รวบพ่อลูกอ่อนตระเวนขโมย จยย.อ้างหาเงินซื้อนมลูก

เชียงใหม่ 25 ก.ย.- ตำรวจเชียงใหม่รวบหนุ่มใหญ่วัย 58 ปี ช่างรับเหมาก่อสร้างพ่อลูกอ่อน เจอพิษโควิด ไม่มีงาน ออกตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ตามโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ นำไปขาย หาเงินซื้อนมให้ลูก 


กล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บันทึกภาพผู้ชายสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อตสีเทา กางยีนส์ขายาวสีดำสวมรองเท้าแตะหนังสีน้ำตาล  สวมหมวกกันน็อกสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน จนล 193 เชียงใหม่ ออกจากโรงพยาบาลไป

ชายในวงจรปิดดังกล่าวคือคนร้ายที่ขโมยรถจักรยานยนต์ และภาพในวงจรปิดกลายเป็นหลักฐานสำคัญ ที่ตำรวจ สภ.แม่ริม ใช้ติดตามจนจับกุมคนร้ายได้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.32 น. วันที่ 16 กันยายน หลังเกิดเหตุเจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวคือ นางสาวภัทราวดี วงศ์ขันแก้ว อายุ 24 ปี ได้เข้าแจ้งความว่า จอดรถจักรยานยนต์ไว้หลังป้อมยามภายในโรงพยาบาลนครพิงค์เพื่อไปรับยา เมื่อกลับออกมาพบว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไปแล้ว


ตำรวจจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงพยาบาล และสอบปากคำพยานแวดล้อม กระทั่งเมื่อวานนี้ เวลา 14.30 น. พบชายต้องสงสัย เดินป้วนเปี้ยนบริเวณที่จอดรถของโรงพยาบาลนครพิงค์ ตรวจสอบพบว่ามีรูปร่างหน้าตาและสวมเสื้อผ้าคล้ายกับชายในวงจรปิด จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทราบชื่อคือ นายธวัชชัย บุญใส อายุ 58 ปี จากนั้นคุมตัวผู้ต้องหาไปค้นบ้านพักในตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหาของกลางเพิ่ม

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ขโมยรถจักรยานยนต์ของนางสาวภัทราวดี ผู้เสียหายไปจริง โดยก่อนหน้านี้ทำอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง แต่เจอพิษโควิด ทำให้ไม่มีงาน ประกอบกับมีลูกวัย 6 เดือน ที่ต้องเลี้ยงดู จึงตัดสินใจออกตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ตามโรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลสันทรายและโรงพยาบาลนครพิงค์ไปขาย เพื่อนำเงินมาซื้อนมให้ลูกและเป็นค่าใช้จ่ายภายในครอบครัว โดยรถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาได้ จะนำไปขายให้ร้านรับซื้อรถย่านช้างเผือก หรือลูกค้าที่ต้องการรับซื้อรถมือสอง โดยขายในราคาคันละ 6,000-7,000 บาท เมื่อขายรถจักรยานยนต์แล้ว ก็จะนั่งรถโดยสารประจำทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มาลงหน้าโรงพยาบาล เพื่อมาเอารถจักรยานยนต์วิบากของตนที่จอดทิ้งไว้ แล้วขี่กลับบ้านพัก ที่ผ่านมาขโมยรถจักรยานยนต์ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อำเภอแม่ริม  2 คัน โรงพยาบาลอำเภอสันทราย 2 คัน กระทั่งมาถูกจับกุม 

เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา ลักทรัพย์โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ เตรียมขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการ และเจ้าของร้านที่รับซื้อรถจักรยานยนต์เถื่อน มาดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง