สำนักข่าวไทย 25 ก.ย.- สถานการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นในหลายจังหวัด จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “เตี้ยนหมู่” ซึ่งล่าสุดได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง แต่ยังทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่
โคราชน้ำท่วมสูง จนท.ต้องช่วยย้ายโลงศพ
ที่นครราชสีมา พบมวลน้ำจำนวนมากจากลำเชียงไกร ผสมกับฝนตกหนักสะสมตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำไหลทะลักท่วมหมู่บ้าน บ้านด่านติง หมู่ที่ 5 ตำบลจันอัด อำเภอโนนสูง ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำ 27 หลังคาเรือน ถนนหนทางมีน้ำท่วมสูงสัญจรผ่านไม่ได้ ขณะที่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งพายามยาก สภากาชาดไทย นำกำลังเจ้าหน้าที่ 30 นาย พร้อมเรือท้องแบน 3 ลำ ช่วยกันขนย้ายโลงเย็นบรรจุศพ และวัสดุอุปกรณ์ภายในศาลาพักศพ วัดบ้านด่านติง ขึ้นไปอยู่ที่สูง พร้อมขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ทั้งรถจักรยานยนต์ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ออกมาจากบ้านที่ถูกน้ำท่วม หลังปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จ.เชียงใหม่ พบลูกจระเข้ช่วงน้ำท่วม ชาวบ้านผวาเจอแม่
ชาวบ้านที่ไปหาปลาบริเวณทุ่งหญ้าติดกับคลองแม่ข่า ตำบลป่าแดด ตัวเมืองเชียงใหม่ พบลูกจระเข้ความยาวเกือบ 1 เมตร จึงจับนำไปให้กำนันตำบลป่าแดดดูแล คาดว่าลูกจระเข้อาจมีการลักลอบเลี้ยง และหลุดออกมาในคลองแม่ข่า และอาศัยในทุ่งหญ้าช่วงน้ำท่วม ทำให้ชาวบ้านยังหวาดผวาเกรงว่าอาจมีจระเข้ตัวแม่อยู่อีกหรือไม่ ขณะที่กำนันได้นำจระเข้มาขังไว้ในบ่อซีเมนต์ และประสานทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำลูกจระเข้ไปดูแลต่อไป
แห่แชร์กระบะซิ่งวิ่งฝ่าน้ำท่วมเดือดร้อนชาวบ้าน
เพชเฟซบุ๊ก “เจ๊ม้อย V Plus” โพสต์ภาพรถกระบะคันหนึ่ง วิ่งฝ่าน้ำท่วมบนถนนอย่างรวดเร็ว และทำให้น้ำกระเด็นไปถูกผู้คนที่อยู่ริมถนน โดยในโพสต์ระบุข้อความว่า “ควรมีมารยาทในการขับขี่ด้วย ถ้าเป็นที่ที่มีน้ำขังก็ควรลดความเร็วลงสักหน่อย อย่าลืมว่าคุณไม่ได้ใช้ถนนเพียงคนเดียว พิกัดสุโขทัย”
จ.ลำปาง น้ำเขื่อนแม่มอกล้นสปิลล์เวย์ เตือนสุโขทัยรับมือ
ย้อนกลับขึ้นไปที่ลำปาง พบว่าอ่างเก็บน้ำแม่มอก อำเภอเถิน มีปริมาณน้ำเต็มความจุเพราะฝนที่ตกหนัก ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาไหลลงต่อเนื่องและล้นสปิลล์เวย์ ซึ่งน้ำจำนวนนี้จะไหลไปที่จังหวัดสุโขทัยเพิ่มเติม และเป็นมวลน้ำส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำท่วมสุโขทัยในขณะ จึงแจ้งเตือนให้พื้นที่ท้ายน้ำในสุโขทัย พร้อมรับมือกับสถานการณ์
จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมรางรถไฟต้องงดเดินรถและปรับเปลี่ยนเส้นทาง
นอกจากนี้สถานการณ์ฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมเส้นทางรถไฟ ช่วงระหว่างสถานีบำเหน็จณรงค์ – จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ส่งผลกระทบต่อขบวนรถไฟเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ (สายหนองคาย) ไม่สามารถเดินรถผ่านได้ โดยการรถไฟฯ แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถสายหนองคาย ช่วงระหว่างสถานีบำเหน็จณรงค์ – จัตุรัส ไปใช้เส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่แทน พร้อมกับงดเดินขบวนรถท้องถิ่น 2 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายนเป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ส่วนสถานการณ์น้ำในภาพรวมที่จังหวัดชัยภูมิ พบว่าฝนที่ตกหนักตลอดทั้งคืนจากอิทธิพลของพายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคา ไหลลงลำห้วยสาขา และเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและย่านธุรกิจในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ โดยเฉพาะที่บริเวณอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล หน้าศาลากลางจังหวัดฯ มีระดับน้ำท่วมสูง 50 – 60 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังท่วมโรงพยาบาล, ตำรวจภูธรจังหวัด และศาลากลางจังหวัดฯ ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้
โดยเจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยลำเลียงผู้ป่วยลงเรือท้องแบน เพื่อพาไปส่งโรงพยาบาลชัยภูมิ นอกจากนี้ยังนำกระสอบทรายมาปิดทางเข้า-ออกโรงพยาบาลเพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าไปท่วมเครื่องมือแพทย์
ส่วนสถานที่ราชการใกล้เคียง รวมถึงถนนสายต่างๆ ในตัวเมืองมีระดับน้ำสูงกว่า 60 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรไม่ได้ และเขตเทศบาลถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ล่าสุดจังหวัดฯ ได้แจ้งเตือนประชาชนว่า ขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนลำปะทาวใกล้วิกฤติรับน้ำไม่ไหว และทะลักสันเขื่อนสูงกว่า 25 เซนติเมตร จึงขอให้ประชาชนใกล้เคียงเร่งขนของขึ้นที่สูง
ส่วนสถานการณ์ลุ่มเจ้าพระยา ล่าสุดเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำเป็น 2,072 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านนครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรัง ที่ไหลผ่านอุทัยธานีมีปริมาณเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณเขื่อนเจ้าพระยาในอำเภอสรรพยา ระดับน้ำเพิ่มสูง 34 เซนติเมตร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก
ขณะกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ออกประกาศเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ ฉบับที่ 14 คาดว่าในวันที่ 27-30 กันยายน ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นจะทำให้มีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณท้ายเขื่อน ตั้งแต่จังหวัดชัยนาท, สิงห์บุรี และอ่างทอง ไปจนถึงพระนครศรีอยุธยา จะมีน้ำเพิ่มสูงอีก 30 เซนติเมตรถึง 1 เมตร จึงขอให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์
ส่วนที่พระนครศรีอยุธยา พบน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงต่อเนื่อง โดยที่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นตรี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดฯ พบระดับน้ำสูงขึ้น และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดฯ ต้องคอยติดตามเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา และพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) วัดจะระดมพระและเณรช่วยกันติดตั้งแนวบังเกอร์พนังกั้นน้ำ บนเขื่อนคอนกรีตหน้าวัด ขนาดความ ยาว 200 เมตร สูง 2.20 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพราะเกรงว่ามวลน้ำจะเข้าท่วมสถานที่สำคัญ รวมถึงโรงเรียนปริยัติธรรม
และที่อ่างทอง เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินของชาวบ้าน ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก หลังน้ำจากคลองโผงเผงล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหมู่ที่ 1, 2, 3 และ 7 ซึ่งไม่มีเขื่อนหินป้องกันน้ำท่วม ส่วนบางจุดอยู่ระหว่างการก่อสร้างจึงทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว และเพียงไม่กี่ชั่วโมงพบว่าน้ำสูงกว่า 1 เมตรแล้ว โดยปริมาณน้ำในคลองโผงเผงที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มปริมาณระบายน้ำ.-สำนักข่าวไทย