กาญจนบุรี 20 ก.ย.-ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี สั่งย้ายผู้บำบัดยาเสพติดกว่า 300 คน ที่วัดท่าพุ ไปพักคอยที่ค่ายทหาร ศูนย์ รด.เขาชนไก่ หลังมีผู้ปกครองร้อนเรียนว่าลูกชายถูกทรมาน-ทำร้ายร่างกาย
ความคืบหน้า กรณีผู้ปกครองของชายวัยรุ่นคนหนึ่ง ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย ที่เป็นผู้ติดยาเสพติดและเข้ารับการบำบัด ที่ศูนย์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฏร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ว่าลูกชายของตนถูกเจ้าหน้าที่ของทางศูนย์บำบัดกักขังหน่วงเหนี่ยว และมีการทรมานทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บหนัก ทำให้ทางผู้เป็นแม่ต้องตัดสินใจเดินทางไปรับตัวลูกกลับออกมาจากศูนย์บำบัดพร้อมเดินหน้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อหลายหน่วยงานตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมนายจิรพันธ์ เพชรขาว หรือ “หมอปลา” เดินทางมาที่วัดท่าพุ เพื่อขอดูสถานที่เกิดเหตุและสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลการบริหารจัดการศูนย์ฟื้นฟู โดยมีการหารือร่วมกับ นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย ยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ผกก.สภ.ด่านมะขามเตี้ย สาธารณสุขอำเภอด่านมะขามเตี้ย โดยทนายไพศาล ได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่มีการร้องเรียนในกรณีเรียกเก็บเงิน การทำร้ายร่างกาย และเรื่องเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์บำบัดตามระเบียบกฎหมาย และได้ขอให้ทางศูนย์บำบัดช่วยเปิดอาคารโรงเรือนนอนที่มีผู้บำบัดจำนวน 216 คน ที่อยู่ภายในอาคารดังกล่าว แต่ทางผู้รับผิดชอบไม่สามารถตัดสินใจได้ ต่อมา หมอปลาได้โทรศัพท์ถึง นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี เพื่อขอให้ช่วยเหลือผู้บำบัดที่ถูกขังอยู่อาคารดังกล่าว อย่างเร่งด่วน
กระทั่ง เวลา 17.00 น. นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี พร้อมคณะเดินทางมาที่วัดท่าพุ เพื่อรับทราบสถานการณ์และแก้ไขปัญหาเบื้องต้นการ โดยหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนได้ข้อสรุป คือ ประสานผบ.มทบ.17 สนับสนุนรถและกำลังทหารร่วมทำการขนย้ายผู้บำบัดในอาคารโรงนอนไปพักรอที่ศูนย์ฝึก รด.เขาชนไก่ ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี โดย นายจีระเกียรติ กล่าวว่า มาดูแล้วพบว่าสถานที่บำบัดแออัด เบื้องต้นเพื่อให้เกิดความสบายใจทุกฝ่าย ทางจังหวัดกาญจนบุรีจะขนย้ายผู้บำบัดทั้งหมดประมาณ 300 คน ไปพักคอยที่ค่ายทหาร ศูนย์ รด.เขาชนไก่ โดยจะมีการคัดกรองโรคระบาดตามกระบวนการสาธารณสุขด้วย หลังจากนั้นจะประสานญาติและผู้ปกครองของแต่ละคนเพื่อมารับตัวกลับ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ซึ่งจะขนย้ายคืนนี้เลย ส่วนเรื่องการร้องเรียนตรวจสอบก็เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุการณ์สลดขึ้น เมื่อพระครูปลัดประสิทธิ์ ลตินธโร เจ้าอาวาสวัดท่าพุราษฏร์บำรุง ได้มรณภาพลงก่อนที่ทางทีมงานของทนายไพศาลจะเดินทางมาถึงที่วัดเพียง 15 นาที โดยผู้อำนวยการศูนย์บำบัด วัดท่าพุราษฏร์บำรุง ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า แต่เดิม เจ้าอาวาสวัดท่าพุ มีสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว ประกอบกับ เมื่อไม่กี่วันก่อนมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับวัดท่าพุราษฏร์บำรุง ทำให้หลวงพ่อเกิดอาการเครียดและอาการทรุดลง จนลูกศิษย์ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนที่เจ้าอาวาสจะมรณภาพ ก่อนที่คณะของทนายศาล จะเดินทางมาถึงวัดเพียง 15 นาที .-สำนักข่าวไทย