กทม. 30 ก.ย. – ภาพรวมสถานการณ์น้ำวันนี้ (30 ก.ย.) หลังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มการระบายน้ำ แค่ 3 วันที่ผ่านมา ขยับจากหลักสิบต่อวันขึ้นมาเป็นหลักร้อย ด้านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติเตือนการระบายน้ำนี้จะทำให้น้ำท้ายเขื่อนสูงถึง 1.50-2.40 เมตร
ภาพการเปรียบเทียบการระบายน้ำออกของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไฮไลท์สำคัญของวันนี้ โดยย้อนกลับไป 2 วันก่อน เห็นถึงการระบายน้ำ โดยวันที่ 28 ก.ย. ปริมาณน้ำในอ่างยังไม่ค่อยกังวลมาก เพราะมีอยู่ 82.67% ขณะที่น้ำเข้าอ่าง 109.37 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน และระบายออก 34.628 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
แต่มาเมื่อวานนี้ 29 กันยายน ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเริ่มเยอะขึ้น จาก 109 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นเป็น 209.29 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เขื่อนมีน้ำเกือบเต็มความจุ 99.27% ต้องเร่งระบายออกจาก 34.628 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 51.893 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
และที่พีคสุดคือวันนี้ เขื่อนป่าสักฯ แม้มีน้ำเข้าอ่างแค่ 153.40 ล้านลูกบาศก์เมตร นับว่าน้อยกว่าเมื่อวาน แต่เพราะฝนที่ตกต่อเนื่อง ทำให้เขื่อนมีปริมาณน้ำทะลุไปมากถึง 105.4% จำเป็นต้องเร่งระบายออกอีก 103.72 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ทำให้พรุ่งนี้ต้องจับตาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ใกล้ชิด เพราะนอกจากตัวเลขที่ขยับขึ้นแบบรายวัน หากเปรียบเทียบกับปี 54 มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนป่าสักฯ 908 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในขณะที่ปีนี้เพิ่มเป็น 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่เขื่อนพระรามหกที่รับน้ำต่อจากเขื่อนป่าสักฯ วันนี้ในปี 54 มีน้ำไหลผ่าน 1,223 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่วันนี้ไหลผ่านเพียง 735 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทีนี้เราอยากให้เห็นอัตราการไหลของน้ำว่าจะใช้ระยะเวลาไปถึงแต่ละจุดเท่าไหร่ ตรวจสอบข้อมูลจากกรมชลประทาน ตั้งแต่จุดท้ายเขื่อนป่าสักฯ น้ำจะไหลไปที่ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ก่อนไหลที่ อ.เมืองสระบุรี เข้าเขื่อนพระรามหก และไหลต่อไปที่สถานีวัดน้ำ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งแต่ละจุดระยะเวลาไหลของน้ำแตกต่างกัน อย่างตั้งแต่เขื่อนป่าสักฯ มาถึงสถานีวัดระดับน้ำในอำเภอพัฒนานิคม จ.ลพบุรี ระยะทาง 8 กิโลเมตร ระยะเวลาการไหลของน้ำอยู่ที่ 1 ชั่วโมง ส่วนน้ำในตลิ่งของสถานีวัดน้ำนี้ต่างกันนิดเดียว โดยระดับตลิ่ง 31.46 เมตร ตอนนี้มีน้ำอยู่ 31.18 เมตร
จากนั้นน้ำจะไหลไปต่อที่สถานีวัดระดับน้ำในอำเภอเมืองสระบุรี ระยะทาง 76 กิโลเมตร ใช้เวลา 17 ชั่วโมง ที่นี่ระดับน้ำเฉียดๆ ตลิ่งแล้ว เพราะตลิ่ง 12.80 เมตร มีน้ำอยู่ 12.47 เมตร หมดจากตรงนี้น้ำจะไหลไปที่เขื่อนพระรามหก ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลา 8 ชั่วโมง จากนั้นอีก 2 ชั่วโมง จะไหลไปท้ายเขื่อน ที่สถานีวัดระดับน้ำในอำเภอท่าเรือ อยุธยา จุดนี้ระดับตลิ่ง 8 เมตร แต่มีระดับน้ำอยู่แล้วตอนนี้ 7.83 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ทั้งหมดเป็นเพียงน้ำจากลุ่มน้ำป่าสักฯ ที่จะไหลมาถึงเขื่อนพระรามหก รวมๆ แล้วใช้เวลา 26 ชั่วโมง แต่ยังไม่หมด คนที่อยู่ริมน้ำยังต้องเฝ้าระวัง เพราะยังมีน้ำที่ต้องระบายออกมาจากเขื่อนเจ้าพระยาอีก โดยตอนนี้ที่สถานีค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีน้ำไหลผ่าน 2,683 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนท้ายเขื่อนมีน้ำไหลผ่าน 2,775 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ขณะที่สถานีบางไทร อยุธยา มีน้ำไหลผ่าน 2,873 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งวันนี้ดูจากหน้าจอ เราคงไม่ต้องบอกว่า แม้จะมีความกังวลเรื่องการระบายน้ำ แต่หากเทียบกับปี 54 ยังถือว่าตัวเลขน้อยกว่าปี 54 อยู่
ส่วนจุดแดงๆ ที่ทุกวันเราชี้ให้เห็นว่าทุกวันว่าเป็นจุดแสดงถึงน้ำท่วม ยังเป็นที่เดิมคือพื้นที่ตำบลบางบาล อยุธยา ที่เป็นจุดคอขวดศูนย์รวมรับน้ำจากทั้งเขื่อนป่าสัก พระรามหก และเจ้าพระยา และจุดบางไทรที่เมื่อวานเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอยู่ในภาวะวิกฤติ วันนี้ก็ยังวิกฤติอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเป็นสีแดง