น้ำท่วมลพบุรียังวิกฤติ บางจุดสูงกว่า 2 เมตร

ภูมิภาค 29 ก.ย. – สถานการณ์น้ำท่วม จ.ลพบุรี ยังวิกฤติ ถูกน้ำท่วมแล้วทั้งหมด 7 อำเภอ บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ลพบุรี ยังวิกฤติ ถูกน้ำท่วมแล้วทั้งหมด 7 อำเภอ จาก 11 อำเภอ ซึ่ง อ.ลำสนธิ ชัยบาดาล โคกสำโรง และบ้านหมี่ เป็นพื้นที่ 4 อำเภอที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุด โดยเฉพาะ อ.บ้านหมี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเท่านั้น และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,000 ครอบครัว

อ.บ้านหมี่ มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว 10 ตำบล ซึ่งอยู่ติดกับคลองชัยนาท-ป่าสัก และเป็นจุดสุดท้ายที่รับน้ำจากอำเภอต่างๆ ที่ไหลหลากมารวมกัน ระดับน้ำท่วมสูงสุดอยู่ที่ ต.บ้านกล้วย ต.หนองเมือง ต.หนองกระเบียน ต.พุคา ต.หนองทรายขาว ล่าสุดมวลน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี มีประกาศเตือนประชาชนเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง


ส่วนสถานการณ์น้ำที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ล่าสุดวันนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนที่ 953 ล้านลูกบาศ์กเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 99.27 ของความจุที่ 960 ล้านลูกบาศ์กเมตร โดยยังมีมวลน้ำเหนือไหลลงเขื่อน อยู่ที่ 209 ล้านลูกบาศ์กเมตรต่อวัน ซึ่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องเปิดประตูระบายน้ำ 5 บาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงท้ายเขื่อน เฉลี่ย 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำเหนือไหลลงตัวเขื่อนในบริมาณมาก และยังคงต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยออกหนังสือ “ด่วนที่สุด” ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ เตรียมรับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เต็มความจุของอ่าง กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำปาสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหก ในชุมชมนอกคันกั้นน้ำ บริเวณวัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2-2.5 เมตร

หลายพื้นที่น้ำท่วมสูง หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม
แม่น้ำเจ้าพระยา ใน อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงระดับ 17 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ถนนเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณ ม.2 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ที่ทรุดตัวยาวกว่า 30 เมตร ทรุดตัวมากขึ้นอีก กระแสน้ำยังได้กัดเซาะดินใต้ถนนลึก 30 เซนติเมตร ทำให้ถนนพังเสียหาย


เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลธรรมามูลได้นำแผงเหล็กไปปิดกั้นถนน พร้อมติดไฟสัญญาณเตือน และติดธงแดง เพื่อแจ้งเตือนประชาชน และขอให้ประชาชนงดใช้ทางสัญจรในบริเวณดังกล่าว ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน เพื่อป้องกันอันตราย

ขณะที่ช่วงเที่ยงวันนี้ แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นเป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนขึ้นอีก 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จาก 2,749 เป็น 2,784 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้น้ำที่ท่วมใน อ.สรรพยา เพิ่มสูงขึ้น ชาวบ้านต่างนำเรือออกมาใช้งาน เพราะบางจุดไม่สามารถเดินลุยน้ำเข้าออกบ้านได้แล้ว มีพื้นที่ได้รับผลกระทบในหมู่ 4 และหมู่ 5 ต.โพนางดำตก บ้านเรือนกว่า 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูง 30 เซนติเมตร-1 เมตร ชาวบ้านที่มีบ้านชั้นเดียวต้องขนของหนีน้ำขึ้นไปอาศัยอยู่ริมถนนสาย 311 ชัยนาท-สิงห์บุรี บางคนไม่มีเรือใช้งาน ต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมสูงถึงหน้าอก เพื่อขนของหนีน้ำ

นายณัฐวุฒิ ตั่งสินชัย นายอำเภอสรรพยา ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้พื้นที่ริมตลิ่งนอกคันกั้นน้ำใน อ.สรรพยา ทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมแล้ว 6 ตำบล 35 หมู่บ้าน 820 หลังคาเรือน และอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก หากเขื่อนเจ้าพระยายังเพิ่มการระบายน้ำต่อเนื่อง อาจทำให้แนวกระสอบทรายที่ชาวบ้านทำป้องกันหมู่บ้านไว้อีก 22 หมู่บ้าน พังทลายลงมา

บางระกำเฝ้าระวังมวลน้ำจากสุโขทัย
อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เตรียมพร้อมเฝ้าระวังมวลน้ำที่มาจาก จ.สุโขทัย ซึ่งจะไหลผ่าน อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ผ่านแม่น้ำยม 2 ฝั่ง โดยเฉพาะฝั่งขวา ที่รับน้ำจากบ้านกง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ซึ่งระบายผ่านประตูระบายน้ำวังสะตือ รวมทั้งมวลน้ำจากอ่างแม่มอก มีมวลน้ำบางส่วนได้ไหลเข้าทุ่งพื้นที่การเกษตร แต่ไม่เสียหาย เพราะเกษตรกรเก็บเกี่ยวหมดแล้ว ทาง อ.บางระกำ จึงเฝ้าระวังน้ำที่เพิ่มขึ้นชั่วโมงละ 2 เซนติเมตร หรือวันละประมาณ 20 เซนติเมตร อยู่ในระดับวิกฤติ จึงแจ้งเตือนให้ประชาชนริม 2 ฝั่งแม่น้ำยม เก็บของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดผ่านผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และเตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุ และอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินให้พร้อม

นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอบางระกำ ประเมินคาดว่ามวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.สุโขทัย จะเดินทางมาในอีก 5-7 วันข้างหน้า เป็นระดับพีคของบางระกำ ซึ่งทุ่งบางระกำโมเดล ทุ่งบางระกำฝั่งซ้าย ยังสามารถรับน้ำได้ ที่สถานทีวัดน้ำ Y 64 ที่สะพานข้ามแม่น้ำยม อ.บางระกำ สูงกว่าระดับตลิ่ง 65 เซนติเมตรแล้ว แต่ไม่ได้กระทบบ้านเรือน หากไม่มีฝนมาเติมเต็มน่าจะพอรับได้ ไม่หนักเหมือนปี 60 หรือปี 54 เพราะมวลน้ำสุโขทัยหลากเข้าทุ่งบางส่วน ทำให้ตัดมวลน้ำไปได้ในระดับหนึ่ง

น้ำท่วม จ.นครสวรรค์ จะเริ่มลดพรุ่งนี้
สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครสวรรค์ กรมชลประทานคาดว่าน้ำจะเริ่มลดลงตั้งแต่พรุ่งนี้ ที่ท่วม อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ มีแนวโน้มดีขึ้น หากไม่มีฝนตกเพิ่ม น้ำจะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว โดยโครงการชลประทานนครสวรรค์และส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 3 ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่

ทั้งนี้ จังหวัดซึ่งอยู่ในลุ่มเจ้าพระยายังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเนื่อง จากการระบายน้ำพื้นที่ตอนบน โดยแม่น้ำปิงที่ อ.บรรพตพิสัย แม่น้ำน่านที่ อ.ชุมแสง มีระดับสูงขึ้น แต่ยังไม่ล้นตลิ่ง ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ อ.เมืองนครสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงกำชับให้โครงการชลประทานทุกแห่งแจ้งเตือนประชาชนทุกระยะ

อ.บางบาล ยังอ่วม ชาวบ้านเร่งกั้นกระสอบทราย
ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ยังคงสูงขึ้น ชาวบ้านต้องช่วยกันนำกระสอบทราบวางแนวกั้นหน้าวัดจุฬามณี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากเมื่อกลางดึกมีน้ำทะลักเข้ามา ขณะที่ทหารจาก ม.5 พัน.24 รอ. สระบุรี นำทรายมาร่วมกับจิตอาสา และนักเรียน ช่วยกันป้องกันโรงเรียนบางบาล โดยระดับน้ำที่สูงขึ้นยังท่วมถนนเส้นทางสายวัดอินทาราม-บางบาล การจราจรเป็นไปด้วยความากลำบาก ทางอำเภอได้ประสานกับทางหลวงชนบทในการเร่งมากู้ถนนเพื่อไม่ให้เสียหายมากขึ้น พร้อมทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ต้องการให้เปิดประตูระบายน้ำเข้าทุ่งนา แต่เนื่องจากยังไม่สามารถระบายน้ำเข้าทุ่งได้ เนื่องจากยังมีการเก็บเกี่ยวข้าวและแคนตาลูป คาดว่าจะระบายน้ำเข้าทุ่งบางบาลได้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่นำรถและข้าวของออกไปอยู่ริมถนน โดยทางเทศบาลตำบลบางบาลนำเต็นท์มาตั้งตามจุดต่างๆ และยังมีการนำดินมาวางแนวป้องกันน้ำท่วมถนนด้วย

นนทบุรีเตรียมพร้อมรับมือน้ำเหนือ
หลายหน่วยงานใน จ.นนทบุรี ลงพื้นที่ชุมชนตลาดขวัญ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ หากปีไหนน้ำจากทางภาคเหนือมีปริมาณมาก และน้ำทะเลหนุน บ้านเรือนประชาชนจะได้รับผลกระทบจากน้ำที่เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในชุมชน ชาวบ้านได้เก็บของ เครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นไว้ที่สูง หลังทราบข่าวว่ามีน้ำท่วมในพื้นที่หลายจังหวัดในแถบภาคเหนือและอีสาน จึงเตรียมพร้อมยกข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นที่สูง เพราะเชื่อว่า จ.นนทบุรี ต้องได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมแน่นอน

ขณะเดียวกันทางเทศบาลนครนนทบุรี ได้ให้ช่างนำอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือมาสร้างสะพานไม้ เพื่อใช้เป็นทางเดินให้กับชาวบ้านในช่วงที่น้ำทะเลหนุน ซึ่งมีความสูงเกือบ 2 เมตร เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านในชุมชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]

แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา

3 ก.ย. – แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา ชี้ผิดมาตรา 112 และมาตรา 157 สะพัด! ตีกลับ พ.ร.ฎ.ยุบสภา เหตุไม่เป็นไปตามระเบียบ-กฤษฎีกาแย้งไร้อำนาจ ด้าน “อนุทิน” บอกยังเป็นแค่ข่าว รอรัฐบาลแจงดีกว่า นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย ในความผิดมาตรา 112 พร้อมเผยว่า การพยายามยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร เนื่องจากไม่มีอำนาจหน้าที่หรือสิทธิที่สามารถทำได้ นายไทกร ระบุว่า ได้รับข้อมูลว่านายภูมิธรรม นำเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาไปส่งยังสำนักพระราชวังแล้ว หนังสือฉบับนั้นได้ถูกส่งกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยและนายภูมิธรรมยังไม่ยอมที่จะเคารพต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิในการที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะยุบสภา กลับมีความพยายามที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ โดยมีการทาบทามให้ ดร.วิษณุ เครืองาม และคณะ มาทำหน้าที่ เพื่อที่จะตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นอีกฉบับใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะนำส่งสำนักพระราชวังอีกครั้ง ถือว่าการกระทำที่ไม่บังควร “ศุภชัย” […]