ลำปาง 22 ก.ย.- พาไปดูความแปลกของต้นจิ๊เดียม หรือต้นจั๊กกะจี้ แค่ชื่อก็แปลกแล้ว แต่ถ้าลองได้ไปใช้มือลูบๆ ยิ่งแปลก เพราะมันจะดิ้นดิ๊กๆ เหมือนจั๊กกะจี้ จากการถูกสัมผัส
ที่ภายในวัดสบลี ตำบลเมืองปาน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง พระปลัดระฌานนท์ ปสนฺโน เจ้าอาวาสวัดสบลี เจ้าคณะตำบลแจ้ซ้อน พาชมความแปลกของต้นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่ง ซึ่งที่จังหวัดลำปางชาวบ้านเรียกว่า “ต้นจิ๊เดียม” ความแปลกคือเมื่อเอามือลูบเบาๆ ที่ลำต้น จะเห็นว่าบริเวณปลายกิ่งใบจะเริ่มขยับดิ้นไปมาเหมือนกับอาการจั๊กจี้
ผู้สื่อข่าวก็เลยลองพิสูจน์ดูว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หรือว่ามีการลูบลำต้นแรงจนทำให้ต้นสั่นไหว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเอามือเพียงนิ้วเดียวลูบเบาๆ ที่ลำต้น แค่สัมผัสเพียงเบาๆ วนไปมา กิ่งใบก็เกิดอาการดิ้นจริง ซึ่งถือว่าแปลกมากเหมือนกับต้นไม้มีความรู้สึก คล้ายกับว่าเมื่อถูกตัว (ลำต้น) ก็จะรู้สึกจั๊กกะจี้ ชาวบ้านที่อยู่ละแวกดังกล่าว เมื่อทราบก็พากันมาพิสูจน์เช่นกัน ซึ่งบางคนบอกว่าอาจจะเกิดจากลมพัด แต่เมื่อมายืนอยู่ที่ต้นไม้และรอให้ต้นไม้นิ่งสนิทและลองเอามือลูบที่ลำต้นเบาๆ พบว่าปลายกิ่งใบของต้นจิ๊เดียมก็ดิ้นสั่นไหวเช่นกัน
พระปลัดระฌานนท์ เล่าว่าต้นจิ๊เดียมนี้ที่วัดมีเพียงต้นเดียว อายุประมาณ 3 ปี ปกติจะขึ้นตามป่าในธรรมชาติและในจังหวัดลำปางจะขึ้นเพียงในหมู่บ้านสบลีเท่านั้น ถือเป็นต้นไม้เฉพาะพื้นที่ เคยมีคนนำไปปลูกพื้นที่อื่นก็ตายหมด จากที่ฟังชาวบ้านเล่าคือเดิมชาวบ้านไปหาของป่าและไปเจอต้นไม้ลักษณะนี้ขึ้น เมื่อเอามือไปจับที่ต้นก็พบความแปลกคล้ายคนที่จั๊กกะจี้ จึงได้เรียกว่าต้นจิ๊เดียมตามภาษาพื้นบ้านของลำปาง
สำหรับ “ต้นจิ๊เดียม” หรือ “ต้นดิ๊กเดียม” มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น ส่วนที่จะกระดิกได้ คือ ตรงโคนใบ ดอก นอกจากนี้ต้นจิ๊เดียม ส่วนที่เป็นดอกสามารถช่วยฆ่าพยาธิ ใบเอามาขยี้ทาแก้กลากเกลื้อน น้ำมันในเมล็ดนำมาทาแก้แผลมะเร็ง โรคเรื้อน รากช่วยแก้เสมหะเป็นพิษ แก้อาการอาหารไม่ย่อยในเด็ก เปลือกช่วยแก้ริดสีดวง และใบก็นำมาตำพอกรักษาแผลสด และไม้จากต้นดิกเดียมนำมาใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องกลึง แกะสลัก หวี กระสวยได้อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย