ภูมิภาค 30 ก.ย. -ผู้ว่าฯ ลพบุรี สั่งอพยพประชาชนท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หลังจากน้ำล้นเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจแล้ว ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ขยายวงกว้างมากขึ้น แนวกระสอบทรายกั้นน้ำถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างรีบขนของหนีน้ำขึ้นไปไว้บนที่สูง
ผู้สื่อข่าวสำรวจพื้นที่ตั้งแต่อำเภอบ้านหมี่ ถึงอำเภอเมืองลพบุรี ระยะทาง 40 กิโลเมตร พบว่ายังวิกฤติ มวลน้ำที่ไหลมาในคลองชลประทานยังมีเป็นจำนวนมาก บางจุดล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนในหลายตำบลของอำเภอบ้านหมี่ และอำเภอเมืองลพบุรี โดย ปภ. ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง สูบน้ำที่ท่วมลงคลองชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำในคลองชลประทานให้มีระดับสูงขึ้น ขณะที่แนวคันคลองที่มีระดับต่ำ น้ำได้ล้นคันคลองไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และบางพื้นที่น้ำไหลย้อนท่อรับน้ำเข้าท่วมถนนในเขตเมืองลพบุรี โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 4 ตำบลท่าแค อำเภอเมือง ท่อไซฟ่อนมีน้ำไหลเข้าหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งวางกระสอบทราบบิ๊กแบ็กเพื่อขวางทางน้ำ ท่ามกลางความอกสั่นขวัญแขวนของคนในพื้นที่
ผู้ว่าฯ ลพบุรี สั่งอพยพประชาชนท้ายเขื่อนป่าสักเป็นการด่วน
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าฯ ลพบุรี ที่วันนี้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เมื่อผู้ว่าฯ ดูแล้ว ได้หารือเร่งด่วนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ และการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนป่าสักฯ พร้อมสั่งอพยพประชาชน และให้ช่วยกันขนย้ายสิ่งของ คนในชุมชนบ้านหนองบัว บ้านแก่งเสือเต้น ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายเขื่อน และเสี่ยงน้ำท่วม ออกไปยังศูนย์อพยพชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย เพราะตอนนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักฯ เกินความจุทะลุ 100% ไปแล้ว
ชัยนาทน้ำท่วมขยายวงกว้าง ขนไก่-ต้นไม้หนีน้ำ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ขยายวงกว้างมากขึ้น แนวกระสอบทรายกั้นน้ำบริเวณตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา ถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหาย ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านท่าทราย ชาวบ้านต่างรีบขนของหนีน้ำขึ้นไปไว้บนที่สูง ทั้งบนบ้านและบนหลังคา ชาวบ้านบางคนบอกว่าที่บ้านเลี้ยงไก่ชนไว้ 60 ตัว ต้องรีบขนของหนีขึ้นไปอยู่บนเนินดิน แต่ลูกเจี๊ยบบางส่วนจับไม่ทัน น้ำก็พัดหายไปหลายตัว ส่วนบางคนบอกว่ามีกิ่งพันธุ์ไม้ผลปลูกไว้กว่า 300 ต้น พอเห็นน้ำมาและไม่ยอมลด ต้องเร่งขนย้ายออกไปไว้ริมถนน ซึ่งการขนย้ายเรียกว่าขนกันทั้งวัน เพราะยอมเหนื่อยดีกว่าให้กิ่งที่ขยายพันธุ์ไว้จมน้ำเน่าตาย เพราะลงทุนไปเยอะแล้ว
ผวาน้ำท่วม พระ-ชาวบ้าน ขนของหนีน้ำอลหม่าน
ส่วนพื้นที่อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี หลังรู้ข่าวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เร่งระบายน้ำ พระและชาวบ้านหนองกรดที่มีกันอยู่เกือบ 50 หลังคาเรือน และอยู่ริมแม่น้ำป่าสักฯ ซึ่งก่อนหน้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมไปบ้างแล้ว ต่างขวัญผวา ขนของหนีน้ำกันอลหม่าน
ชาวบ้านเล่าว่า ขนาดเมื่อคืนน้ำมาเร็วและทะลักเข้าบ้านแบบไม่ทันตั้งตัว และตอนนี้หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูงเป็นเมตรแล้ว พอได้ทราบว่า จะมีการระบายน้ำเพิ่มก็กังวล รีบขนของหนีเพื่อความปลอดภัย
ส่วนเจ้าอาวาสวัดหนองกรด บอกว่าตั้งแต่เช้าเตรียมออกไปบิณฑบาตร เห็นน้ำทะลักเข้าวัด ต้องรีบบอกพระลูกวัดให้ขนของหนีขึ้นที่สูง ซึ่งเมื่อกู้ภัยและทหารเห็นชาวบ้านและพระเดือดร้อน ก็ได้นำเรือท้องแบนมาช่วยขนของด้วย
นายอำเภอท่าเรือสั่งชาวบ้านขนของขึ้นที่สูง
ขณะที่อยุธยาที่มีน้ำท่วมแล้วในบางพื้นที่ วันนี้นายอำเภอท่าเรือสั่งทุกภาคส่วนให้เร่งประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย เตือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำป่าสักฯ ให้ขนของขึ้นที่สูงโดยด่วน เพราะห่วงว่าเมื่อเขื่อนป่าสักฯ และเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มทุกวัน พื้นที่ริมตลิ่งจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 1-5 ตุลาคม ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ออกประกาศเตือน นอกจากนี้ยังให้มีการเตรียมเต็นท์ใช้เก็บทรัพย์สิน และไว้เป็นที่พักพิงของชาวบ้าน ในการอพยพออกนอกบ้านเป็นการชั่วคราว หากเกิดน้ำท่วม.-สำนักข่าวไทย