แจ้งจับ “หมอปลา” ให้ร้าย ตร. ปมศูนย์บำบัดยา

ร้อยเอ็ด 24 ก.ย. – ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด แจ้งความดำเนินคดี “หมอปลา” ให้ร้ายตำรวจ กรณีศูนย์บำบัดยาเสพติดที่กาญจนบุรี ยืนยันตำรวจไม่มีเอี่ยวแสวงหาประโยชน์จากผู้บำบัดยาเสพติด


จากกรณี “หมอปลา” นำผู้เสียหายมายังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี หลังพบว่าไม่เป็นไปตามกฎระเบียบของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และเรียกรับเงินการเข้าบำบัด โดยอ้างว่าตำรวจใน จ.ร้อยเอ็ด มีส่วนได้เสียในการนำผู้เสพยาเสพติดไปบำบัด ล่าสุดผู้การร้อยเอ็ดตั้งโต๊ะแถลงการันตีตำรวจไม่มีเอี่ยวแสวงหาประโยชน์จากผู้บำบัดยาเสพติดในวัดดังกล่าว

พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด (ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีเพจหมอปลา กล่าวถึง สภ. มีส่วนได้เสียในการนำผู้เสพยาเสพติดไปบำบัด โดยมีผู้ปกครองนำลูกส่งไปบำบัดกับ ดร.พระมหาณรงค์ พลญาโน พร้อมบัวป่า เจ้าวาสวัดโพนสูง และมีผู้ปกครองที่ไปรับลูกกลับมาแล้วร่วมชี้แจงตอบข้อซักถามและให้ข้อเท็จจริงกับสื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่าตำรวจร้อยเอ็ดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังกล่าวที่ถูกโจมตี โดยไม่มีพื้นฐานของความเป็นจริง


นายจิตติ อาสาตำรวจ ผู้พาเด็กไปเข้าค่ายบำบัด กล่าวว่า ยืนยันว่าการทำงานไม่มีตำรวจเกี่ยวข้อง เป็นการทำเองกับผู้ปกครองเด็กที่อยากให้ลูกได้รับการบำบัด โดยไม่เป็นคดีและไม่เสียประวัติ โดยขอค่าใช้จ่าย 24,000 บาท เป็นค่ารถ ค่าเดินทาง 12,000 บาท นอกเหนือจากนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่วัดที่มอบให้กับพระ เพื่อไปบำบัดที่วัดท่าพุ ยืนยันว่าเงิน 12,000 บาท ที่ได้รับเป็นค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำมันรถ ค่ากินข้าว ค่าอาหาร 2 วัน รวมทั้งต้องจ่ายให้คนช่วยควบคุมตัวเด็กไปด้วยครั้งละ 4 คน คนละ 500-700 บาท เพื่อควบคุมตัวกันเด็กอาละวาดตลอดทาง เมื่อกลับถึงบ้านแทบจะไม่มีอะไรเหลือ เพราะเหลือเงินไม่ถึง 1,000 บาท บางทีเหลือแค่ 700 บาท แทบไม่คุ้มอยู่แล้ว ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไปจ่ายให้ตำรวจตามที่หมอปลากล่าวให้ร้ายตำรวจ โดยไม่มีพื้นฐานของความเป็นจริง

ส่วนคำถามที่ว่าทำไมต้องพาไปไกลถึงกาญจนบุรี ทั้งที่จังหวัดอื่นก็มี นายจิตติ กล่าวว่า แต่ก่อนหน้านั้นได้นำตัวไปส่งที่ขอนแก่น แต่ผู้ป่วยไปอยู่แค่ 10-15 วัน ก็ถูกส่งกลับ แล้วก็กลับมามีปัญหาเลิกยาไม่ได้อีก จากนั้นไปค้นหาขั้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และตรวจสอบดูว่าที่วัดนี้มีการจัดตั้งถูกต้อง จึงสอบถามไปที่วัด ซึ่งได้ดำเนินการแบบนี้มาต่อเนื่องเกือบ 3 ปีแล้ว เพราะอยากให้เด็กได้รับการบำบัด ให้หายมาเป็นคนดี

ขณะที่นางประเสริฐ ผู้ปกครองเด็กที่นำลูกไปบำบัด บอกว่า ยืนยันตำรวจไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตนเองยอมเสียเงิน 25,000 บาท ให้นายจิตติ เพื่อพาลูกชายไปบำบัด ด้วยความสมัครใจ อยากให้ลูกชายได้รับการบำบัด กลับมาเป็นคนดี เสียใจที่เกิดเรื่องขึ้น จนทำให้ต้องไปรับลูกกลับมา เท่ากับเสียเงินเปล่าโดยไม่เกิดประโยชน์ เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านอีก 2 คน ก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน อุตส่าห์นำที่ดินไปจำนองนายทุน หวังเอาเงินไปรักษาลูก สุดท้ายมาเกิดเหตุแบบนี้ ลูกก็ไม่ได้รับการบำบัด เงินก็เสียเปล่า เพราะจ่ายให้วัดไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่


ด้าน พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น จากการโจมตีให้ร้ายของหมอปลา เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ซึ่งตำรวจและคนพาไปจึงแจ้งความดำเนินคดี เพื่อให้เกิดความชัดเจน ยืนยันกับประชาชนที่เข้าใจผิดๆ ได้เข้าใจข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมทางสังคมด้วย ยอมไม่ได้ และส่วนของผู้ปกครองที่เสียเงินแล้วเสียใจว่าจะสูญเปล่า อยากได้รับเงินคืนนั้น อาจจะให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลองช่วยประสานเผื่อช่วยได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง

กทม. 28 ก.ค.-ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง ขณะ ทภ.2 เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม กองทัพไม่สนทางรัฐบาลเจรจา กร้าวเดินหน้ารบ-ประกาศอัยการศึก พร้อมชวนกดรีพอร์ทโพสต์-คอมเมนต์ผู้ไม่หวังดีโจมตีสื่อทางการไทย กองทัพบกทันกระแส รายงานว่าเข้าวันที่ 5 ของสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 3 จนฟ้าเริ่มสาง ทหารไทยยังไม่ได้พักมีทุกแบบ ทั้งคืน นอกจากนี้ กองทัพภาคที่2 ยังได้ขอความร่วมมือ ชาวโซเชียลไทย กดรีพอร์ท Report โพสต์หรือคอมเม้นต์ของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการเข้ามา กลั่นแกล้ง ก่อกวน และโจมตี สื่อทางการไทย พร้อนเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม กรณีที่มีข่าวว่า “กองทัพแข็งกร้าว! ลั่นเดินหน้ารบ ซัดรบ.อย่าหวังเจรจา ขณะเขมรยึดพื้นที่ไทย จ่อใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ”.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย