สุราษฎร์ธานี 27 ก.ย.- ขายด่วนอ้วกวาฬ น้ำหนักเกือบ 30 กิโลกรัม ที่ชาวประมง อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี พบที่หาดนิยม หลังมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ รับรองว่าเป็นของจริง
นายณรงค์ เพชรราช หรือ นายแมว ชาวประมงพื้นบ้านนำก้อนอำพันทะเล หรือ อ้วกวาฬ ออกมาโชว์ผู้สื่อข่าวดู ลักษณะของอ้วกวาฬก้อนนี้ไม่เป็นรูปทรง ด้านหนึ่งเป็นรูโพรงอากาศ มีเม็ดเล็กๆ คล้ายทราย ส่วนอีกด้านเป็นผิวมันเรียบ น้ำหนักเกือบ30กิโลกรัม
นายณรงค์ เพชรราชเล่าว่า ตนมีอาชีพเป็นชาวประมงออกเรือหาปลากลางทะเลเป็นประจำ วันที่พบอ้วกวาฬเป็นช่วงบ่าย ขณะกำลังกลับเข้าฝั่ง สังเกตเห็นมีก้อนอะไรลอยอยู่ริมหาดนิยม ต.ตะกรบ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอะไรจึงเก็บขึ้นมาไว้บนขนำริมหาด ผ่านไป 4-5 วัน ได้กลิ่นเหม็นๆ หอมๆ เพื่อนชาวประมงแนะนำให้เก็บไว้ก่อนอย่าเพิ่งทิ้ง จึงนำกลับบ้านพัก ผ่านไป 6-7 เดือนเพื่อนอีกคนมาเห็น จึงพาไปส่งไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่าเป็นอ้วกวาฬของจริง โดยมีหนังสือรับรองจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เรียบร้อย นายณรงค์ เผยว่ารู้สึกตื่นเต้นดีใจมากเพราะทราบมาว่าอ้วกวาฬมีราคาสูง และหากมีใครต้องการซื้อตนก็พร้อมขาย โดยติดต่อได้ที่ คุณแมว โทร. 061-734-6390
“อ้วกวาฬ” หรืออำพันทะเล เป็นผลผลิตจากการสำรอก หรือการขับถ่ายของวาฬสเปิร์ม (วาฬหัวทุย) เท่านั้น กระบวนการที่ก่อให้เกิดคือ การกินหมึกที่เป็นอาหารหลักเข้าไป จนเกิดการสะสมของคอเลสเตอรอลในลำไส้วาฬ ก้อนไขมันชนิดนี้ประกอบด้วยคอเลสเตอรอลและไขมัน ร้อยละ 80 รวมถึงสารเบนโซอิก และแอลกอฮอล์ เมื่ออ้วกวาฬถูกขับออกมาจากท้องของวาฬในตอนแรกนั้นจะมีกลิ่นคาวและกลิ่นมูลสัตว์ แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งก็จะมีกลิ่นหอม และด้วยความที่อ้วกวาฬเป็นของหายาก ราคาแพง ที่ใช้เป็นวัตถุดิบหัวน้ำหอม ทำให้มีราคาแพง จนถูกขนานนามว่าเป็นทองลอยได้แห่งท้องทะเล จึงทำให้เกิดการเสาะหาของนักแสวงโชคและกลุ่มชาวประมง สามารถพบได้ตามชายหาด หรือกลางทะเล ซึ่งในอดีตมีการออกล่าวาฬสเปิร์ม เพื่อผ่าเอาไขมันชนิดนี้มาแล้ว ก่อนจะยุติจากกฎหมายคุ้มครองวาฬ.-สำนักข่าวไทย