เจ้าของรีสอร์ตทรุด เห็นสภาพห้องถูกรื้อทำลาย

ตรัง 17 ก.ย. – เจ้าของรีสอร์ตบนเกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ถึงกับทรุด ถูกโจรบุกรื้อห้อง ขโมยสายไฟไปขาย มูลค่าความเสียหายคาดมากกว่า 1 ล้านบาท


รีสอร์ตของนายอภิรมย์ รักไทย อายุ 57 ปี และนางทัชวรรณ รักไทย อายุ 59 ปี พื้นที่ ม.1 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังโดนคนร้ายทุบกระจก รื้อฝ้าเพดานในห้องพัก หลังปิดช่วงโควิด-19 เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา

ล่าสุด พ.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง พนักงานสอบสวน สภ.ปะเหลียน ตำรวจประจำเกาะสุกร พร้อมนายอภิรมย์ รักไทย และนางทัชวรรณ รักไทย สามีภรรยา เจ้าของสุกร คาบาน่า รีสอร์ท ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุห้องพักในรีสอร์ตที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว เมื่อเที่ยวมาเกาะสุกรต้องแวะพักเช็กอินที่แห่งนี้ เพราะเป็นที่พักติดริมทะเล อยู่บนเนิน มองเห็นเกาะเหลาเหลียง เกาะเภตรา เปิดประตูออกมาเห็นวิวทะเล สัมผัสบรรยากาศ 180 องศา


จากการสำรวจสภาพห้องพักพบว่า นอกห้องพักยังอยู่ในสภาพดี หลังคาด้านนอกยังสมบูรณ์ แต่ในห้องกลับพบร่องรอยทุบทำลายประตูกระจกที่ล็อกประตูไว้ บนฝ้าเพดานโดนรื้อลงมาเกือบทั้งหมด เพื่อเอาสายไฟที่เดินอยู่ในท่อพีวีซีใต้ฝ้าเพดาน ดึงไปเฉพาะสายไฟ ทำให้ฝ้าเพดานหล่นมาที่พื้นด่านล่างพังเสียหายทุกห้องพัก นอกจากนี้ยังพบแอร์ที่ยังมีสภาพใช้งานได้ดี โดนรื้อเอาเฉพาะแผงทองแดงออกมา และอะลูมิเนียมที่แขวนผ้าม่านก็โดนถอดออก เหลือเพียงผ้าม่านทิ้งไว้ ทำให้ระบบไฟฟ้าแผงวงจรทุกห้องเสียหายทั้งหมด และยังพบหลักฐานคือ ไม้ยาว 3 เมตร ที่ใช้ทุบทำลาย และใช้กระทุ้งฝ้าเพดาน พบวางไว้ในห้องพัก

ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างประเมิน เบื้องต้นแต่ละห้องความเสียหายไม่น้อยกว่า 300,000 บาท รวมบ้านพัก 9 หลัง 14 ห้องนอน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 2 ล้านบาท ทำเอาเจ้าของท้อใจ ไม่กล้าลงทุนต่อ หวั่นความปลอดภัยและเกิดเหตุซ้ำ จึงวอนท้องที่และท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงนายก อบต.เกาะสุกร เข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ ส่วนกล้องวงจรปิดของรีสอร์ตที่เคยติดตั้งไว้ก่อนโควิด-19 นาน 2 ปี ทำให้กล้องวงจรชำรุดเสียหาย เนื่องจากไอทะเลกัดกร่อน จึงไม่สามารถใช้งานได้

ขณะที่ตำรวจลงตรวจสอบและเก็บข้อมูล รวบรวมพยานหลักฐานและพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงไปถึงตัวคนร้าย ส่วนมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้ โดยวันนี้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนขั้นตอนต่อไปเตรียมประสานให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง เข้ามาเก็บวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อหาตัวคนร้าย ส่วนตัวคนร้ายตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนหาประจักษ์พยานให้เร็วที่สุด และจะทำให้เต็มที่


ตอนนี้พอจะพบเบาะแสคนร้ายบ้างแล้ว เนื่องจากของกลางบางส่วนที่คนร้ายนำไปขายในร้านขายของเก่า มีเจ้าของร้านขายของเก่านำมาส่งมอบให้ตำรวจ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นเป็นการบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์

ด้านนายอภิรมย์ รักไทย ยอมรับว่าหนักมาก ไม่ใช่เป็นแค่การลักขโมยธรรมดา เท่ากับถูกทำลายทรัพย์สินให้เสียหาย ตอนนี้ประเมินค่าเสียหายล้านหนึ่งก็เอาไม่อยู่ ซึ่งค่าเสียหาย 1 ล้านบาทขึ้นไป ตนเองจะต้องไปประเมินราคาอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพราะถูกทำลายไป 9 หลัง 14 ห้องนอน โดนทำลายหมด เพื่อเอาของไปขายแปรสภาพเป็นของเก่าหมด แต่ส่วนเสียหายไม่คุ้มค่า ตอนนี้ขาดความมั่นใจที่จะลงทุนต่อในเกาะ ยอมรับว่าเมื่อก่อนคนพื้นที่ในเกาะคือดี แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไป นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น นักลงทุนที่ไหนจะกล้ามาลงทุนถ้าพบเห็นสภาพแบบนี้ ผู้นำในท้องถิ่นควรช่วยกันเข้ามาดูแลด้วย ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยผู้ประกอบการให้เขาดูแลกันเอง หากถามว่าต่อไปจะกล้าลงทุนอีกไหม ตอบเลยว่าคิดหนักมาก หากลงทุนต่อแล้วจะคุ้มค่าไหม หากมาเจอในช่วงปิดที่เข้าหน้าโลว์ซีซั่น โจรมันจะเข้ามาขโมยอีกไหม ถามว่าอนาคตจะเกิดอีกไหม รับประกันไม่ได้เลย จากที่เราเปิดรีสอร์ตนี้มาเกือบ 20 ปี นี่คือเหตุการณ์ครั้งแรกที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยอมรับว่าหนักสุดๆ แต่ก่อนเคยทิ้งรีสอร์ตไว้ 1-2 เดือน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีของหาย ไม่มีคนนอนเฝ้า ไม่ได้จ้างคนเข้ามาดูแลด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรหายหรือได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่ตอนนี้ 3-4 วัน มาเฝ้า 2-3 วัน มาดู ก็ยังเจอว่ามีโจรเข้ามาลักขโมยเรื่อยๆ หากเปิดเกาะสุกรได้ก็ยังหวั่นกลัวไปจนถึงนักท่องเที่ยวอีกด้วยว่าจะโดนโจรกรรมสิ่งของ หากนักท่องเที่ยวไปเที่ยวแล้วตอนกลางคืน โดนขโมย มีโอกาสเป็นไปได้หมด หากตำรวจจับคนร้ายได้ตนเองจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด

เบื้องต้นพอจะรู้กลุ่มตัวคนร้ายแล้ว เนื่องจากร้านที่รับซื้อของเก่าร้านหนึ่งในเกาะสุกรนำของกลางไปให้ตำรวจท้องที่ประจำเกาะสุกร คาดว่าเป็นของที่ขโมยมา แต่ในส่วนสิ่งของอื่นๆ ไม่รู้ว่ากระจัดกระจายไปอยู่ที่ไหนบ้าง แต่อาจจะเป็นใครบ้างนั้น ยังอยู่ระหว่างการติดตามสืบสวนสอบสวนของตำรวจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย