ลพบุรี 2 ต.ค.- สำนักชลประทานที่ 10 ยกประตูระบายน้ำโคกกระเทียมขึ้นทั้ง 4 บาน เร่งระบายน้ำคลองชัยนาท-ป่าสัก พร้อมทั้งเสริมแนวคันดินสูงเกือบ 2 เมตร และเตรียมกระสอบทราย สำหรับเสริมแนวอีกชั้นหนึ่งในฝั่งขวา
พื้นที่สำนักงานชลประทานที่ 10 โคกกระเทียม ตอนนี้มีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำบางจุดสูงเกือบ 2 เมตร รอบพื้นที่สำนักงานกันพื้นที่ไม่ให้ไหลท่วมชุมชนในตำบลโคกกระเทียม และตำบลเขาพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี หลังน้ำในคลองชัยนาท-ป่าสักเพิ่มสูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อแนวกำแพงดินกั้นน้ำที่ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ และกัดเซาะริมตลิ่งสองข้างประตูปิดเปิดน้ำของสำนักงาน และไหลเข้าท่วมพื้นที่
ส่วนการบริหารจัดการน้ำในคลองชัยนาทป่าสัก สำนักชลประทานที่ 10 ได้ยกประตูระบายน้ำโคกกระเทียมขึ้นทั้ง 4 บานเพื่อเร่งระบายน้ำ วันนี้ระดับน้ำลดลง 20 ซม. เนื่องจากมวลน้ำบางส่วนไหลเข้าท่วม อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี
ส่วนคันคลองฝั่งขวา ชลประทานมีการเสริมแนวคันดินขึ้นสูงเกือบ 2 เมตร พร้อมเตรียมกระสอบทราย สำหรับเสริมแนวอีกชั้นหนึ่ง จากการสังเกตพบน้ำซึมผ่านแนวดินออกมาอยู่บ้าง โดยทางชลประทานจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโคกกระเทียม สำนักชลประทานที่ 10 ตอนนี้ย้ายสำนักงานชั่วคราวมาอยู่ฝั่งขวา ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่าประตูระบายน้ำพังเสียหาย ยืนยันว่าไม่ได้พัง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลผ่านคลองชัยนาท-ป่าสัก เกินปริมาณที่รองรับได้ โดยประตูระบายน้ำโคกกระเทียมตั้งอยู่ที่ กม.86 ของคลองชัยนาท-ป่าสัก สามารถรองรับน้ำได้ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่วันที่เกิดเหตุปริมาณน้ำไหลผ่านถึง 260 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้น้ำล้น ออกทั้งสองฝั่งคลอง ซึ่งวันนี้ได้เปิดประตูระบายน้ำทั้งหมดเพื่อเร่งระบายน้ำแล้ว
ขณะที่ชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำ ตำบลเขาพระงาม และตำบลโคกกระเทียม หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่อิทธิพลจากพายุเตือนหมู่ที่ทำให้น้ำท่วมมาเกือบสองสัปดาห์ ทั้งชุมชนวัดและสุสานบางแห่งท่วมสูงเกือบเมตรครึ่ง ถนนสายพหลโยธิน ตั้งแต่แยกโคกกระเทียม ไปถึงสุดเขต ต.เขาพระงาม น้ำท่วมขังรถเล็กไม่สามารถผ่านเส้นทางได้
ส่วนพื้นที่ท้ายเขื่อนป่าสัก ยังได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วม ที่อำเภอวังม่วง พื้นที่รีสอร์ตหลายแห่งยังถูกน้ำท่วม ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีน้ำน้ำในอ่าง 1,027 ล้านลบ.ม./วินาที 1,026 คิดเป็น 107% ของปริมาณเก็บกัก กรมชลประทานจึงต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำในอัตรา 1,200 ลบ.ม./วินาทีเพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำที่จะไหลมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์และลพบุรีอีก ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย กรมชลประทานแจ้งเตือนไปยังประชาชนแล้ว.-สำนักข่าวไทย