สาวเมาแล้วขับ ชนด่านเคอร์ฟิว สภ.คลองหลวง ตำรวจเจ็บ 2 นาย

ปทุมธานี 28 ก.ย. – สาวใหญ่ซิ่งเก๋งชนด่านเคอร์ฟิว สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ชนิดไม่แตะเบรก กวาดเละทั้งด่าน ตำรวจเจ็บเล็กน้อย 2 นาย


เวลา 22.30 เมื่อวานนี้ ทางตำรวจ สภ.คลองหลวง ตรวจสอบเหตุรถเก๋งชนด่านตรวจเคอร์ฟิวและมีตำรวจจราจร สภ.คลองหลวง ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนนพหลโยธินขาออก หน้าโรงงานเคคัตทัน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่เกิดเหตุพบแท่งแบริเออร์พลาสติกสีส้มและป้ายสัญญาณไฟถูกชนได้รับความเสียหายหลายอัน ใกล้กันพบรถเก๋งสีดำ สภาพด้านหน้ารถได้รับความเสียหาย มีหญิงอายุ 53 ปี เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อยู่ในอาการมึนงง

นอกจากนี้ในที่เกดเหตุ พบรถกระบะและรถจักรยานยนต์ของตำรวจถูกชนได้รับความเสียหายรวม 3 คัน และมีตำรวจจราจร สภ.คลองหลวง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 นาย


สอบถามคนขับรถเก๋งบอกว่า ขับรถออกมาจากนวนคร จะกลับบ้านย่านพระราม 2 ขับรถวนไปวนมาและมองไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ตั้งด่านตรวจอยู่จึงชนเข้าเต็ม ๆ

ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ ทักษิณ รองสารวัตรจราจร สภ.คลองหลวง บอกว่า จุดเกิดเหตุเป็นจุดเบี่ยงการจราจรเพื่อที่จะให้ใช้ช่องทางคู่ขนานเข้าด่านตรวจหน้าโลตัสนวนคร กระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 27 กันยายน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่ มีรถยนต์สีดำ ขับมาด้วยความเร็ว โดยไม่เบรก ชนด่านตรวจอย่างจัง เจ้าหน้าที่ตำรวจต่างพากันกระโดดหนีไปคนละทิศทาง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ส่วนผู้ก่อเหตุดูแล้วน่าจะมีอาการมึนเมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์มาให้เป่าเพื่อวัดค่า แต่คู่กรณีไม่ยอมเป่าเพียงแต่อมหลอดไว้เท่านั้น ส่วนในการตั้งด่าน ได้วางแบริเออร์พลาสติกสีส้ม และป้ายไฟพร้อมกับสัญญาณไฟไซเรนชัดเจน

เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีในข้อหาเมาสุราขณะขับรถ, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและนำตัวดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง