ปราจีนบุรี 5 ต.ค.- ยังจำป้าเขียด หรือ “นภาพร หงสกุล” หรือที่รู้จักเรียกหากันว่า ป้าตุ่ม หลังห่างหายในการแสดงเพราะสุขภาพร่างกายที่ไม่ดี แต่ป้าตุ่ม ของหลายๆ คนยังมีไฟพร้อมที่จะกลับมาแสดงอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า ชีวิตไม่ได้ตกอับมีความสุขดีกับครอบครัวที่ปราจีนบุรี
คนเก่าๆ คงจะรู้จัก ป้าเขียด นภาพร หงสกุล หรือที่รู้จักเรียกหากันว่า ป้าตุ่ม นักแสดงรุ่นใหญ่ที่ฝากผลงานการแสดงไว้มากมาย วันนี้ห่างหายไปจากวงการ เนื่องจากสุขภาพร่างกายที่ไม่ดี แต่ป้าตุ่มของหลายๆ คนยังมีไฟพร้อมที่จะกลับมาแสดงอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า ชีวิตไม่ได้ตกอับมีความสุขดีกับครอบครัวที่ปราจีนบุรี
ทีมข่าวได้มีโอกาสไปพูดคุยกับนักแสดงอาวุโสท่านนี้ถึงที่ทาวน์เฮ้าส์เลขที่ 141/ 28 หมู่บ้านสวนพานหิน 8 บ้านบุยายใบ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ของป้าเขียด นภาพร หงสกุล นักแสดงอาวุโส ในวัย 75 ปี เปิดเป็นร้านขายของชำเล็กๆ เพื่อเป็นรายได้จุนเจือครอบครัว ซึ่งมีสามี และลูกชาย หลังการแสดงลดน้อยลง จากการพูดคุยป้าเขียด หรือ ป้าตุ่ม ที่วันนี้แม้จะมีโรคความดัน เบาหวานและปวดข้อรุมเร้า รวมถึงโรคของทางเดินปัสสาวะแต่ป้าเขียดก็ยังพูดคุยถึงเรื่องที่ผ่านในวงการแสดงอย่างสนุกสนานและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุข โดยป้าเขียดเล่าว่า เมื่อก่อนดารานักแสดงจะเข้ามาด้วยความสามารถไม่ใช่ความรู้ทางการศึกษา เรียกว่าใครมีฝีมือก็อยู่ได้ ใช้ฝีมือล้วนๆ ซึ่งผิดกับในปัจจุบัน
หลังเจ็บป่วยก็ขาดการติดต่อกับบรรดานักแสดงรุ่นเดียวกัน นานแล้วไม่ได้เจอบางคนก็ล้มหายตายจาก อยากจะได้เจอได้พูดคุย ส่วนเนื่องการแสดงนั้น ตนยังอยากแสดงเหมือนเดิมเพราะตนเกิดจากวงการถ้าจะมีโอกาสกลับไปแสดงอีกครั้งก็จะดีใจมากๆ ยืนยันว่างกายยังไหวใจยังสู้ไกลแค่ไหนก็จะไป ส่วนเรื่องของดารารุ่นใหม่ตนคงไม่กล้าฝากอะไรเพราะเป็นคนละรุ่นคนละยุค แต่ละคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง ดารารุ่นเก่าจะทำตัวแบบเสมอต้นเสมอปลายดำรงตนให้อยู่ในกรอบรับผิดชอบหน้าที่
ถามว่าแสดงละครมาหลายสิบเรื่อง มีเงินเก็บหลังการแสดงลดลงหรือไม่ ป้าเขียดบอกว่าไม่มีเงินเก็บเหมือดาราสมัยนี้ หมดงานแสดงไม่มีใครจ้างก็ไม่มีเงิน จึงต้องมาเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน ที่ยังโชคดีที่มีบ้านไว้อาศัยกับคนอบครัว เมื่อถึงยามเดือดร้อนก็ยังมีดารารุ่นหลานๆ หยิบยื่นให้การช่วยเหลือจุนเจือพอประทังชีวิต เรื่องกองทุนอะไรนั้นไม่เคยคิดเพราะไม่แน่นอน
สุดท้ายป้าเขียดยังยืนยันว่า พร้อมหากจะมีงานแสดงเข้ามาอีกครั้งเพราสะตนยังไหว ที่สำคัญยังคิดถึงวงการคิดถึงคนรุ่นเดียวกันที่แม้จะเหบือไม่กี่คน ถ้ามีโอกาสก็จะไม่ปฏิเสธ.-สำนักข่าวไทย