นครราชสีมา 23 ก.ย. – ยายมิตร์ อายุ 84 ปี ชาว อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถูกหลานสาวแอบเอาโฉนดที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้นอกระบ 8,000 บาท แต่หลานสาวขาดการติดต่อ และขาดส่งเงินมา 3 ปี ยอดหนี้พุ่งเป็น 350,000 บาท ไม่มีเงินใช้หนี้ สุดท้ายต้องถูกยึดบ้าน
ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พับกับยายมิตร์ เกรียมมะเริง อายุ 84 ปี เลี้ยงเหลนวัย 3 ขวบ อยู่ลำพังในบ้านพักซอยเดชอุดม 22 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด้วยเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท แถมบ้านกำลังจะถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบยึด ให้เวลาอีก 3 เดือน ต้องย้ายออกจากบ้าน หลังจากหลานสาวแท้ๆ แอบนำเอาโฉนดที่ดินไปกู้เงินนอกระบบ 8,000 บาท แต่หลานสาวหายหน้าหายตา ขาดการติดต่อ และขาดส่งเงินมา 3 ปี ยอดหนี้เพิ่มทวีคูณเป็น 350,000 บาท จนต้องถูกยึดบ้าน
ยายมิตร์ เล่าว่า ก่อนนี้ตนพักอาศัยบ้านหลังนี้กับเหลนวัย 3 ขวบ ส่วนพ่อแม่เด็กไปทำงานกรุงเทพฯ ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดู ขณะที่สามีและลูกชายอีก 2 คน เสียชีวิตแล้ว ตนจึงต้องทำงานรับจ้างทั่วไปหาเงินเลี้ยงเหลนเพียงลำพัง และอาศัยเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท ซื้อนมให้เหลนกิน แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่มีเพื่อนบ้านใจบุญช่วยดูแล เพราะสงสาร
ส่วนสาเหตุที่บ้านโดนยึดเพราะหลานสาวแอบนำเอาโฉนดบ้านและที่ดินไปจำนอง เริ่มจากกู้เงินแค่ 8,000 บาท แต่เจ้าหนี้ปรับเพิ่มทวีคูณจนยอดกลายเป็น 350,000 บาท แถมเจ้าหนี้เอาโฉนดไปประกาศขายต่อ มีผู้มาซื้อบ้านแล้ว ทำให้ยายทวดและเหลนกำลังถูกไล่ที่ ให้โอกาสอยู่ได้อีกแค่ 3 เดือน ยายมิตร์เผยรู้สึกเสียใจมาก ไม่รู้จะนำเงินที่ไหนมาใช้หนี้ อยากวิงวอนให้นายทุนช่วยผ่อนปรนเรื่องหนี้ พอให้ยายและเหลนได้มีบ้านไว้ซุกหัวนอน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีจิตเมตตา อยากบริจาคเงินสมทบทุนช่วยยายมิตร์ไถ่ถอนบ้านและที่ดิน สามารถบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาตลาดเซฟวันนครราชสีมา ชื่อบัญชี น.ส.มิตร์ เกรียมมะเริง เลขบัญชี 604-1-22029-0 .-สำนักข่าวไทย