สถานการณ์น้ำหลายพื้นที่ยังน่าห่วง

ภูมิภาค 1 ต.ค. – สถานการณ์น้ำหลายพื้นที่ยังน่าห่วง ต้องเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง หลังกระแสน้ำแรงทำพนังกั้นน้ำพังทลายและขยายวงกว้างไหลเข้าท่วมสถานที่ราชการ


ต้านไม่ไหวทะลักท่วมสถานที่ราชการ
สถานการณ์น้ำในคลองชัยนาท-ป่าสัก บริเวณ ต.เขาพระงาม ต.โคกกระเทียม อ.เมืองลพบุรี ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อแนวกำแพงดินกั้นน้ำที่ไม่สามารถต้านทานกระแสน้ำได้ น้ำได้กัดเซาะริมตลิ่งสองข้างบานประตูปิดเปิดน้ำของสำนักงานชลประทานที่ 10 โคกกระเทียม พังทลาย ไม่สามารถปิดอุดได้ ต้องปล่อยให้มวลน้ำเอ่อท่วมสำนักงานชลประทานที่ 10 บางส่วนแล้ว เจ้าหน้าที่ได้เร่งขนย้ายยานพาหนะออกมาจอดไว้ในที่สูง และระดมสรรพกำลังเร่งเสริมแนวกันดิน

ด้านหลังสำนักงานชลประทาน ที่น้ำจาก ต.เขาพระงาม ไหลหลากลงเข้ามาท่วมซ้ำเติม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสร้างแนวกำแพงดินปิดกั้นรอบสำนักงาน ในขณะที่มวลน้ำยังไม่มีท่าทีจะลดลง กลับเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งคลองชัยนาท-ป่าสัก ตลอดแนว ถนนสายพหลโยธิน ตั้งแต่แยกโกกระเทียม ไปถึงสุดเขต ต.เขาพระงาม น้ำท่วมขัง รถเล็กไม่สามารถผ่านเส้นทางได้ เทศบาลตำบลป่าตาลเร่งทำการป้องกันโดยนำดินถมเสริมความแข็งแรงของกำแพงคอนกรีตกั้นน้ำอีกชั้น เนื่องจากมีน้ำซึมลอดเข้าเอ่อท่วมถนนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และกระแสน้ำไหลแรง ทำให้กำแพงดินบางช่วงต้านแรงน้ำไม่ไหว เอาไม่อยู่ พนังกั้นน้ำพังทลายลง และขยายวงกว้าง น้ำไหลบ่าเข้าท่วมสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมถึงศาลเยาวชนและครอบครัว ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองชัยนาท-ป่าสัก และบ้านเรือนประชาชนบริเวณดังกล่าวหลายหลังคาเรือน ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เร่งขนของหนีน้ำกันอย่างจ้าละหวั่น มีเจ้าหน้าที่ทางเทศบาลตำบล เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ทหาร ต่างเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน และประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นบนที่สูง ป้องกันความเสียหาย คาดว่าในวันนี้มวลน้ำจะมีเพิ่มมากขึ้น


ลุ้นระทึกล้นพนังกั้นน้ำเจ้าพระยา
เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองอ่างทอง และกำลังชมรมสามล้อแดงรับจ้าง กว่า 50 คน เร่งช่วยกันเสริมแนวกระสอบทราย หลังพนังคอนกรีนตกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในชุมชนบ้านรอ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่องจนเหลืออีกเพียง 5 เซนติเมตร ก็จะล้นพนังกั้นน้ำบริเวณดังกล่าวแล้ว โดยจุดดังกล่าวเป็นจุดที่อยู่มีความเสี่ยงสูง หากไม่สามารถต้านทานน้ำได้น้ำจะทะลักเข้าท่วมศูนย์ราชการฯ ที่มีหน่วยงานราชการ รวมถึงชุมชนบ้านรอ และชุมชนบางแก้ว ที่มีบ้านเรือนประชาชนกว่า 1,000 ครัวเรือน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้ทันดับระดับที่เพิ่มสูงต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังนำแท่งแบริเออร์ตั้งแนวกั้นที่สองบริเวณถนนข้างโรงเรียนอนุบาลวัดอ่างทอง เพื่อเตียมพร้อมหากไม่สามารถทานแรงน้ำบริเวณจุดนี้ได้

นายสมนึก สุถาวิมล เลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอ่างทอง บอกว่า ตอนนี้ระดับน้ำใกล้เคียงกับเมื่อปี 2554 แต่ที่หนักกว่าคือน้ำไม่สามารถระบายลงทุ่งได้ โดยบริเวณดังกล่าวเป็นจุดเสี่ยงที่มีศูนย์ราชการ ซึ่งระดับน้ำเหลือเพียง 5 ชั่วโมง จะล้นแล้ว จึงต้องเพิ่มแนวกระสอบทรายเพื่อเป็นการป้องกัน ฝากเตือนประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งในเขตเทศบาลเมืองอ่างทอง และนอกเขต ให้ยกสิ่งของหนีน้ำไว้ก่อน โดยพื้นที่ จ.อ่างทอง มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว 3 อำเภอคือ อ.เมือง อ.ป่าโมก และ อ.วิเศษชัยชาญ


ยกแผงเหล็กบังเกอร์ป้องกันวัดพนัญเชิงฯ
ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร กำลังทหารจากกองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ วม กอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 50 นาย พร้อมด้วยพระ เณร กว่า 50 รูป และเจ้าหน้าที่ของวัด ช่วยกันยกแผงเหล็ก หรือแผ่นบังเกอร์ ป้องกันน้ำท่วมแบบสำเร็จรูป โดยแผ่นบังเกอร์มีความสูง 2.50 เมตร กว้าง 1.20 เมตร ระยะทาง 700 เมตร

พระเมธีวราภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เผยว่า ทางวัดได้ขอกำลังจากทหารและนำพระภิกษุ สามเณร ทั้งวัดมาช่วยกันยกแผงเหล็กบังเกอร์ จากนั้นจะนำผ้าใบมาคลุมและนำกระสอบทรายมาวางทับบริเวณรอยต่อ เพื่อป้องกันน้ำเข้าบริเวณวัด

แนวกั้นน้ำแยกคลองชัยนาทป่าสักฯ พัง
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระบุรี แจ้งว่าด้วยมวลน้ำและระดับน้ำคลองชัยนาท-ป่าสักฯ มีระดับสูงขึ้น ทำให้น้ำกัดเซาะแนวบริเวณถนนช่วงต้นคลอง 23 R ที่แยกจากคลองชัยนาท-ป่าสักฯ ขาดพังทลาย ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 5 ต.สร่างโศก ระดับน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร-1 เมตร มวลน้ำนี้จะไหลลง ต.ตลาดน้อย ต.โคกใหญ่ และ ต.พรเทพ อ.บ้านหมอ ต.หนองโดน อ.หนองโดน และ อ.ดอนพุด จ.สระบุรี อีกทั้งระดับน้ำในคลองระพีพัฒน์ มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โนนสูงเดือดร้อน 1,300 ครัวเรือน
พื้นที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ช่วงบ่ายวันนี้ยังคงวิกฤติหนัก มีมวลน้ำจำนวนมากไหลมาจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง อ.โนนไทย หลากท่วมหลายหมู่บ้านใน ต.ธารปราสาท โดยเฉพาะที่บ้านปราสาทเหนือ มีมวลน้ำโอบล้อมทั้งหมู่บ้านกว่า 150 หลังคาเรือน ถนนทางเข้า-ออกหมู่บ้าน น้ำท่วมสูง 50-80 เซนติเมตร สัญจรยากลำบาก ต้องใช้รถยกสูงลุยฝ่ากระแสน้ำ

ปริมาณน้ำไหลจำนวนมากหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ระดับน้ำท่วมสูง 1 เมตร ต้องอพยพมาพักอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวภายใน องค์การบริหารส่วนตำบลธารปราสาท ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.โนนสูง พบว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบ 12 ตำบล 52 หมู่บ้าน เดือดร้อน 1,362 ครัวเรือน

น้ำท่วมมิตรภาพ 4 กม. รถติดยาว
ในช่วงเช้าปริมาณน้ำจากลำเชียงไกร ไหลไปยังพื้นที่ อ.คง ทำให้ปริมาณน้ำหลากเข้าท่วมถนนมิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 2 ตั้งแต่แยกบ้านตาชู ไปจนถึงแยกบ้านวัด อ.คง จ.นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร บางจุดสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ทำให้รถเล็กวิ่งผ่านยากลำบาก
จากภาพมุมสูงจะเห็นว่ามวลน้ำมหาศาลกำลังผ่านพื้นที่ ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง ข้ามถนนมิตรภาพไปยังเขตพื้นที่ อ.คง และ อ.โนนแดง ทำให้รถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร เนื่องจากประชาชนยังไม่ทราบ ว่าน้ำท่วมถนน นับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีน้ำท่วมถนนมิตรภาพสายหลัก ส่งผลให้ประชาชนที่จะเดินทางไปยังภาคอีสานต้องเลี่ยงเส้นทางไปใช้เส้นทางอื่นแทน

เร่งซ่อมคันดินพนังกั้นน้ำให้เสร็จใน 7 วัน
ความคืบหน้าการซ่อมแซมคันดินพนังกันน้ำอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ที่ทรุดตัว 7 วัน ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมกันอย่างต่อเนื่อง นายชูชาติ ธุรกิจ รองอธิบดีกรมชลประทาน ให้ข้อมูลว่าใช้วิธีนำหินขนาดใหญ่ลงไปถมตรงจุดที่คันดินผนังกั้นน้ำพังเสียหาย เปลี่ยนจากแผนเดิมที่จะใช้บิ๊กแบ็กและเกรเบี้ยน หรือว่าตาข่ายขนาดใหญ่ใส่ก้อนหินลงไปเปลี่ยนทิศทางน้ำ โดยจะเร่งทำให้เสร็จสิ้นภายใน 7 วัน คือภายในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ คาดว่าจะสามารถควบคุมการไหลของทิศทางน้ำให้มาผ่านทางประตูระบายน้ำ และสามารถมีน้ำเก็บกักไว้ใช้ให้กับชาวบ้านในหน้าแล้งได้ ซึ่งทางกรมชลประทานคาดว่าจะมีน้ำเก็บไว้ใช้อย่างน้อย 15,000,000 ลูกบาศก์เมตร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย