หนุ่มเกาหลีพังที่กักตัว ถอดเสื้อรำมวยกลาง รพ.

แม่สอด 23 ก.ย.-ตำรวจ สภ.แม่สอด ไล่จับวุ่น หนุ่มเกาหลีคลั่งพังที่กักตัว ก่อนถอดเสื้อรำมวยกลางห้องฉุกเฉิน ตกใจเห็นเจ้าหน้าที่ใส่ชุด PPE นึกว่าชุดพิเศษจากนอกโลก


นายธวัชชัย อ่อนสาร ปลัดป้องกันอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสถานที่กักตัวทางเลือกที่รีสอร์ตชื่อดังแห่งหนึ่ง เขตตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่าเกิดเหตุผู้กักตัวรอดูอาการโควิด-19 ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ คลุ้มคลั่งอาละวาดทำลายทรัพย์สิน ในห้องกักตัวของรีสอร์ตแล้วหลบหนีออก จากสถานที่กักตัว หลังรับหลังแจ้งเหตุกำลังฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ตำรวจ สภ.แม่สอด เข้าตรวจที่เกิดเหตุและออกติดตาม

ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่กักตัวรอดูอาการโควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ โดยที่ห้องกักตัวเกิดเหตุพบข้าวของทรัพย์สินภายในห้องพักถูกรื้อค้นทำลายกระจัดกระจายเสียหายเต็มห้องพัก ส่วนผู้กักตัวเป็นชายชาวเกาหลี ซึ่งเป็นผู้ถูกกักตัว 14 วัน และเป็นผู้ก่อเหตุซึ่งหลังก่อเหตุ ได้วิ่งหลบหนีออกจากห้องกักตัวออกไปโดยไม่ทราบทิศทางหลบหนีซึ่งเป็นทั้งชุมชนและพื้นที่ป่าทางการเกษตรเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่จึงประสานงาน กระจายภาพถ่ายของผู้ก่อเหตุไปตามชุมชนต่างๆ ในเขตชายแดนอำเภอแม่สอด จนเวลาผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง มีชาวบ้านพบตัวชายคนดังกล่าวเดินถอดเสื้ออยู่บนถนนสายแม่สอด-แม่ระมาด มุ่งหน้าไปในตัวเมืองแม่สอดและมีอาการคล้ายคนสติหลุดโลกตะโกนโวยวาย ตลอดเส้นทางการหลบหนีจนชาวบ้านหวาดกลัว


ตำรวจ สภ.แม่สอด และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ที่ออกติดตามตัวสกัดตัวได้ แล้วนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่จุดตรวจตำรวจตำบลแม่ปะ พื้นที่เกิดเหตุจนผู้ก่อเหตุมีท่าทีสงบสติอารมณ์ที่คลุ้มคลั่งลดลง แต่ยังมีอาการหวาดระแวงเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา จนเจ้าหน้าที่ต้องให้ล่ามภาษาประเทศเกาหลีมาช่วยพูดหว่านล้อมจนสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปให้แพทย์ตรวจร่างกายและตรวจโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแม่สอด และซึ่งดูเหมือนทุกอย่างกำลังจะจบลงด้วยดี

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวไปส่งให้ทีมจิตแพทย์และทีมแพทย์พยาบาลหน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่สอด ชายคนดังกล่าวก็ตกใจทีมเจ้าหน้าที่ที่สวมชุดโควิด PPE นึกว่าเป็นชุดพิเศษจากนอกโลก จากการอดนอนมานานและตกใจชาวบ้านในโรงพยาบาล จนเกิดอาการคลุ้มคลั่งหนักขึ้นมาอีกครั้งแบบฉับพลัน จนชาวบ้านหลายคนและผู้ป่วยที่รอการตรวจต้องหนีไปหลบในที่ปลอดภัย ซึ่งอาการคลุ้มคลั่งรอบสองนี้ผู้ก่อเหตุ แสดงอาการจะต่อสู้เจ้าหน้าที่ มีการถอดเสื้อรำมวยเกาหลีแบบพร้อมปะทะหมัดมวย ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยมกล่อมอยู่นาน ไม่ประสบความสำเร็จ ตำรวจสายตรวจ สภ.แม่สอด จึงต้องวิทยุขอกำลังตำรวจมาเสริม

ต่อมาตำรวจเข้าควบคุมตัวได้สำเร็จ ก่อนนำตัวส่งเข้ารักษาตามอาการในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแม่สอด ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทั้งการออกค้นหาติดตามและเข้าสยบชายเกาหลีคลุ้มคลั่งรายนี้ใช้เวลารวมหลายชั่วโมง ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์นี้เมื่อ 7 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สอดได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งพยายามจะเดินทางโดยเครื่องบินออกจากอำเภอแม่สอดไปกรุงเทพได้ที่สนามบินนานานชาติแม่สอด ซึ่งวันนั้นผู้ก่อเหตุไม่สามารถแสดงไทม์ไลน์การพักอาศัยในอำเภอแม่สอดได้ เจ้าหน้าที่จึงสงสัยว่าอาจหลบหนีข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในอำเภอแม่สอด จึงต้องส่งตัวไปกักตัวเพื่อดูอาการและเข้าตรวจโควิด-19 ตามระเบียบของจังหวัดตาก


แต่พอกักตัวไปได้ 7 วัน ชายคนดังกล่าวเกิดอาการนอนไม่หลับนานต่อเนื่องสองวันจนเกิดอาการเครียดจัดจากอาการอยากกลับบ้านและเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของภายในที่พักสถานที่กักตัว แล้วหลบหนีออกจากที่กักตัวจนเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานหลายชั่วโมง ทั้งออกติดตามหาตัวและเข้าคลี่คลายสถานการณ์ได้แบบไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด ทีมแพทย์โรงพยาบาลแม่สอดได้เข้าตรวจร่างกายและรักษาเบื้องต้นจนอาการดีขึ้นก่อนส่งตัวให้ตำรวจ สภ.แม่สอด ดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย