอ นำหมายเรียกคดีฮั้ว สว. เชิญตัวเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตาม พ.ร.ป.สว.61

นายกฯ เลี่ยงตอบสื่อ ปมมติแพทยสภา

นายกฯ เลี่ยงให้สัมภาษณ์ หลังสื่อรอถามมติแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ด้าน “สรวงศ์” มองอุณหภูมิการเมืองจะร้อนแรงหรือไม่อยู่ที่สื่อ ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ

พระโคกิน “น้ำ-หญ้า-เหล้า” น้ำท่าบริบูรณ์ การค้าขายดี เศรษฐกิจรุ่งเรือง

พระยาแรกนา เสี่ยงทายหยิบได้ผ้านุ่ง 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำปีนี้มีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ดี พร้อมพระโคกินน้ำ หญ้า และเหล้า โหรหลวงพยากรณ์ น้ำท่าบริบูรณ์ การค้าขายดี เศรษฐกิจไทยรุ่งเรือง