เจ้าของรีสอร์ตทรุด เห็นสภาพห้องถูกรื้อทำลาย

ตรัง 17 ก.ย. – เจ้าของรีสอร์ตบนเกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ถึงกับทรุด ถูกโจรบุกรื้อห้อง ขโมยสายไฟไปขาย มูลค่าความเสียหายคาดมากกว่า 1 ล้านบาท


รีสอร์ตของนายอภิรมย์ รักไทย อายุ 57 ปี และนางทัชวรรณ รักไทย อายุ 59 ปี พื้นที่ ม.1 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังโดนคนร้ายทุบกระจก รื้อฝ้าเพดานในห้องพัก หลังปิดช่วงโควิด-19 เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา

ล่าสุด พ.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง พนักงานสอบสวน สภ.ปะเหลียน ตำรวจประจำเกาะสุกร พร้อมนายอภิรมย์ รักไทย และนางทัชวรรณ รักไทย สามีภรรยา เจ้าของสุกร คาบาน่า รีสอร์ท ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุห้องพักในรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เมื่อเที่ยวมาเกาะสุกรต้องแวะพักเช็กอินที่แห่งนี้ เพราะเป็นที่พักติดริมทะเล อยู่บนเนิน มองเห็นเกาะเหลาเหลียง เกาะเภตรา เปิดประตูออกมาเห็นวิวทะเล สัมผัสบรรยากาศ 180 องศา


จากการสำรวจสภาพห้องพักพบว่า นอกห้องพักยังอยู่ในสภาพดี หลังคาด้านนอกยังสมบูรณ์ แต่ในห้องกลับพบร่องรอยทุบทำลายประตูกระจกที่ล็อกประตูไว้ บนฝ้าเพดานโดนรื้อลงมาเกือบทั้งหมด เพื่อเอาสายไฟที่เดินอยู่ในท่อพีวีซีใต้ฝ้าเพดาน ดึงไปเฉพาะสายไฟ ทำให้ฝ้าเพดานหล่นมาที่พื้นด่านล่างพังเสียหายทุกห้องพัก นอกจากนี้ยังพบแอร์ที่ยังมีสภาพใช้งานได้ดี โดนรื้อเอาเฉพาะแผงทองแดงออกมา และอะลูมิเนียมที่แขวนผ้าม่านก็โดนถอดออก เหลือเพียงผ้าม่านทิ้งไว้ ทำให้ระบบไฟฟ้าแผงวงจรทุกห้องเสียหายทั้งหมด และยังพบหลักฐานคือ ไม้ยาว 3 เมตร ที่ใช้ทุบทำลาย และใช้กระทุ้งฝ้าเพดาน พบวางไว้ในห้องพัก

ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างประเมิน เบื้องต้นแต่ละห้องความเสียหายไม่น้อยกว่า 300,000 บาท รวมบ้านพัก 9 หลัง 14 ห้องนอน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 2 ล้านบาท ทำเอาเจ้าของท้อใจ ไม่กล้าลงทุนต่อ หวั่นความปลอดภัยและเกิดเหตุซ้ำ จึงวอนท้องที่และท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงนายก อบต.เกาะสุกร เข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ส่วนกล้องวงจรปิดของรีสอร์ตที่เคยติดตั้งไว้ก่อนโควิด-19 นาน 2 ปี ทำให้กล้องวงจรชำรุดเสียหาย เนื่องจากไอทะเลกัดกร่อน จึงไม่สามารถใช้งานได้

ขณะที่ตำรวจลงตรวจสอบและเก็บข้อมูล รวบรวมพยานหลักฐานและพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงไปถึงตัวคนร้าย ส่วนมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้ โดยวันนี้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนขั้นตอนต่อไปเตรียมประสานให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง เข้ามาเก็บวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อหาตัวคนร้าย ส่วนตัวคนร้ายตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนหาประจักษ์พยานให้เร็วที่สุด และจะทำให้เต็มที่


ตอนนี้พอจะพบเบาะแสคนร้ายบ้างแล้ว เนื่องจากของกลางบางส่วนที่คนร้ายนำไปขายในร้านขายของเก่า มีเจ้าของร้านขายของเก่านำมาส่งมอบให้ตำรวจ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเป็นการบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์

ด้านนายอภิรมย์ รักไทย ยอมรับว่าหนักมาก ไม่ใช่เป็นแค่การลักขโมยธรรมดา เท่ากับถูกทำลายทรัพย์สินให้เสียหาย ตอนนี้ประเมินค่าเสียหายล้านหนึ่งก็เอาไม่อยู่ ซึ่งค่าเสียหาย 1 ล้านบาทขึ้นไป ตนเองจะต้องไปประเมินราคาอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพราะถูกทำลายไป 9 หลัง 14 ห้องนอน โดนทำลายหมด เพื่อเอาของไปขายแปรสภาพเป็นของเก่าหมด แต่ส่วนเสียหายไม่คุ้มค่า ตอนนี้ขาดความมั่นใจที่จะลงทุนต่อในเกาะ ยอมรับว่าเมื่อก่อนคนพื้นที่ในเกาะคือดี แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น นักลงทุนที่ไหนจะกล้ามาลงทุนถ้าพบเห็นสภาพแบบนี้ ผู้นำในท้องถิ่นควรช่วยกันเข้ามาดูแลด้วย ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยผู้ประกอบการให้เขาดูแลกันเอง หากถามว่าต่อไปจะกล้าลงทุนอีกไหม ตอบเลยว่าคิดหนักมาก หากลงทุนต่อแล้วจะคุ้มค่าไหม หากมาเจอในช่วงปิดที่เข้าหน้าโลว์ซีซั่น โจรมันจะเข้ามาขโมยอีกไหม ถามว่าอนาคตจะเกิดอีกไหม รับประกันไม่ได้เลย จากที่เราเปิดรีสอร์ตนี้มาเกือบ 20 ปี นี่คือเหตุการณ์ครั้งแรกที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยอมรับว่าหนักสุดๆ แต่ก่อนเคยทิ้งรีสอร์ตไว้ 1-2 เดือน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีของหาย ไม่มีคนนอนเฝ้า ไม่ได้จ้างคนเข้ามาดูแลด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรหายหรือได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่ตอนนี้ 3-4 วัน มาเฝ้า 2-3 วัน มาดู ก็ยังเจอว่ามีโจรเข้ามาลักขโมยเรื่อยๆ หากเปิดเกาะสุกรได้ก็ยังหวั่นกลัวไปจนถึงนักท่องเที่ยวอีกด้วยว่าจะโดนโจรกรรมสิ่งของ หากนักท่องเที่ยวไปเที่ยวแล้วตอนกลางคืน โดนขโมย มีโอกาสเป็นไปได้หมด หากตำรวจจับคนร้ายได้ตนเองจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด

เบื้องต้นพอจะรู้กลุ่มตัวคนร้ายแล้ว เนื่องจากร้านที่รับซื้อของเก่าร้านหนึ่งในเกาะสุกรนำของกลางไปให้ตำรวจท้องที่ประจำเกาะสุกร คาดว่าเป็นของที่ขโมยมา แต่ในส่วนสิ่งของอื่นๆ ไม่รู้ว่ากระจัดกระจายไปอยู่ที่ไหนบ้าง แต่อาจจะเป็นใครบ้างนั้น ยังอยู่ระหว่างการติดตามสืบสวนสอบสวนของตำรวจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย