พระนครศรีอยุธยา 30 ก.ย.- ปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือลากจูงล่มกลางแม่น้ำ หน้าวัดพนัญเชิงฯ พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ใช้เรือติดอุปกรณ์นำโซนาร์เข้ามาช่วยค้นหา และตรวจสอบสภาพแวดล้อมใต้น้ำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่พบวัตถุขนาดใหญ่คล้ายเรือลากจูง จมห่างจากจุดเกิดเหตุ 300-500 ม. แต่ยังต้องวางเเผนค้นหา เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวและขุ่น
เหตุเรือลากจูงอับปางกลางแม่น้ำป่าสัก บริเวณสามแยกแม่น้ำ หน้าท่าเรือวัดพนัญเชิงฯ และมีผู้สูญหาย 2 คน เป็นคนขับเรือคือ นายสมชาย ธารกุล อายุ 62 ปี และ ภรรยา คือ นางนฤมล จันทรโชติ ภรรยา อายุ 51 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นนายท้ายเรือ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยรายงานว่า พบวัตถุขนาดใหญ่ห่างจุดเกิดเหตุ 300-500 ม. ตรงสามเเยกบรรจบเเม่น้ำ ความลึก 20 ม. จนท.นำเรือ “ไซด์ สแกน โซนาร์” ไปสเเกนจุดที่พบ และเมื่อพูดคุยกับรองอธิบดีกรมเจ้าท่า โดยแผนการณ์จะใช้เรือขนส่งสินค้า 2 ลำลากโซ่สเเกนหาใต้น้ำ ในช่วงเช้าพบไม้พายเรือลอยขึ้นมาเเล้ว ส่วนเรื่องการค้นหาเตรียมนักประดาน้ำลงไป ยืนยันต้องช่วยเหลือผู้สูญหายก่อนกู้เรือ อุปสรรคือกระเเสน้ำวนและเเรง รวมถึงน้ำขุ่น
ด้านการจราจรทางน้ำมีการประกาศหยุดเดินเรือชั่วคราว ส่วนเรือที่จมมีการจดทะเบียน ถูกตามกฎหมาย เชื่อเป็นเหตุสุดวิสัย น้ำจาก 2 เขื่อนระบายมาเจอกัน ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุครั้งนี้ จะทราบผลในอีก 7 วัน สถานการณ์น้ำจุดเกิดเหตุเพิ่มขึ้น 50 ซม.
ขณะนี้อยู่ในช่วงของการวางเเผน ยังไม่สามารถบอกชัดเจนได้ว่าจะสามารถกู้เรือเมื่อไหร่ ต้องห่วงความปลอดภัยมาก่อน คงต้องให้กระเเสน้ำเบาลง และน้ำนิ่ง
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้หารือและวางแผนในการนำเรือ “ไซด์ สแกน โซนาร์” (Side Scan Sonar) ซึ่งเป็นเรือที่ติดตั้งอุปกรณ์ระบบสำรวจใต้ท้องน้ำ มาใช้สแกนหาซากเรือที่จมลงไป โดยเรือจะสามารถมองเห็นวัตถุใต้น้ำ หรือซากเรือที่จมอยู่ในรูปแบบของภาพ 3 มิติ และบอกถึงระดับความลึกในจุดที่พบได้ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ยุติปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุดังกล่าวในเวลา 20.00 น.
เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า จุดเกิดเหตุขณะนี้อยู่ในช่วงน้ำวนและจุดที่คาดว่าเรือจมลงน่าจะเป็นจุดที่น้ำวนลึกไม่น้อยกว่า 20 เมตร จึงเป็นอุปสรรคต่อการลงไปค้นหาด้วยนักประดาน้ำ จากการประเมินคาดว่ากระแสน้ำด้านล่างอาจพัดร่างผู้ที่ติดอยู่ออกจากตัวเรือ หรือ อาจติดอยู่ในห้องคนขับ แม้ในเร็วๆ นี้อาจพบซากเรือแต่ต้องรอให้น้ำนิ่งกว่านี้ จึงจะกู้เรือขึ้นมาได้
สำหรับเรือที่ประสบเหตุเป็นเรือยนต์ ชื่อ “CPI 77” ซึ่งรับจ้างลากจูงเรือเหล็กบรรทุกสินค้าที่จอดรออยู่บริเวณสะพานอโยธยา ส่วนสาเหตุมาจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว และเรือลากจูงที่ล่มได้เกิดเสียหลักวิ่งขวางทางน้ำ ระหว่างนั้นนายท้ายเรือได้พยายามตัดเชือกแต่ไม่ทัน
ส่วนที่อ่างทอง เรือยนต์ลากจูงเรือบรรทุกขนาดใหญ่ ต้องเร่งลากเรือเปล่าทวนกระแสน้ำที่ไหลอย่างรุนแรง บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ก่อนนำไปจอดพักในจุดที่เป็นคุ้งน้ำเพื่อหลบกระแสน้ำ หลังเกิดเหตุเรือลากจูงล่มในแม่น้ำป่าสัก ซึ่งกรมเจ้าท่ามีคำสั่งให้หยุดการเดินเรือชั่วคราว ทำให้เรือบรรทุกสินค้าต้องหยุดการเดินเรือ.-สำนักข่าวไทย