“เตี้ยนหมู่” อ่อนกำลังลง แต่ยังเกิดฝนและน้ำท่วมหลายพื้นที่

สำนักข่าวไทย 25 ก.ย.- สถานการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นในหลายจังหวัด จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “เตี้ยนหมู่” ซึ่งล่าสุดได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง แต่ยังทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่


โคราชน้ำท่วมสูง จนท.ต้องช่วยย้ายโลงศพ

ที่นครราชสีมา พบมวลน้ำจำนวนมากจากลำเชียงไกร ผสมกับฝนตกหนักสะสมตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำไหลทะลักท่วมหมู่บ้าน บ้านด่านติง หมู่ที่ 5 ตำบลจันอัด อำเภอโนนสูง ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำ 27 หลังคาเรือน ถนนหนทางมีน้ำท่วมสูงสัญจรผ่านไม่ได้ ขณะที่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งพายามยาก สภากาชาดไทย นำกำลังเจ้าหน้าที่ 30 นาย พร้อมเรือท้องแบน 3 ลำ ช่วยกันขนย้ายโลงเย็นบรรจุศพ และวัสดุอุปกรณ์ภายในศาลาพักศพ วัดบ้านด่านติง ขึ้นไปอยู่ที่สูง พร้อมขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ทั้งรถจักรยานยนต์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ออกมาจากบ้านที่ถูกน้ำท่วม หลังปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


จ.เชียงใหม่ พบลูกจระเข้ช่วงน้ำท่วม ชาวบ้านผวาเจอแม่

ชาวบ้านที่ไปหาปลาบริเวณทุ่งหญ้าติดกับคลองแม่ข่า ตำบลป่าแดด ตัวเมืองเชียงใหม่ พบลูกจระเข้ความยาวเกือบ 1 เมตร  จึงจับนำไปให้กำนันตำบลป่าแดดดูแล คาดว่าลูกจระเข้อาจมีการลักลอบเลี้ยง และหลุดออกมาในคลองแม่ข่า และอาศัยในทุ่งหญ้าช่วงน้ำท่วม ทำให้ชาวบ้านยังหวาดผวาเกรงว่าอาจมีจระเข้ตัวแม่อยู่อีกหรือไม่ ขณะที่กำนันได้นำจระเข้มาขังไว้ในบ่อซีเมนต์ และประสานทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำลูกจระเข้ไปดูแลต่อไป

แห่แชร์กระบะซิ่งวิ่งฝ่าน้ำท่วมเดือดร้อนชาวบ้าน


เพชเฟซบุ๊ก “เจ๊ม้อย V Plus” โพสต์ภาพรถกระบะคันหนึ่ง วิ่งฝ่าน้ำท่วมบนถนนอย่างรวดเร็ว  และทำให้น้ำกระเด็นไปถูกผู้คนที่อยู่ริมถนน โดยในโพสต์ระบุข้อความว่า  “ควรมีมารยาทในการขับขี่ด้วย ถ้าเป็นที่ที่มีน้ำขังก็ควรลดความเร็วลงสักหน่อย อย่าลืมว่าคุณไม่ได้ใช้ถนนเพียงคนเดียว พิกัดสุโขทัย”

จ.ลำปาง น้ำเขื่อนแม่มอกล้นสปิลล์เวย์ เตือนสุโขทัยรับมือ

ย้อนกลับขึ้นไปที่ลำปาง พบว่าอ่างเก็บน้ำแม่มอก อำเภอเถิน มีปริมาณน้ำเต็มความจุเพราะฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาไหลลงต่อเนื่องและล้นสปิลล์เวย์ ซึ่งน้ำจำนวนนี้จะไหลไปที่จังหวัดสุโขทัยเพิ่มเติม และเป็นมวลน้ำส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วมสุโขทัยในขณะ จึงแจ้งเตือนให้พื้นที่ท้ายน้ำในสุโขทัย พร้อมรับมือกับสถานการณ์

จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมรางรถไฟต้องงดเดินรถและปรับเปลี่ยนเส้นทาง

นอกจากนี้สถานการณ์ฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมเส้นทางรถไฟ ช่วงระหว่างสถานีบำเหน็จณรงค์ – จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ  ส่งผลกระทบต่อขบวนรถไฟเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ (สายหนองคาย) ไม่สามารถเดินรถผ่านได้  โดยการรถไฟฯ แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถสายหนองคาย ช่วงระหว่างสถานีบำเหน็จณรงค์ – จัตุรัส ไปใช้เส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่แทน พร้อมกับงดเดินขบวนรถท้องถิ่น 2 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายนเป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ส่วนสถานการณ์น้ำในภาพรวมที่จังหวัดชัยภูมิ พบว่าฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนจากอิทธิพลของพายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคา ไหลลงลำห้วยสาขา และเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและย่านธุรกิจในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ  โดยเฉพาะที่บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล หน้าศาลากลางจังหวัดฯ มีระดับน้ำท่วมสูง 50 – 60 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังท่วมโรงพยาบาล, ตำรวจภูธรจังหวัด และศาลากลางจังหวัดฯ ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้

โดยเจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยลำเลียงผู้ป่วยลงเรือท้องแบน เพื่อพาไปส่งโรงพยาบาลชัยภูมิ นอกจากนี้ยังนำกระสอบทรายมาปิดทางเข้า-ออกโรงพยาบาลเพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าไปท่วมเครื่องมือแพทย์ 

ส่วนสถานที่ราชการใกล้เคียง รวมถึงถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองมีระดับน้ำสูงกว่า 60 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรไม่ได้ และเขตเทศบาลถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ล่าสุดจังหวัดฯ ได้แจ้งเตือนประชาชนว่า ขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนลำปะทาวใกล้วิกฤติรับน้ำไม่ไหว และทะลักสันเขื่อนสูงกว่า 25 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนใกล้เคียงเร่งขนของขึ้นที่สูง

ส่วนสถานการณ์ลุ่มเจ้าพระยา ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำเป็น 2,072 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านนครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรัง ที่ไหลผ่านอุทัยธานีมีปริมาณเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณเขื่อนเจ้าพระยาในอำเภอสรรพยา ระดับน้ำเพิ่มสูง 34 เซนติเมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก

ขณะกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ออกประกาศเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ ฉบับที่ 14 คาดว่าในวันที่ 27-30 กันยายน  ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้มีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที   และจะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณท้ายเขื่อน ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท, สิงห์บุรี และอ่างทอง ไปจนถึงพระนครศรีอยุธยา จะมีน้ำเพิ่มสูงอีก 30 เซนติเมตรถึง 1 เมตร จึงขอให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์

ส่วนที่พระนครศรีอยุธยา  พบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงต่อเนื่อง โดยที่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดฯ พบระดับน้ำสูงขึ้น และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดฯ ต้องคอยติดตามเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา และพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) วัดจะระดมพระและเณรช่วยกันติดตั้งแนวบังเกอร์พนังกั้นน้ำ บนเขื่อนคอนกรีตหน้าวัด ขนาดความ ยาว 200 เมตร สูง 2.20 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพราะเกรงว่ามวลน้ำจะเข้าท่วมสถานที่สำคัญ รวมถึงโรงเรียนปริยัติธรรม

และที่อ่างทอง เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินของชาวบ้าน ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก หลังน้ำจากคลองโผงเผงล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหมู่ที่ 1, 2, 3 และ 7  ซึ่งไม่มีเขื่อนหินป้องกันน้ำท่วม ส่วนบางจุดอยู่ระหว่างการก่อสร้างจึงทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว และเพียงไม่กี่ชั่วโมงพบว่าน้ำสูงกว่า 1 เมตรแล้ว โดยปริมาณน้ำในคลองโผงเผงที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มปริมาณระบายน้ำ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย