ประจวบคีรีขันธ์ 19 ก.ย.- หลายหน่วยงานใน จ.ประจวบฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสี่แยกวัดใจบริเวณโรงกาแฟ รอยต่อหมู่ 1 บ้านหนองเกตุ และหมู่ 3 บ้านหาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเร่งแก้ไขอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งบริเวณเเยกนี้
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะเกิดอุบัติเหตุ รถของกรมทางหลวงชนบทชนเข้ากับรถตู้ บริเวณสี่แยกโรงกาแฟ รอยต่อหมู่ 1 บ้านหนองเกตุ และหมู่ 3 บ้านหาดขาม ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บจำนวน 7 คน หลังเกิดเหตุนายสมพงค์ สุขประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการแขวงทางหลวงชนบทประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง อบต.หาดขาม ตำรวจทางหลวง สภ.บ้านยางชุม สสส.ประจวบฯ และกู้ภัย เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งบริเวณ 4 แยกแห่งนี้ ก่อนเผยว่า แขวงทางหลวงชนบทจะเร่งลงมือแก้ไขเร่งด่วนในระยะสั้น ได้แก่การเปลี่ยนสัญญาณไฟให้ถนนเส้น ปข.1002 บ้านบน-บ้านยางชุม ซึ่งเป็นเส้นหลัก เป็นสัญญาณไฟกระพริบสีเหลือง ส่วนถนนสาย ปข.1014 บ้านไร่บน-บ้านหนองกระทิง เป็นสัญญาณไฟกระพริบสีแดง ทั้งจะนำแบริเออร์ และเพิ่มป้ายให้มีความถี่มากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้รถรู้ว่าเมื่อถึงจุดนี้จะต้องชะลอความเร็ว ส่วนการแก้ไขในระยะยาว คงต้องศึกษาความเป็นไปได้อีกครั้งหนึ่ง อาจจะทำเป็นวงเวียน หรือทำเกาะกลาง เพื่อบังคับการเลี้ยว หรืออาจเป็นสัญญาณไฟต่างๆ
ด้านนายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขามกล่าวว่า สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเจ้าหน้าที่มาติดตั้งสัญญาณไฟกระพริบผิดด้าน เพราะคนในพื้นที่จะรู้ดีว่า ถนนเส้นไหนเป็นเส้นหลักและเส้นรอง แต่คนต่างถิ่นขับมาในถนนเส้นรอง เห็นไฟสีส้มกระพริบ ก็คิดว่าตนเองเป็นเส้นหลักจึงไม่หยุดรถ ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ ที่ขับรถมาอีกเส้นหนึ่งด้วยความเคยชินว่าถนนที่ตนวิ่งอยู่เป็นเส้นหลัก ก็ไม่ได้หยุดรถเช่นเดียวกัน จึงเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ความเห็นส่วนตัวยังยืนยันว่า การสร้างวงเวียนน่าจะเป็นทางออกที่ดี ที่คาดว่าการเกิดอุบัติเหตุน่าจะเป็นศูนย์ หรืออาจเกิดขึ้นน้อยมาก ไม่เหมือนเช่นทุกวันที่เกิดเหตุทุกอาทิตย์.-สำนักข่าวไทย