น้ำท่วมลพบุรียังวิกฤติ บางจุดสูงกว่า 2 เมตร

ภูมิภาค 29 ก.ย. – สถานการณ์น้ำท่วม จ.ลพบุรี ยังวิกฤติ ถูกน้ำท่วมแล้วทั้งหมด 7 อำเภอ บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ลพบุรี ยังวิกฤติ ถูกน้ำท่วมแล้วทั้งหมด 7 อำเภอ จาก 11 อำเภอ ซึ่ง อ.ลำสนธิ ชัยบาดาล โคกสำโรง และบ้านหมี่ เป็นพื้นที่ 4 อำเภอที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุด โดยเฉพาะ อ.บ้านหมี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเท่านั้น และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,000 ครอบครัว

อ.บ้านหมี่ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว 10 ตำบล ซึ่งอยู่ติดกับคลองชัยนาท-ป่าสัก และเป็นจุดสุดท้ายที่รับน้ำจากอำเภอต่างๆ ที่ไหลหลากมารวมกัน ระดับน้ำท่วมสูงสุดอยู่ที่ ต.บ้านกล้วย ต.หนองเมือง ต.หนองกระเบียน ต.พุคา ต.หนองทรายขาว ล่าสุดมวลน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี มีประกาศเตือนประชาชนเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง


ส่วนสถานการณ์น้ำที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ล่าสุดวันนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนที่ 953 ล้านลูกบาศ์กเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 99.27 ของความจุที่ 960 ล้านลูกบาศ์กเมตร โดยยังมีมวลน้ำเหนือไหลลงเขื่อน อยู่ที่ 209 ล้านลูกบาศ์กเมตรต่อวัน ซึ่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องเปิดประตูระบายน้ำ 5 บาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน เฉลี่ย 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำเหนือไหลลงตัวเขื่อนในบริมาณมาก และยังคงต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกหนังสือ “ด่วนที่สุด” ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ เตรียมรับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เต็มความจุของอ่าง กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำปาสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหก ในชุมชมนอกคันกั้นน้ำ บริเวณวัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2-2.5 เมตร

หลายพื้นที่น้ำท่วมสูง หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม
แม่น้ำเจ้าพระยา ใน อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงระดับ 17 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ถนนเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ ม.2 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ที่ทรุดตัวยาวกว่า 30 เมตร ทรุดตัวมากขึ้นอีก กระแสน้ำยังได้กัดเซาะดินใต้ถนนลึก 30 เซนติเมตร ทำให้ถนนพังเสียหาย


เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลธรรมามูลได้นำแผงเหล็กไปปิดกั้นถนน พร้อมติดไฟสัญญาณเตือน และติดธงแดง เพื่อแจ้งเตือนประชาชน และขอให้ประชาชนงดใช้ทางสัญจรในบริเวณดังกล่าว ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน เพื่อป้องกันอันตราย

ขณะที่ช่วงเที่ยงวันนี้ แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นเป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนขึ้นอีก 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จาก 2,749 เป็น 2,784 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้น้ำที่ท่วมใน อ.สรรพยา เพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านต่างนำเรือออกมาใช้งาน เพราะบางจุดไม่สามารถเดินลุยน้ำเข้าออกบ้านได้แล้ว มีพื้นที่ได้รับผลกระทบในหมู่ 4 และหมู่ 5 ต.โพนางดำตก บ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูง 30 เซนติเมตร-1 เมตร ชาวบ้านที่มีบ้านชั้นเดียวต้องขนของหนีน้ำขึ้นไปอาศัยอยู่ริมถนนสาย 311 ชัยนาท-สิงห์บุรี บางคนไม่มีเรือใช้งาน ต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมสูงถึงหน้าอก เพื่อขนของหนีน้ำ

นายณัฐวุฒิ ตั่งสินชัย นายอำเภอสรรพยา ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้พื้นที่ริมตลิ่งนอกคันกั้นน้ำใน อ.สรรพยา ทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมแล้ว 6 ตำบล 35 หมู่บ้าน 820 หลังคาเรือน และอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก หากเขื่อนเจ้าพระยายังเพิ่มการระบายน้ำต่อเนื่อง อาจทำให้แนวกระสอบทรายที่ชาวบ้านทำป้องกันหมู่บ้านไว้อีก 22 หมู่บ้าน พังทลายลงมา

บางระกำเฝ้าระวังมวลน้ำจากสุโขทัย
อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เตรียมพร้อมเฝ้าระวังมวลน้ำที่มาจาก จ.สุโขทัย ซึ่งจะไหลผ่าน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ผ่านแม่น้ำยม 2 ฝั่ง โดยเฉพาะฝั่งขวา ที่รับน้ำจากบ้านกง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ซึ่งระบายผ่านประตูระบายน้ำวังสะตือ รวมทั้งมวลน้ำจากอ่างแม่มอก มีมวลน้ำบางส่วนได้ไหลเข้าทุ่งพื้นที่การเกษตร แต่ไม่เสียหาย เพราะเกษตรกรเก็บเกี่ยวหมดแล้ว ทาง อ.บางระกำ จึงเฝ้าระวังน้ำที่เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 2 เซนติเมตร หรือวันละประมาณ 20 เซนติเมตร อยู่ในระดับวิกฤติ จึงแจ้งเตือนให้ประชาชนริม 2 ฝั่งแม่น้ำยม เก็บของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดผ่านผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และเตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุ และอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินให้พร้อม

นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอบางระกำ ประเมินคาดว่ามวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.สุโขทัย จะเดินทางมาในอีก 5-7 วันข้างหน้า เป็นระดับพีคของบางระกำ ซึ่งทุ่งบางระกำโมเดล ทุ่งบางระกำฝั่งซ้าย ยังสามารถรับน้ำได้ ที่สถานทีวัดน้ำ Y 64 ที่สะพานข้ามแม่น้ำยม อ.บางระกำ สูงกว่าระดับตลิ่ง 65 เซนติเมตรแล้ว แต่ไม่ได้กระทบบ้านเรือน หากไม่มีฝนมาเติมเต็มน่าจะพอรับได้ ไม่หนักเหมือนปี 60 หรือปี 54 เพราะมวลน้ำสุโขทัยหลากเข้าทุ่งบางส่วน ทำให้ตัดมวลน้ำไปได้ในระดับหนึ่ง

น้ำท่วม จ.นครสวรรค์ จะเริ่มลดพรุ่งนี้
สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครสวรรค์ กรมชลประทานคาดว่าน้ำจะเริ่มลดลงตั้งแต่พรุ่งนี้ ที่ท่วม อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มดีขึ้น หากไม่มีฝนตกเพิ่ม น้ำจะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว โดยโครงการชลประทานนครสวรรค์และส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 3 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่

ทั้งนี้ จังหวัดซึ่งอยู่ในลุ่มเจ้าพระยายังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเนื่อง จากการระบายน้ำพื้นที่ตอนบน โดยแม่น้ำปิงที่ อ.บรรพตพิสัย แม่น้ำน่านที่ อ.ชุมแสง มีระดับสูงขึ้น แต่ยังไม่ล้นตลิ่ง ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.เมืองนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงกำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งแจ้งเตือนประชาชนทุกระยะ

อ.บางบาล ยังอ่วม ชาวบ้านเร่งกั้นกระสอบทราย
ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงสูงขึ้น ชาวบ้านต้องช่วยกันนำกระสอบทราบวางแนวกั้นหน้าวัดจุฬามณี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากเมื่อกลางดึกมีน้ำทะลักเข้ามา ขณะที่ทหารจาก ม.5 พัน.24 รอ. สระบุรี นำทรายมาร่วมกับจิตอาสา และนักเรียน ช่วยกันป้องกันโรงเรียนบางบาล โดยระดับน้ำที่สูงขึ้นยังท่วมถนนเส้นทางสายวัดอินทาราม-บางบาล การจราจรเป็นไปด้วยความากลำบาก ทางอำเภอได้ประสานกับทางหลวงชนบทในการเร่งมากู้ถนนเพื่อไม่ให้เสียหายมากขึ้น พร้อมทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ต้องการให้เปิดประตูระบายน้ำเข้าทุ่งนา แต่เนื่องจากยังไม่สามารถระบายน้ำเข้าทุ่งได้ เนื่องจากยังมีการเก็บเกี่ยวข้าวและแคนตาลูป คาดว่าจะระบายน้ำเข้าทุ่งบางบาลได้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่นำรถและข้าวของออกไปอยู่ริมถนน โดยทางเทศบาลตำบลบางบาลนำเต็นท์มาตั้งตามจุดต่างๆ และยังมีการนำดินมาวางแนวป้องกันน้ำท่วมถนนด้วย

นนทบุรีเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือ
หลายหน่วยงานใน จ.นนทบุรี ลงพื้นที่ชุมชนตลาดขวัญ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ หากปีไหนน้ำจากทางภาคเหนือมีปริมาณมาก และน้ำทะเลหนุน บ้านเรือนประชาชนจะได้รับผลกระทบจากน้ำที่เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชน ชาวบ้านได้เก็บของ เครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นไว้ที่สูง หลังทราบข่าวว่ามีน้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดในแถบภาคเหนือและอีสาน จึงเตรียมพร้อมยกข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นที่สูง เพราะเชื่อว่า จ.นนทบุรี ต้องได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมแน่นอน

ขณะเดียวกันทางเทศบาลนครนนทบุรี ได้ให้ช่างนำอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือมาสร้างสะพานไม้ เพื่อใช้เป็นทางเดินให้กับชาวบ้านในช่วงที่น้ำทะเลหนุน ซึ่งมีความสูงเกือบ 2 เมตร เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านในชุมชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เปิดวินาทีระเบิดรถกระเช้าเทศบาลรือเสาะ

เปิดนาทีระเบิดรถกระเช้าที่จอดอยู่ในที่จอดรถของเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ช่วงเที่ยงวานนี้ (6 ก.พ.) จนพังเสียหาย

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด