เร่งหาสาเหตุอาคาร 8 ชั้น ย่านประชาชื่น ถล่มระหว่างรื้อถอน

นนทบุรี 13 ต.ค. – สภาวิศวกรเตรียมลงพื้นที่ตรวจความเสียหายอาคาร 8 ชั้นที่อยู่ระหว่างรื้อถอนถล่ม พร้อมถอดบทเรียนการรื้อถอนโครงสร้างอาคารเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประสานวิศวกรบริษัทรื้อถอนให้ปากคำถึงสาเหตุการถล่ม


ความคืบหน้าเหตุอาคารสูง 8 ชั้น ซึ่งเป็นโครงการงานรื้อถอนอาคารวรรณผกา สูง 8 ชั้น ตั้งอยู่ที่ 221, 223, 225 ถนนประชาชื่น จ.นนทบุรี ซอย 7 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ถล่มทับรถแบ็กโฮ มีผู้ติดค้างอยู่ภายในรถ 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงช่วยเหลือนายวิชัย นิคาโม อายุ 43 ปี คนขับรถแบ็กโฮ ซึ่งถูกอาคารถล่มลงมาทับติดอยู่ ออกมาได้สำเร็จ บาดเจ็บขาขวา ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลชลประทาน

การรื้อถอนดังกล่าวมีรถแบ็กโฮมารื้อถอนอาคาร ตัวอาคารเป็นคอนกรีตสูง 7 ชั้น เริ่มรื้อถอนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ช่วงเกิดเหตุมีคนขับแบ็กโฮ 6 คัน คนงานอีก 20 คน ทำงานรื้อถอน ขณะที่คนงานกำลังเจาะขุดพื้นอยู่ ทำให้ตึก 7 ชั้น พังลงมาทับคนขับแบ็กโฮ 1 ราย


สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าบริษัท วรรณผกา จำกัด เจ้าของอาคาร ได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด อินเตอร์โยธา เข้ารื้อถอนอาคารเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยอาคารแรกสูง 6 ชั้น รื้อถอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) เป็นการรื้อถอนอาคารที่ 2 ซึ่งสูง 8 ชั้น ขณะที่นายวิชัยกำลังใช้รถแบ็กโฮตักชิ้นส่วนปูนลำเลียงออกมากองด้านนอก จู่ๆ อาคารก็ถล่มลงมาทับนายวิชัย เพื่อนคนงานจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่

นายคม แสงบำรุง ผอ.สำนักงานช่าง เทศบาลนนทบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบโครงการงานรื้อถอนอาคารวรรณผกา มีการทำหนังสือขออนุญาตทำการรื้อถอนกับทางสำนักงานช่าง เทศบาลนนทบุรี แล้ว เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2564 ซึ่งทำถูกขั้นตอนทุกอย่าง เบื้องต้นได้ติดต่อไปยังวิศวกรผู้ดูแลงานรื้อถอนแล้ว ทราบว่าขณะทำการรื้อถอนอาคารอยู่นั้น ตัวของวิศวกรผู้ดูแลงานรื้อถอนไม่ได้อยู่ที่หน้างาน เนื่องจากอยู่ในช่วงเวลาพักเบรก ทางสำนักงานช่างจึงต้องเรียกสอบถามรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี อยู่ระหว่างการเร่งประสานบริษัทผู้ดูแลรื้อถอนโครงการ คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อินเตอร์โยธา และวิศวกรผู้ควบคุมดูแลงาน มาสอบปากคำถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น พร้อมขอตรวจดูเอกสารการรื้อถอนตัวอาคารว่ามีการทำหนังสือมายังสำนักงานช่าง เทศบาลนนทบุรี หรือไม่


อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ ศาสตรจารย์ ดร.สุชัชวีย์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร จะลงพื้นที่ตรวจความเสียหาย พร้อมถอดบทเรียนการรื้อถอนโครงสร้างอาคารปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงผลกระทบต่อประชาชน ผู้พักอาศัย และผู้เกี่ยงข้อง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล