น้ำท่วมลพบุรียังวิกฤติ บางจุดสูงกว่า 2 เมตร

ภูมิภาค 29 ก.ย. – สถานการณ์น้ำท่วม จ.ลพบุรี ยังวิกฤติ ถูกน้ำท่วมแล้วทั้งหมด 7 อำเภอ บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ลพบุรี ยังวิกฤติ ถูกน้ำท่วมแล้วทั้งหมด 7 อำเภอ จาก 11 อำเภอ ซึ่ง อ.ลำสนธิ ชัยบาดาล โคกสำโรง และบ้านหมี่ เป็นพื้นที่ 4 อำเภอที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุด โดยเฉพาะ อ.บ้านหมี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเท่านั้น และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,000 ครอบครัว

อ.บ้านหมี่ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว 10 ตำบล ซึ่งอยู่ติดกับคลองชัยนาท-ป่าสัก และเป็นจุดสุดท้ายที่รับน้ำจากอำเภอต่างๆ ที่ไหลหลากมารวมกัน ระดับน้ำท่วมสูงสุดอยู่ที่ ต.บ้านกล้วย ต.หนองเมือง ต.หนองกระเบียน ต.พุคา ต.หนองทรายขาว ล่าสุดมวลน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี มีประกาศเตือนประชาชนเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง


ส่วนสถานการณ์น้ำที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ล่าสุดวันนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนที่ 953 ล้านลูกบาศ์กเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 99.27 ของความจุที่ 960 ล้านลูกบาศ์กเมตร โดยยังมีมวลน้ำเหนือไหลลงเขื่อน อยู่ที่ 209 ล้านลูกบาศ์กเมตรต่อวัน ซึ่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องเปิดประตูระบายน้ำ 5 บาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน เฉลี่ย 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำเหนือไหลลงตัวเขื่อนในบริมาณมาก และยังคงต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกหนังสือ “ด่วนที่สุด” ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ เตรียมรับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เต็มความจุของอ่าง กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำปาสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหก ในชุมชมนอกคันกั้นน้ำ บริเวณวัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2-2.5 เมตร

หลายพื้นที่น้ำท่วมสูง หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม
แม่น้ำเจ้าพระยา ใน อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงระดับ 17 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ถนนเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ ม.2 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ที่ทรุดตัวยาวกว่า 30 เมตร ทรุดตัวมากขึ้นอีก กระแสน้ำยังได้กัดเซาะดินใต้ถนนลึก 30 เซนติเมตร ทำให้ถนนพังเสียหาย


เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลธรรมามูลได้นำแผงเหล็กไปปิดกั้นถนน พร้อมติดไฟสัญญาณเตือน และติดธงแดง เพื่อแจ้งเตือนประชาชน และขอให้ประชาชนงดใช้ทางสัญจรในบริเวณดังกล่าว ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน เพื่อป้องกันอันตราย

ขณะที่ช่วงเที่ยงวันนี้ แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นเป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนขึ้นอีก 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จาก 2,749 เป็น 2,784 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้น้ำที่ท่วมใน อ.สรรพยา เพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านต่างนำเรือออกมาใช้งาน เพราะบางจุดไม่สามารถเดินลุยน้ำเข้าออกบ้านได้แล้ว มีพื้นที่ได้รับผลกระทบในหมู่ 4 และหมู่ 5 ต.โพนางดำตก บ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูง 30 เซนติเมตร-1 เมตร ชาวบ้านที่มีบ้านชั้นเดียวต้องขนของหนีน้ำขึ้นไปอาศัยอยู่ริมถนนสาย 311 ชัยนาท-สิงห์บุรี บางคนไม่มีเรือใช้งาน ต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมสูงถึงหน้าอก เพื่อขนของหนีน้ำ

นายณัฐวุฒิ ตั่งสินชัย นายอำเภอสรรพยา ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้พื้นที่ริมตลิ่งนอกคันกั้นน้ำใน อ.สรรพยา ทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมแล้ว 6 ตำบล 35 หมู่บ้าน 820 หลังคาเรือน และอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก หากเขื่อนเจ้าพระยายังเพิ่มการระบายน้ำต่อเนื่อง อาจทำให้แนวกระสอบทรายที่ชาวบ้านทำป้องกันหมู่บ้านไว้อีก 22 หมู่บ้าน พังทลายลงมา

บางระกำเฝ้าระวังมวลน้ำจากสุโขทัย
อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เตรียมพร้อมเฝ้าระวังมวลน้ำที่มาจาก จ.สุโขทัย ซึ่งจะไหลผ่าน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ผ่านแม่น้ำยม 2 ฝั่ง โดยเฉพาะฝั่งขวา ที่รับน้ำจากบ้านกง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ซึ่งระบายผ่านประตูระบายน้ำวังสะตือ รวมทั้งมวลน้ำจากอ่างแม่มอก มีมวลน้ำบางส่วนได้ไหลเข้าทุ่งพื้นที่การเกษตร แต่ไม่เสียหาย เพราะเกษตรกรเก็บเกี่ยวหมดแล้ว ทาง อ.บางระกำ จึงเฝ้าระวังน้ำที่เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 2 เซนติเมตร หรือวันละประมาณ 20 เซนติเมตร อยู่ในระดับวิกฤติ จึงแจ้งเตือนให้ประชาชนริม 2 ฝั่งแม่น้ำยม เก็บของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดผ่านผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และเตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุ และอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินให้พร้อม

นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอบางระกำ ประเมินคาดว่ามวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.สุโขทัย จะเดินทางมาในอีก 5-7 วันข้างหน้า เป็นระดับพีคของบางระกำ ซึ่งทุ่งบางระกำโมเดล ทุ่งบางระกำฝั่งซ้าย ยังสามารถรับน้ำได้ ที่สถานทีวัดน้ำ Y 64 ที่สะพานข้ามแม่น้ำยม อ.บางระกำ สูงกว่าระดับตลิ่ง 65 เซนติเมตรแล้ว แต่ไม่ได้กระทบบ้านเรือน หากไม่มีฝนมาเติมเต็มน่าจะพอรับได้ ไม่หนักเหมือนปี 60 หรือปี 54 เพราะมวลน้ำสุโขทัยหลากเข้าทุ่งบางส่วน ทำให้ตัดมวลน้ำไปได้ในระดับหนึ่ง

น้ำท่วม จ.นครสวรรค์ จะเริ่มลดพรุ่งนี้
สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครสวรรค์ กรมชลประทานคาดว่าน้ำจะเริ่มลดลงตั้งแต่พรุ่งนี้ ที่ท่วม อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มดีขึ้น หากไม่มีฝนตกเพิ่ม น้ำจะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว โดยโครงการชลประทานนครสวรรค์และส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 3 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่

ทั้งนี้ จังหวัดซึ่งอยู่ในลุ่มเจ้าพระยายังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเนื่อง จากการระบายน้ำพื้นที่ตอนบน โดยแม่น้ำปิงที่ อ.บรรพตพิสัย แม่น้ำน่านที่ อ.ชุมแสง มีระดับสูงขึ้น แต่ยังไม่ล้นตลิ่ง ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.เมืองนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงกำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งแจ้งเตือนประชาชนทุกระยะ

อ.บางบาล ยังอ่วม ชาวบ้านเร่งกั้นกระสอบทราย
ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงสูงขึ้น ชาวบ้านต้องช่วยกันนำกระสอบทราบวางแนวกั้นหน้าวัดจุฬามณี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากเมื่อกลางดึกมีน้ำทะลักเข้ามา ขณะที่ทหารจาก ม.5 พัน.24 รอ. สระบุรี นำทรายมาร่วมกับจิตอาสา และนักเรียน ช่วยกันป้องกันโรงเรียนบางบาล โดยระดับน้ำที่สูงขึ้นยังท่วมถนนเส้นทางสายวัดอินทาราม-บางบาล การจราจรเป็นไปด้วยความากลำบาก ทางอำเภอได้ประสานกับทางหลวงชนบทในการเร่งมากู้ถนนเพื่อไม่ให้เสียหายมากขึ้น พร้อมทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ต้องการให้เปิดประตูระบายน้ำเข้าทุ่งนา แต่เนื่องจากยังไม่สามารถระบายน้ำเข้าทุ่งได้ เนื่องจากยังมีการเก็บเกี่ยวข้าวและแคนตาลูป คาดว่าจะระบายน้ำเข้าทุ่งบางบาลได้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่นำรถและข้าวของออกไปอยู่ริมถนน โดยทางเทศบาลตำบลบางบาลนำเต็นท์มาตั้งตามจุดต่างๆ และยังมีการนำดินมาวางแนวป้องกันน้ำท่วมถนนด้วย

นนทบุรีเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือ
หลายหน่วยงานใน จ.นนทบุรี ลงพื้นที่ชุมชนตลาดขวัญ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ หากปีไหนน้ำจากทางภาคเหนือมีปริมาณมาก และน้ำทะเลหนุน บ้านเรือนประชาชนจะได้รับผลกระทบจากน้ำที่เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชน ชาวบ้านได้เก็บของ เครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นไว้ที่สูง หลังทราบข่าวว่ามีน้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดในแถบภาคเหนือและอีสาน จึงเตรียมพร้อมยกข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นที่สูง เพราะเชื่อว่า จ.นนทบุรี ต้องได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมแน่นอน

ขณะเดียวกันทางเทศบาลนครนนทบุรี ได้ให้ช่างนำอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือมาสร้างสะพานไม้ เพื่อใช้เป็นทางเดินให้กับชาวบ้านในช่วงที่น้ำทะเลหนุน ซึ่งมีความสูงเกือบ 2 เมตร เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านในชุมชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]