ปราจีน 19 ต.ค. – ชายวัย 55 ขับรถชนช้างล้มบนถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว จ.ปราจีนบุรี เข้าพบพนักงานสอบสวน ขณะที่เจ้าของเก๋งโตโยต้าออกจากโรงพยาบาล เดินทางมาให้ปากคำถึงกรณีลูกช้างล้ม
เมื่อช่วงเย็นวันนี้ นายสมศักดิ์ อายุ 55 ปี เจ้าของรถยนต์ฟอร์ดเอสเคปสีดำ หมายเลขทะเบียน 4กฉ6168 กรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.กิตติพงษ์ สีห์บุตร พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีขับรถชนลูกช้างล้มบนถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว บ้านหว้าเอน หมู่ 8 ต.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อช่วงค่ำวานนี้
นายสมศักดิ์เล่าว่า ขณะตนกำลังขับรถเพื่อกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านศาลาลำดวน มาถึงที่เกิดเหตุ ช้างน่าจะเกิน 40 ตัว พากันวิ่งข้ามถนนลักษณะตกใจ ซึ่งเป็นจังหวะที่ตนมาถึงชนแล้วรถหยุด แม่ช้างหันกลับมาดูลูกก่อนที่จะเข้ามาเหยียบรถ แต่โชคดีที่เครื่องยนต์รถไม่ดับ จึงพยายามขับลัดเลาะออกมาจนพ้น แล้วขับไปจอดที่หน้าปั๊มน้ำมันซึ่งห่างจากจุดดังกล่าวราว 3 กิโลเมตร ตนคิดว่าถ้าอยู่ในที่เกิดเหตุหรือรถเสียก็ไม่คิดว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ มีสำนักข่าวบางแห่งบอกว่ามีช้างแค่ตัวเดียวนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะตนเห็นช้างยืนเรียงรายกันเหมือนกำแพง ดูมืดไปหมด ส่วนช้างที่ชนจะเป็นลูกช้างหรือแม่ช้าง ช่วงนั้นตนไม่ทันได้ดู มารู้ตอนมีข่าวว่าลูกช้างล้ม 1 ตัว
ขณะเดียวกัน นางสาวอาริยะ อายุ 40 ปี คนขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน 4กฉ6168 กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยนำตัวส่ง รพ.จุฬารัตน์ วันนี้ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเช่นกัน เล่าว่า ขณะตนขับรถมาถึงที่เกิดเหตุเห็นช้างตัวเล็กเดินอยู่ฝั่งขวา จึงหักหลบ มองเห็นช้างอีกตัวนอนอยู่บนถนน ขณะที่ตนหักหลบตัวที่เดินถนนมาชนตัวที่นอน เพราะไม่สามารถหลบได้อีกแล้ว เนื่องจากหลบจากตัวแรกเลยชนเข้าเต็มๆ รู้สึกตกใจที่ตนเองไม่สามารถหลบได้ ซึ่งช่วงเกิดเหตุมีตนเองขับรถมาคันเดียวและมืด ส่วนช้างตัวเล็กอีกตัวไม่รู้ว่าหายไปทางไหน โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แค่เจ็บหน้าอก มีคนที่เห็นบอกว่ารถเหินลอยขึ้นไปแล้วหมุน 4 รอบ.-สำนักข่าวไทย