นครสวรรค์ 5 ต.ค.- เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำออกจากบึงบอระเพ็ด หลังพายุเตี้ยนหมู่ทำน้ำไหลเข้าบึงเกินกักเก็บเกือบ 200% ล่าสุดระดับน้ำยังท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนรอบบึงจำนวนมาก
ภาพถ่ายมุมสูงพื้นที่บึงบอระเพ็ดจังหวัดนครสวรรค์ แสดงให้เห็นว่าบึงบอระเพ็ดมีน้ำอยู่เต็มพื้นที่ หลังพายุเตี้ยนหมู่ทำให้เกิดฝนตกหนักและมีน้ำไหลเข้าบึงบอระเพ็ดเป็นจำนวนมาก นายวิวัฒน์ ปรารมภ์ ประมงจังหวัดนครสวรรค์ เผยว่า จากผลกระทบพายุที่ผ่านมาทำให้บึงบอระเพ็ดที่เคยแล้งน้ำแห้ง ในขณะนี้มีน้ำเต็มพื้นที่ของบึงแล้ว โดยล่าสุดบึงบอระเพ็ดมี น้ำประมาณ 338.4 ล้าน ลบ.ม. (188% จากความจุ 180 ล้าน ลบ.ม.)
ที่อำเภอไพศาลี อำเภอหนองบัว และอำเภอท่าตะโกไหลลงสู่บึงบอระเพ็ดอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ทำการปิดประตูน้ำคลองบึงบอระเพ็ดเพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำน่านไหลเข้าบึงแล้ว พร้อมกับปล่อยน้ำบริเวณฝายกักเก็บให้น้ำออกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกับชาวบ้านรอบบึงบอระเพ็ด
ที่พระนครศรีอยุธยา หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้น กรมศิลปากรเร่งเสริมกระสอบทรายป้องกันโบราณสถานสำคัญ เช่น โบราณสถานป้อมเพชร หมู่บ้านโปรตุเกส วัดไชยวัฒนาราม เป็นจุดต่ำสุด ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องเสริมบังเกอร์ขึ้นอีก 50 เซนติเมตร เป็น 2 เมตร ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำ 1.50 เมตร เป็นทางยาวตลอด 150 เมตร และเสริมแนวกระสอบทรายฝั่งตะวันตก ที่เมื่อปี 2554 จุดกำแพงนี้ได้พังทลายลง ทำให้น้ำท่วมโบราณสถาน ซึ่งขณะนี้ทางกรมศิลปากรได้สร้างกำแพงปูนหนา 20 เซนติเมตร สามารถวางกระสอบทรายได้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง หากผู้ประสงค์จะบริจาคอุปกรณ์เพื่อป้องกันพื้นที่โบราณสถานให้ติดกับเจ้าหน้าที่ได้ที่วัดไชยวัฒนาราม ในเวลาราชการ
ส่วนที่ จ.อ่างทอง หลังคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ทรุดตัวเป็นแนวยาวกว่า 80 เมตร จนทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 300 ร้อยหลัง ล่าสุดจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลไชโยต้องเร่งนำลูกรังสร้างแนวคันกั้นน้ำบริเวณริมถนนสายบ้านรี -มหานาม ตั้งแต่บริเวณวัดไทรย์นิโครธารามจนถึงถนนทศบาลซอย 9 ซึ่งเป็นถนนสูงเพื่อควบคุมน้ำให้อยู่ในวงจำกัด โดยคาดว่าต้องใช้เวลาตลอดทั้งวัน
ขณะที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูง บางจุดสูงถึงชั้นสองของบ้าน ประชาชนต่างขนย้ายสิ่งของขึ้นมาอยู่บนถนน ที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม ผู้สูงอายุหลายคนที่อาศัยอยู่ลำพังไม่สามารถขนย้ายสิ่งของได้ เพราะน้ำขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ต้องปล่อยทิ้งและเอาตัวรอดมาอยู่ที่ปลอดภัย โดยบอกว่าน้ำท่วมปีนี้หนักกว่าปี 2554 ขณะที่ระดับน้ำที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทองเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งต้องเฝ้าระวังพื้นที่เศรษฐกิจเช่นตัวเมืองอ่างทองและตลาดป่าโมกตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย