เชียงใหม่ 14 ต.ค.-หลังเกิดเหตุเด็กชายชาวรัสเซียวัย 7 ขวบ ตกบ่อน้ำพุร้อน ที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งร้อนถึง 94 องศาเซลเซียส จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาที่เชียงใหม่ โดยไม่มีประกัน จนค่ารักษาพยาบาลทะลุ 5 แสนบาท และอาจจะถึงหลักล้าน ซึ่งมีกระแสข่าวตำรวจไทยไม่รับแจ้งความและไม่ได้รับความช่วยเหลือ จนสื่อของรัสเซียนำไปตีข่าวโด่งดัง ทำให้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายต้องเร่งตรวจสอบเหตุการณ์นี้
กรณีเด็กชายชาวรัสเซียวัย 7 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผิวหนังถูกน้ำร้อนลวกตามแขนขาและลำตัว ต้องผ่าตัดถึง 3 ครั้ง ใน 1 สัปดาห์ จนอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม หลังพลัดตกบ่อน้ำพุร้อนที่อำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่งสอน โดยค่ารักษาพยาบาลทะลุ 500,000 บาท ไม่มีประกันชีวิต ซึ่งครอบครัวกังวลกับค่ารักษาระยะยาวที่อาจจะสูงถึงหลักล้านบาท โดยตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าสอบถามข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น
โดย อิลินา เครปโตวา แม่ของเด็กชายคนนี้ พร้อมสามี เล่าว่า ครอบครัวมาเที่ยวเมืองไทยได้ราว 1 ปี ส่วนใหญ่อยู่ที่พัทยา เดินทางมาท่องเที่ยวภาคเหนือก่อนจะกลับรัสเซียในเดือนหน้า วันที่ 4 ตุลาคม เดินทางไปเที่ยวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ระหว่างทางเจอบ่อน้ำพุร้อนจึงแวะท่องเที่ยวถ่ายรูปและเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ลูกชายลื่นไถลตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อน แค่ 5 วินาที ถูกลวกเกือบทั้งตัว และเธอมองว่า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นหากเครื่องกั้นหรือป้ายเตือน
หลังเกิดเหตุรีบนำลูกชายไปส่งโรงพยาบาลปาย และถูกส่งตัวมาเชียงใหม่ จึงไม่ได้แจ้งความที่นั่นและมาแจ้งความที่เชียงใหม่ แต่ด้วยปัญหาด้านการสื่อสาร ไม่สามารถระบุที่เกิดเหตุได้ จึงไม่สามารถลงบันทึกได้ ไม่ใช่ไม่รับแจ้งความ ซึ่งเรื่องราวนี้ ถูกสื่อรัสเซียนำเสนอจนเป็นข่าวโด่งดัง
ตำรวจท่องเที่ยวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าบ่อน้ำพุร้อนที่เกิดเหตุ คือ บ่อน้ำพุร้อนเหมืองแร่ ริมถนนในตำบลเมืองแปง ที่อำเภอปาย เป็นบ่อน้ำพุร้อนของชุมชนที่อยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ริมถนนมีราวเหล็กกั้นสูง 80 เซนติเมตร ยาวเกือบ 40 เมตร มีป้ายบอกบ่อต้มไข่ อุณหภูมิ 94 องศาเซลเซียส และป้ายเตือนพื้นที่อันตรายห้ามลงเล่นชัดเจน แต่ในฐานะเจ้าบ้านกำลังหาทางช่วยเหลือ
เบื้องต้นจะประสานย้ายจากโรงพยาบาลเอกชนมายังดรงพยาบาลรัฐซึ่งค่าใช้จ่ายถูกกว่า รวมทั้งพิจารณากองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของตำรวจท่องเที่ยวเพื่อดูแลตามหลักมนุษยธรรมและน้ำใจของคนไทย.-สำนักข่าวไทย